จากนั้นก็เมสเสจส่วนตัวไปกระตุ้นโฮสต์อีกที ว่าที่เราเขียนมาถามคราวก่อนนู้นน่ะ เราไปกดปุ่ม “Can I cancel for less?” ในระบบแล้วด้วยนะ ช่วย respond หน่อย ... รายนึง เค้าไม่ตอบเมสเสจอะไรเลย แต่สงสัยคงกดปุ่ม ok ตอบกลับ request ที่ส่งตรงจากระบบให้เลยมั้ง เพราะจากนั้นไม่นาน เราก็ได้รับ email จากระบบส่งกลับมา บอกว่า booking อันนี้ได้ cancel เรียบร้อยแล้ว ให้รอระบบทำเรื่องคืนเงินที่จ่ายไปก่อนหน้า จบไปหนึ่งค่ะ ... ส่วนอีกราย ไม่รู้ต่างกันยังงัย เค้าบอกว่าทำอะไรไม่ได้ จนกว่าจะถึงวัน check-in ค่อยเคลียร์ให้ ซึ่งเคสนี้ พอวัน check-in ผ่านไป ทาง booking.com ก็มีอีเมล์มาถามว่า host รีพอร์ตว่าคุณไม่ได้เข้าพัก จริงใช่มั้ย เราก็แค่ตอบเมล์กลับไปว่า จริงจ้า และเรากดปุ่ม Can I cancel for less? พร้อมให้เหตุผลไปแล้วด้วย แต่ยังไม่ได้คำตอบตรงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าจะเก็บตังค์รึป่าว ... ซึ่งหลังจากนั้นก็เงียบฉี่ หายไปทั้งโฮสต์ทั้ง booking.com ... และ ... ผ่านมานานแล้ว ก็ยังไม่มีใครมาเก็บตังค์ เราก็เงียบบ้างสิ ... ก็ถือว่าจบไปอีกเคสนึงละกัน
ทีนี้จ้ะ รอบนี้ โคโรน่าจังมาปรากฏตัว ซึ่ง 2-3 วีคก่อนยังลังเลอยู่เลย ว่าจะ cancel ดีมั้ยน้า ประเทศเสี่ยงก็ไม่ใช่ (แถมดูน่าจะปลอดภัยกว่าแถวนี้) แต่ก็ยังหวั่นๆ กับสถานการณ์อยู่ ก็เลยเลียบๆ เคียงๆ เมสเสจไปถามส่วนตัวดูหน่อย ปรากฏ ... รายนึงบอกว่า ชัวร์จ้า ถ้ายูมาไม่ได้เพราะโคโรน่าจัง ไอจะ waive ค่า cancellation ให้เลย (แม้จะพ้นช่วง free cancellation แล้วก็ตาม) ... น่ารักจริง รายเล็กก็คุยง่ายแบบนี้แหละ ไม่ค่อยมีปัญหา ... แต่มาเจออีกราย อันนี้รายใหญ่ โยนกันไปมาวุ่นวาย แถมให้เบอร์เรามาเพื่อโทรคุยกับ reservation desk เอง ... แหม คุณคะ อันนี้สายต่างประเทศนะจ๊ะ คุยไปคุยมาเด๋วแพงกว่าค่าโรงแรมรึป่าว ไม่สะดวกจริงๆ ขออีเมล์เถอะนะ
จากนั้นก็ติดต่อผ่านอีเมล์ที่ได้รับมา เค้าบอกว่า cancel ให้ได้ แต่ตังค์ที่เก็บไปแล้ว ไม่คืนจ้า (อ้าว) ... จะใช้วิธีเก็บเป็นเครดิตให้ยูตอนมาพักกับไอรอบหน้าแทน แต่ยังงัยก็แล้วแต่ ยูลองเช็คกับ booking.com ประเทศไทยดูมั้ย เค้าน่าจะช่วยยูได้อีกทางนะ แล้วก็ใจดีให้เบอร์มา ... เอาน่า เบอร์ 02 ลองโทรดูก็ได้ ... ปรากฏ booking.com ดีใจหายค่ะ เพราะข้อความในอีเมล์พวกนั้น นาง track ได้หมด (เพิ่งสังเกตุว่าอีเมล์ที่ได้มาไม่ใช่อีเมล์ส่วนตัวของที่พัก แต่เป็น via booking.com ... อู๊บบบบ ... รู้ดังนี้แล้วไม่ควรงุบงิบกันข้างหลังนะจ๊ะ booking.com เค้ารู้หมด) เจ้าหน้าที่ของ booking.com ก็เลยแนะนำว่า สิ่งที่โรงแรมบอกขาดไป คือจะเก็บเครดิตไว้ให้นานแค่ไหน และคำถามเพิ่มของเราคือ ถ้าราคาที่พักตอนจองรอบใหม่ไม่เท่ากัน หรือตอนรอบใหม่ห้องเกิดเต็ม จะทำยังงัย ... เจ้าหน้าที่เสนอว่า ด้วย time zone ปลายทางตอนนี้ก็ได้เวลาทำงานแล้ว เค้าจะโทรถามโรงแรมให้เอง ได้ความเรียบร้อยจะโทรกลับหาเรา
หูยยย ... คือดีงามอ่ะ ... ช่วยจัดการให้แทนเรา ขอบคุณยิ่งนัก ... แป๊บๆ เจ้าหน้าที่โทรกลับมาค่ะ ความว่าเครดิต 1 ปีนะคะ ส่วนราคาปกติถูกกว่าไม่คืน แพงกว่าจ่ายเพิ่ม แต่เด๋วต่อรองกันอีกทีละกันนะ ส่วนคำถามอื่น ทางโรงแรมยังตอบไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้ cancel จริง ส่วนเครดิตที่โรงแรมถือให้ ถ้าจะจองใหม่ คงต้องคุยตรง แต่โทรมาให้ booking.com จัดการให้ดีกว่า ... โอววว แบบนี้ก็สุดยอดเลย ถึงแม้ทุกอย่างจะขึ้นกับโรงแรม แต่ booking.com ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้เรามาก ... แบบนี้สิ ถึงน่าใช้บริการกันต่อไปเรื่อยๆ ประทับใจมากค่ะ
รู้อย่างนี้แล้ว แม้ messaging app จะมีความน่ารำคาญไปนิดนึง (คือจะมี bot ขึ้นมาเกริ่นนำเวิ่นเว้อตลอด) แต่การสนทนาทั้งหมด จะเป็นหลักฐานที่จะช่วยเราได้ในภายหลัง ... เพราะฉะนั้น แนะนำว่ามีอะไรอย่าคุยตรง ให้คุยผ่าน messaging app ของระบบเท่านั้น โดยเฉพาะโรงแรมเล็กๆ ที่บางทีสบโอกาสก็ what’s app มาหา บอกให้ติดต่อตรง จองตรงไรงี้ ... ปกติถ้ามิสกะโปโลเจอพวกนี้นะคะ จะบายเด็ดขาดเลย เพราะเราเค้าไม่รู้จักกัน มีปัญหาหาคนกลางช่วยไม่ได้ มาแบบนี้ให้ระแวงไว้ก่อน แล้วบางทีก็ไม่ใช่ว่าจะถูกกว่าจองผ่าน booking.com ซักเท่าไหร่ แถมยังจะให้โอนเงินตรงอีก อันตรายเกินไปค่ะ เสียค่าโอนโดยใช่เหตุด้วย
ระบบอื่นก็น่าจะคล้ายกัน ไปต่างถิ่น เราเค้าไม่รู้จักกัน พูดคุยก็ลำบาก เวลามีปัญหาเถียงกันยุ่งเข้าไปอีก เสียค่า fee นิดหน่อยแล้ว ได้อยู่กับ booking.com สบายใจกว่าเยอะ
ส่วนมิสกะโปโลก็ ... จากนี้ไป cancel จริงละ และลุ้นต่ออีก 2 ทริปน้ำตาร่วงเลยจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น