มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

18 มีนาคม 2560

เที่ยวง่ายๆ ใกล้มาดริด – Toledo & Segovia


ถ้าเที่ยวมาดริดจนครบทุกซอกมุมแล้ว และยังมีเวลาอีก 1 วันเต็ม ลองแวะไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างดีมั้ยคะ บล็อกนี้มี 2 เมืองตัวเลือกมาแนะนำ คือ โทเลโด (Toledo) และ เซโกเบีย (Segovia) ทั้ง 2 เมืองไปไม่ยากเลยจากเมืองหลวงมาดริด มีทั้งรถบัสและรถไฟให้เลือกใช้บริการ เมืองมีขนาดไม่ใหญ่โตมากมายนัก อึดๆ หน่อยวันเดียวเที่ยว 2 เมืองยังได้เลย (เน้นว่าเวลาได้ แต่ต้องอึดหน่อยนะ 555)

สะพานส่งน้ำโรมันเก่าแก่ที่เซโกเบีย

โทเลโด
เมืองโทเลโดอยู่ห่างจากมาดริดไปทางตอนใต้เพียง 72 กิโลเมตร ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของสเปน ก่อนจะย้ายมายังมาดริดในปี ค.ศ. 1561 ความพิเศษของโทเลโดคือ สร้างบนหน้าผาสูง มีแม่น้ำตาโฆ (Tajo) และตลิ่งสูงชันที่ล้อมรอบ เป็นด่านป้องกันทางธรรมชาติชั้นดี กระนั้นก็ยังมีกำแพงเมืองและป้อมปราการอัลกาซาร์ (Alcazar) ช่วยเสริมความแข็งแกร่งอีก 1 ชั้น ถือเป็นเพียงไม่กี่เมืองที่มีการวางผังเมืองเพื่อป้องกันตัวเองได้ดีขนาดนี้

สถานีรถไฟโทเลโด

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

แต่ขนาดนี้แล้วก็ยังถูกเปลี่ยนมือครอบครองหลายครั้ง จึงหลอมรวมอารยธรรมจากทั้งมัวร์ คริสเตียน และยิวเข้าไว้ด้วยกัน จนได้รับตำแหน่งเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก ซึ่งกำแพงเมืองเป็นลัญลักษณ์ที่มีสเน่ห์ และโดดเด่นที่สุดสำหรับเมืองมรดกโลกแห่งนี้

ประตูเมืองชั้นนอก Puerta de Bisagra ทางฝั่งเหนือของเมือง

มิสกะโปโลจะพาทัวร์จากประตูเมือง ปูเอร์ตา เด บิซากรา (Puerta de Bisagra) ทางเหนือ ลัดเลาะตามเข็มนาฬิกาไปเรื่อยๆ ถึงสุดติ่งทางตะวันตก ชมวิวสวยๆ แบบพาโนราม่าของทั้งเมือง แล้ววนย้อนกลับมาตรงนี้อีกครั้งนะคะ แต่จากจุดนี้ต้องทำใจนิดนึง เนื่องจากเป็นเมืองบนเขางัย เมื่อลอดประตูเมืองเข้าไปแล้ว ก็ขาขึ้นอย่างเดียวเลย จนกว่าจะถึงอัลกาซาร์บนยอดโน่นแหละค่ะ ซึ่งก็ชันทีเดียว

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

จากนี้คือขาขึ้น

ประตูเมืองชั้นใน Puerta del Sol



วิวเบื้องล่างสวยๆ ทำให้ไม่อยากไปไหน

ถัดจากประตูเมืองชั้นนอก ก็เจอชั้นในอีกชั้น คือ ปูเอร์ตา เด โซล (Puerta del Sol) ซึ่งวิวเมืองเก่าที่อยู่เบื้องล่างจากแถวนี้ก็ โอ้โห สุดยอด กว่าจะตัดใจให้พ้นจุดนี้ไปได้ ก็หมดเวลาไปพักใหญ่แล้ว ส่วนถนนในเมืองก็ แหม ปูด้วยหินก้อนเล็กก้อนน้อย สมบรรยากาศเมืองเก่าดีเลย แต่ก็แคบแสนแคบ เวลารถคันใหญ่วิ่งผ่านต้องทำตัวผอมๆ ไว้ แล้วพอเดินเยอะเข้าก็เริ่มเจ็บเท้า (น่าจะเหมาะกับให้ขี่ม้าเดินในเมืองมากกว่านะ) ทางเดินขึ้นๆ ลงๆ วกวนเหมือนเขาวงกต จะหลงบ้างก็ไม่แปลก ออกแบบผังเมืองได้ขนาดนี้ ข้าศึกคงบุกเข้ามาไม่ได้ง่ายๆ สินะ … หรืออีกนัยหนึ่ง จะหนีเองก็ยาก 555



ระหว่างทางก็ลั้นลาไปกับร้านค้ามากมาย โดยเฉพาะพวกร้านอาวุธดาบโลหะ และของขึ้นชื่อของโทเลโดที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยมัวร์ ก็คือเครื่องถม damascene (ซึ่งนำทองมาสานขัดกันบนเหล็ก แล้วเผาจนเนื้อเหล็กเป็นสีดำ ผสมเป็นเนื้อเดียวกับทอง) จนลัดเลาะจนมาถึงอัลกาซาร์ ซึ่งเป็นป้อมปราการเก่าแก่บนยอดเขา และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหน้าด่าน ซึ่งขึ้นชื่อว่าโจมตียากสุดๆ แห่งหนึ่ง หน้าตายังคงดูขลังเหมือนในอดีต

เครื่องถม damascene

อัลกาซาร์

จากนั้นก็ถึงมหาวิหาร หรือกาเตดรัล บนยอดเขาใจกลางเมือง ด้านหน้าเป็นลานกว้างแบบที่ไม่คิดว่า จะพบได้ในเมืองที่เต็มไปด้วยถนนแคบๆ เช่นนี้ เลยทำให้มหาวิหารดูใหญ่โตและโอ่อ่าเป็นพิเศษ

กาเตดรัล

มุ่งหน้าต่อไปยังฝั่งตะวันตก ผ่านสุเหร่าเก่าและศาสนสถานของยิว ซึ่งมีเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในโทเลโดนี้แล้ว และถัดไปก็เป็นโบสถ์คาทอลิกในย่านยิวเก่า ชาน ฆวน เด โลส เรเยส ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างสุดท้ายก่อนจะขึ้นสะพาน Puente de San Martin ข้ามแม่น้ำ และออกนอกเมืองไปทางฝั่งตะวันตก

สุเหร่ายิวเก่าแก่

โบสถ์คาทอลิกในย่านยิวเก่า 


ข้ามสะพาน Puente de San Martin ออกมานอกเมืองก็เห็นวิวแบบนี้เลย

ปีนป่ายอีกนิดจะได้วิวเมืองโทเลโดเต็มๆ แบบนี้ค่ะ

ออกจากเมืองมาแล้ว ก็ข้ามถนน และปีนป่ายขึ้นเนิน เพื่อมองย้อนกลับมาเก็บภาพสวยๆ จากมุมสูง (นิดนึง) ของเมืองเก่าที่ห้อมล้อมไปด้วยกำแพงในยุคกลาง และแม่น้ำตาโฆ ให้คุ้มกับที่อุตส่าห์ปีนกันขึ้นมา … จากนั้นก็กลับเข้าเมืองอีกครั้ง ขึ้นเขา ลงเขา ลัดเลาะไปตามกำแพงเมืองด้านเหนือ ซึ่งก็ชันน้อยลงนิดนึง และกลับมายังจุดเริ่มต้น เพื่อขึ้นรถไฟกลับมาดริด … ครึ่งวันก็เที่ยวครบแล้วค่ะ

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

เซโกเบีย
กลับมาตั้งต้นที่มาดริดอีกครั้ง ซึ่งหากยังมีแรงเหลือๆ ไปต่อเซโกเบียกันเลยมั้ยคะ คราวนี้ไปทางเหนือค่ะ เพียง 80 ก.ม. เท่านั้นจากมาดริด และก็เป็นเมืองมรดกโลกยูเนสโกที่ควรค่าแก่การไปเยือนอีกแห่งหนึ่ง


สัญลักษณ์สำคัญของเมืองเซโกเบีย ก็คือสะพานส่งน้ำเก่าแก่ อะกวยดุกโต (Acueducto) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 ตั้งอยู่บนลานกว้างอะโซกวยโฆ (Plaza del Azoguejo) ที่พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว อะกวยดุกโตนี้อลังการพอตัวเลยทีเดียว มีจำนวนโค้งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ 165 ช่วง และสูงถึง 29 เมตร ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำสู่ป้อมปราการบนยอดเขา ซึ่งใช้งานได้จริงถึงศตวรรษที่ 20 นับเป็นสิ่งก่อสร้างโรมันที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสเปน โดยแท่งหินที่นำมาตั้งเรียงจนเป็นสะพานส่งน้ำนี้ ไม่มีปูนทาหรือตะปูตอกยึดให้ติดกันเลย เลิศมั้ยล่ะคะ วิทยาการโรมันสมัยเมื่อพันปีก่อน




ไร้ปูน ไร้ตะปู แค่เอามาวางเรียงกันให้ได้มุมและโค้งที่เหมาะสม เลิศมาก 

หลังจากปีนป่ายสะพานส่งน้ำเก่าแก่จนหนำใจ ก็เข้าสู่ใจกลางเมืองเก่า ซึ่งก็ขาขึ้นอีกแล้ว แต่ไม่วกวนและชันโหดเท่าที่โทเลโดนะ พวกเรามุ่งหน้าไปทางตะวันตก ผ่านมหาวิหารแห่งเซโกเบียซึ่งก็ใหญ่โตใช้ได้เลย และมาหยุดลงที่สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ทางขอบตะวันตกสุดของเมือง คือ อัลกาซาร์แห่งเซโกเบีย (Alcázar of Segovia) ซึ่งเป็นทั้งป้อมปราการและพระราชวังเก่าแก่ อย่างกับปราสาทในเทพนิยาย จากแถวนี้มองเห็นวิวยอดเขากวาดาร์รามา (Guadarrama) ชัดเจนทีเดียว

มหาวิหารแห่งเซโกเบีย


บรรยากาศในเมืองเก่า



ปราสาทเทพนิยาย Alcázar of Segovia

พร้อมแล้วก็เข้าไปชมข้างในกันค่ะ พื้นที่ภายในแบ่งเป็นห้องหับใช้สอยต่างๆ แต่ละห้องตกแต่งได้ตระการตามาก กระจกสีส่วนใหญ่เป็นรูปพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อน นอกจากนี้ก็มีชุดอัศวิน เสื้อเกราะ และอาวุธโบราณ จัดแสดงให้เห็นกันจะๆ





ส่วนห้องสุดท้ายเป็น Museum of the Royal Artillery School ซึ่งจัดแสดงประวัติของโรงเรียน และวิวัฒนาการของปืนใหญ่ รวมถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการทหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพอถึงยุคหลังๆ ก็ดูจะเป็นห้องทดลองทางเคมีซะแล้ว มิน่าล่ะ อาวุธสมัยนี้นับวันจึงร้ายขึ้นๆ


ยังค่ะ ยังไม่จบ เพราะยังไม่ได้ออกแรงปีนป่ายเลย ไปชมหอคอย Tower of John II ศิลปะแบบโกธิคอันโดดเด่นของปราสาทกันต่อสิคะ อันที่จริงหอคอยนี้ ในสมัยนั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นคุกหลวงนะ ส่วนข้างบนสุดเป็นหอสังเกตุการณ์หรือ watchtower ทางขึ้นหอคอยเป็นบันไดวน สูงด้วย แคบด้วย เดินสวนกันทีก็ต้องทำตัวลีบๆ ไป (ทหารสมัยก่อนตัวเล็กกระทัดรัดนักหรืองัย) แต่เมื่อไต่ถึงบนยอดแล้ว ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพราะลมพัดเย็นสดชื่น และวิวทิวทัศน์ก็งามงด ได้ใจไปเลยเต็มๆ ... ชอบที่สุดเลย ปราสาทเทพนิยายแห่งนี้ … จบทริปครึ่งวัน ที่เที่ยวได้แบบชิลๆ อิ่มตา และสบายใจมากค่ะ

รับลมเย็นจากบนยอดหอคอย

มองเห็นเมืองเก่าสวยๆ จากบนยอดหอคอย Tower of John II, Alcázar of Segovia

ถ้ามีเวลา ลองไปกันดูนะคะ ทั้งโทเลโด และเซโกเบีย เดินทางแสนสบาย เที่ยวได้อีกหลายบรรยากาศ … ที่ไม่ซ้ำกับในมาดริดเลย

ประตูเมือง อีกครั้ง

บ๊าย บาย เซโกเบีย ชอบจริงๆ เลย



http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

งานเทศกาลเดือนเมษายน Feria de Abril, Spain
1-day trip เที่ยวเมือง Ronda, Spain
เที่ยวง่ายๆ ใกล้มาดริด – Toledo & Segovia

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น