บทความทั้งหมด
รวม VDO
Google เนี่ยแหละค่ะ กุนซูที่ปรึกษาอันดับต้นๆ เลย โดยปกติแล้ว ก่อนที่ 2 สาวมิสกะโปโลและทิปิจัง จะลงมือแพลนทริปเที่ยวต่างประเทศ ต้องบิ๊วค่ะ เห็นรูปสถานที่สวยๆ โฉบผ่านสายตาบนเฟสบุ๊คที ได้ยินคนโน้นคนนี้เล่าที (ทั้งไทยและเทศ) ก็เริ่มจะอยากไป ต่อมใจง่ายอ่อนไหวและทำงานไวมาก แต่แหม ปีนึงจะไปได้ซักกี่ครั้ง และจากนี้ไปจะมีแรงเที่ยวได้อีกกี่ปี 555 ก็ต้องสกรีนกันนิดนึง ซึ่งถ้าคอนเฟิร์มกับลุงกู๋แล้วบิ๊วขึ้นนะคะ (ประมาณว่า ใจชั้นไปแล้ว) จะติดจรวดไปต่อกันที่ญาติของลุงกู๋ คือ Google Map ปักหมุดดูเส้นทาง ช่วงไหนขับรถ เส้นไหนนั่งรถไฟ คำนวณวันเวลาปรู๊ดปร๊าด แล้วหยิบปฏิทินมานับวัน เตรียมลางานล่วงหน้าเลยค่ะ
นอกจากนี้ สำหรับทริปสำคัญทั้งที มิสกะโปโลและทิปิจังก็มีตัวช่วยด้วยสิคะ จะได้ลงรายละเอียดและบิ๊วความอยากจะเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก ตัวช่วยต่างๆ ก็ตามนี้เลยค่ะ
ตัวช่วยแพลนทริป
สำหรับทริปยุโรป guide book ภาษาอังกฤษของ Rick Steve ช่วยได้มากเลย มีคำแนะนำและทริ้คต่างๆ ที่ Rick Steve เก็บเอามาฝากจากทริปจริง เช่น จอดรถตรงไหนได้บ้าง เส้นทางเดินสำรวจเมืองไปทางไหนดี ฯลฯ ละเอียดดีเหมือนกัน อ่านแล้วเพลิน ช่วยบิ๊วได้ดีทีเดียว เสียดายมีไม่ครบทุกประเทศ บางประเทศถ้าหา Rick Steve ไม่เจอ ก็จะดูๆ ตัวเลือกอื่น เช่น Eyewitness Travel ซึ่งก็มีรูปและแผนที่ประกอบสีสันสวยงาม น่าอ่าน แต่แบบที่อ่านแล้วเหมือนตำราประวัติศาสตร์ ขอบายนะคะ ไม่ใช่สไตล์เลยค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน คงแล้วแต่ชอบเนอะ :) |
ถ้าเป็นญี่ปุ่นก็จะแพลนได้ง่ายกว่ามาก เพราะอยู่ในสายเลือดของทิปิจังอยู่แล้ว ประมาณว่าถ้าคิดอะไรไม่ออกไปญี่ปุ่นอีกก็ได้ 555 แต่ไปหลายครั้งเข้าก็อยากหาที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม ซึ่งก็มีตัวช่วยหลัก คือ www.japan-guide.com นี่แหละค่ะ ที่ให้ข้อมูลแทบจะครบทุกอย่าง ทั้งสถานที่ แผนที่ วิธีการเดินทาง ฯลฯ รวมถึงข้อมูลตามฤดูกาล เช่น ซากุระบานถึงไหนแล้ว ใบไม้แดงใกล้พีครึยัง หรือสถานที่ไหนปิดซ่อมอะไรยังงัย แค่ไหนแล้ว เป็นต้น หากมีที่เที่ยวใหม่ก็ตามมาใส่เพิ่มเรื่อยๆ เรียกว่าอัพเดทสุดๆ แพลนทริปญี่ปุ่นกี่ทีๆ ก็ต้องแวะมาเว็บนี้ |
แล้วถ้าต้องนั่งรถไฟ ก็มี Hyperdia มาช่วยแพลนเส้นทางและเวลาในการเดินทางได้อีก ถ้ารู้ชื่อสถานีต้นทางและปลายทางอยู่แล้วนะคะ สามารถใช้บริการจากเว็บนี้ได้สะดวกเลย ตัวเลือกมีทั้งรถไฟ JR และไม่ JR รถไฟธรรมดา รถไฟใต้ดิน รถไฟด่วน รถไฟหัวกระสุนชินคันเซน ฯลฯ แต่ถ้ายังไม่รู้ชื่อสถานีดีพอ แนะนำว่าไปแอบส่องจาก Google map มารอบนึงก่อน ดูซิว่ารอบๆ สถานที่ๆ เราต้องการไปอยู่ใกล้สถานีอะไร แล้วค่อยมาเช็คตารางเวลาจากเว็บนี้ก็ได้ |
ถ้าเป็นทริปใกล้บ้าน ตามแถบประเทศเพื่อนบ้าน แถวๆ AEC หรือในเอเชียอื่นๆ รวมทั้งญี่ปุ่นด้วย นอกจากอากู๋และ pantip แล้ว ก็ขอแนะนำ guide book ภาษาไทยของสำนักพิมพ์ Dplus ซึ่งขอออกตัวเลยว่าเชียร์เป็นพิเศษจริงๆ เคยอ่านมาหลายเล่มแล้ว เค้ารู้ละเอียดรู้ลึกจริงๆ เป็นหนึ่งในไกด์บุ๊คไทย ที่ให้รายละเอียดได้ครบแบบไม่ได้ลอกใครมา ช่วงหลังๆ เห็นออกโซนยุโรปมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นเมืองยอดนิยมในประเทศหลักๆ เท่านั้น |
ตัวช่วยนี้ใช้งานบ่อยมาก เพราะไม่ว่าจะโรงแรม หรือบริษัททัวร์โลคัล ต้องเข้าไปเช็คเรทติ้งและรีวิวจาก TripAdvisor ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องจ่ายค่าจองต่างๆ ล่วงหน้า รีวิวจากประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้บริการจริง จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คนเรายิ่งไม่เคยเห็นไม่รู้จักกัน อยู่ดีจะโอนเงินให้กันข้ามไปอีกฟากโลก ก็ต้องเห็นหลักฐานยืนยันประมาณนึง ว่าคนอื่นๆ ไม่มีปัญหา ถึงค่อยมั่นใจ นอกจากนี้เวลาหาร้านอาหารในต่างประเทศ บรรดาร้านที่ติดอันดับแนะนำในเว็บนี้ไม่เคยทำให้ต้องเสียใจเลย (นอกจากว่าลูกค้าแน่นตลอด เลยอด 555) |
โรงแรมที่พัก
ในต่างประเทศ หลักๆ จะใช้บริการ Booking เพราะใช้มานานแล้วไม่เคยมีปัญหา และมีตัวเลือกที่ไม่ต้องเสียค่าจองล่วงหน้า บวกกับสามารถยกเลิกการจองได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม (free cancellation) ราคามักรวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว (แต่ถ้ามีเพิ่มเติมพิเศษ เช่น city tax ก็มักเขียนบอกไว้แต่แรกแล้ว) นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องทิ้งเบอร์บัตรเครดิตไว้ในระบบ สามารถเลือกใส่เองเพื่อการันตีการจองเป็นครั้งๆ ได้ แต่ในบางประเทศ หรือบางพื้นที่ๆ Booking อาจมีตัวเลือกไม่เยอะนัก หรือที่มียังไม่ค่อยถูกใจ ก็อาศัย Google หรือ Google map เสริชหากันเองดื้อๆ เลยค่ะ ซึ่งก็ออกแรงเยอะบ้างน้อยบ้างไปตามระเบียบ หรือบางทีก็อาศัยที่ Rick Steve หรือไกด์บุ๊คแนะนำมา โดยเฉพาะพวก hotel chain ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีแบรนด์ต่างๆ ไม่เหมือนกัน บางทีเร็ทราคาล่วงหน้าดึงดูดสุดๆ แต่ non-refundable นะ คือจ่ายแล้วจ่ายเลย ถ้าค่อนข้างชัวร์ว่าไปแน่ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ |
แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่น ทิปิจังมักใช้บริการของ Rakuten ซึ่งมีทั้งเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น แน่นอนว่าของญี่ปุ่นด้วยกัน จำนวนตัวเลือกย่อมมีมากกว่า Booking ยิ่งถ้ารู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยแล้ว ขอแนะนำว่าจองผ่านเว็บเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นเลย เพราะญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่นด้วยกันมักได้สิทธิพิเศษกว่า เช่น เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษอาจต้องจ่ายล่วงหน้า (คือ cancel ก็คืนให้ แต่วุ่นวายงัย) ในขณะที่เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นจะมีตัวเลือกให้ไปจ่ายที่โรงแรมเลย (แต่ก็ต้องทิ้งเบอร์บัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวไว้ในระบบก่อน เพื่อเป็นการันตี) นอกจากนี้ก็ยังมี hotel chain จำพวก business hotel ที่เน้นไม่หรูหราเลย ส่วนใหญ่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ เดินทางสะดวก ขนกระเป๋าสบาย เช่น Toyoko Inn หรือ Route Inn เป็นต้น |
เช่ารถขับเอง
เช่ารถขับในยุโรป ส่วนใหญ่ใช้บริการป้ายเหลือง หรือ Hertz นี้ล่ะค่ะ เพราะมีค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรื่องนี้ก็สำคัญนะ เวลารับรถออกไปแล้ว ขับไปตามเมืองต่างๆ หากมีปัญหาอะไร ยังสามารถขับเข้าศูนย์ของเค้าตามเมืองต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือได้ นอกจากนี้ยังสะสมไมล์กับสายการบินเครือ Star Alliance ได้อีกด้วย และ Hertz ก็มีสาขาที่เมืองไทยนะคะ ติดขัดอะไรสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ (แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านๆ มา ถ้าภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัญหา ติดต่อผ่านอีเมล์ส่งตรง Hertz ศูนย์กลาง น่าจะแม่นกว่าค่ะ) |
แต่ใบบางประเทศ Sixt ก็มีสาขาเยอะกว่านะ แถมราคาก็ดึงดูดมากกว่าด้วย หลังๆ เวลาเช่ารถ จะเช็ค 2 รายนี้เปรียบเทียบกันก่อน ค่อยตัดสินใจ และเท่าที่เคยใช้บริการมาก็ยังไม่พบปัญหาอะไร |
สำหรับญี่ปุ่น ใช้โลคัลแบรนด์ของเค้าสบายใจที่สุดค่ะ มีให้เลือกทั้งนิสสัน โตโยต้า หรือของ JR ก็มีให้บริการด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่มักมีสาขาอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟ แต่ที่ผ่านมาก็ใช้แต่บริการของ Nissan rent a car เพราะสามารถจองออนไลน์ได้ไม่ยากนัก เหมาะสำหรับการจองจากนอกประเทศญี่ปุ่น |
บทความทั้งหมด
รวม VDO
เกี่ยวกับ มิสกะโปโล และ ทิปิจัง
Travel is My Life คือประโยคที่แสดงความเป็นตัวตนของทั้ง 2 สาว ที่หลงใหลการเดินทางเพื่อสะสมประสบการณ์ท่องเที่ยว ไปยังที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและทั่วโลก แต่ ... เอิ่ม จริงๆ แล้ว อ่านต่อ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น