หลายคนอาจจะเคยเที่ยวหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศสมาแล้ว ลองมาคุยๆ กันปรากฏว่าเป็นคนละหมู่บ้านซะงั้น ทั้งนี้เพราะที่สวยที่สุดในฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเนี่ย เอาเข้าจริงมีเกินร้อยเลยนะคะ กว่าจะได้รับตำแหน่งก็ต้องผ่านเกณฑ์คัดเลือก จากองค์กรหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส (Les Plus Beaux Villages de France) เสียก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีประชากรไม่เกิน 2 พันครัวเรือน มีความงดงามและคุณค่าควรแก่การอนุรักษ์อย่างยั่งยืน และประชากรในหมู่บ้านเองก็ต้องเห็นด้วยนะคะ เพราะเมื่อได้ตำแหน่งสาวงามแล้ว จะถูกจับมามองเป็นพิเศษแน่นอน
ในทริปโพรวองซ์ เรามีโอกาสได้ไปเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ที่ครองตำแหน่งสวยที่สุดในฝรั่งเศสถึง 4 แห่งด้วยกัน มาดูกันเลยค่ะ ว่าแต่ละแห่งจะสวยจับใจแค่ไหน
ในทริปโพรวองซ์ เรามีโอกาสได้ไปเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ที่ครองตำแหน่งสวยที่สุดในฝรั่งเศสถึง 4 แห่งด้วยกัน มาดูกันเลยค่ะ ว่าแต่ละแห่งจะสวยจับใจแค่ไหน
1. เลโบเดอโพรวองซ์ (Les Baux-de-Provence หรือสั้นๆ ว่า เลโบ) เป็นเมืองโบราณบนภูเขาสูง ที่มีปราสาทและป้อมปราการเก่าแก่ เป็นคลังยุทโธปกรณ์สำคัญในสมัยสงครามครูเสด ถนนก่อนถึงตัวปราสาทเต็มไปด้วยบ้านเรือนสร้างจากหิน ปัจจุบันกลายสภาพเป็นร้านอาหารวิวสวย และร้านค้าต่างๆ เอาใจนักท่องเที่ยวมากมายเลยค่ะ
แอบแฟชั่นนิดนึง เนียนมั้ย อิอิ
มีโชว์ด้วย
อุปกรณ์อาวุธโบราณ
เปรียบเทียบ อดีต v.s. ปัจจุบัน
2. กอร์ด (Gordes) เป็นหมู่บ้านบนเขาเช่นกัน บ้านเรือนแถวนี้จัดเรียงตัวลดหลั่นได้งดงามมาก ตำแหน่งที่ว้าวที่สุดในการเก็บภาพเมืองกอร์ด คือจากด้านนอกไกลๆ ที่จะเห็นทั้งหมู่บ้านบนเขานั่นเอง นอกจากนี้ใกล้ๆ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านหินเก่าแก่ เลอ วิล ลาจ เด โบ คลี (le village des Bories) หรือหมู่บ้านหิน 3000 ปี และวิหาร Abbaye Notre-Dame de Sénanque ซึ่งพบได้บ่อยบนโปสการ์ดและเอกสารท่องเที่ยวโพรวองซ์ (แสดงว่าดังมาก) แต่พอดีช่วงที่ไปนี้ลาเวนเดอร์หน้าวิหารยังไม่บาน เลยได้แค่ทุ่งเขียวๆ ติดกล้องกลับมาเท่านั้น
ว้าวที่สุดของ Gordes ต้องมุมนี้เลยค่ะ
บรรยากาศบ้านเรือนภายในหมู่บ้านกอร์ด
แวะหมู่บ้านหินเก่าแก่ เลอ วิล ลาจ เด โบ คลี (le village des Bories) ซักหน่อย
วิหาร Abbaye Notre-Dame de Sénanque ในวันที่ลาเวนเดอร์ยังไม่บาน
3. คูสสิยง (Roussillon) หมู่บ้านนี้เลิศมาก สีสันโทนส้มแสบตาสดใสเป็นที่สุด ที่มาของโทนสีก็คือแหล่งแร่ Ocre สีส้มที่ใช้ผลิตสี ปัจจุบันทางการอนุรักษ์พื้นที่บางส่วนไว้ เรียกว่า ซอง-ติ-เย-เด-ซอค (Sentier des ocres) หรือ Ochre Cliffs ซึ่งไม่อนุญาตให้ขุดนำดินไปใช้ แต่สงวนไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นสมบัติสืบไปไว้ให้ลูกหลานค่ะ
4. มูสติเย แซงก์ มารี (Moustiers-Sainte-Marie) เป็นหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่บนขุนเขา ซึ่งคิดว่าไม่น่าพบในโปรแกรมทัวร์ทั่วไป เพราะเส้นทางคดเคี้ยวเหลือเกินบนไหล่เขา รถใหญ่ไม่ชอบแน่ เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องปั้นลงลาย Faïence de Moustiers ฝีมือประณีตที่สุดในฝรั่งเศส ขนาดที่ได้นำไปรับใช้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถึงแวร์ซายน์ แต่ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นดวงดาวสีทอง ที่ห้อยโตงเตงอยู่ระหว่างยอดเขา 2 ลูกเหนือหมู่บ้าน ซึ่งมีใครนำไปห้อยไว้และห้อยไว้ทำไม จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครตอบได้ค่ะ
แผนที่หมู่บ้าน มูสติเย แซงก์ มารี (Moustiers-Sainte-Marie) บนขุนเขา
เห็นจุดขาวๆ ตรงกึ่งกลางระหว่างเขา 2 ลูกมั้ยคะ นั่นแหละๆๆ
ซูมกันชัดๆ ขอโทษน้าาา ได้แค่นี้
สายน้ำสดชื่นในเมือง มูสติเย แซงก์ มารี (Moustiers-Sainte-Marie)
ลูกเล่นเล็กๆ เป็นสีสันแต่งแต้มเมือง
เป็นงัยคะ แต่ละที่สวยที่สุดสมชื่อเลยใช่มั้ยล่ะ จริงๆ แล้วในย่านโพรวองซ์นี้ยังมีสวยที่สุดในฝรั่งเศสอีกหลายหมู่บ้านเลยนะ (บางหมู่บ้านแปะยี่ห้อขอเป็นสวยที่สุดในโพรวองซ์ก็มี) แต่ด้วยเวลาอันจำกัดในทริปเดียว เหนื่อยมั่ง ขี้เกียจมั่ง ปนๆ กัน เลยได้มาแค่ 4 หมู่บ้านนี้ล่ะค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมต้องเล่มนี้เลยนะคะ “โพรวองซ์ ยกก๊วนชวนเพื่อนเที่ยวฝรั่งเศสตอนใต้” เขียนโดยมิสกะโปโลเอง พื้นที่โฆษณาค่ะ ขอนิดนึงนะ จู๊บๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น