เนื่องจากมีเวลาอยู่เที่ยวคัปปาโดเกีย (Cappadocia) เต็มๆ แค่ 2 วัน และเมื่อเย็นวานตอนมาถึงก็ยังฝนตกอยู่ ทำให้ไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ วันนี้จึงตื่นกันแต่เช้าตรู่ เพื่อไปรอลุ้นว่าจะได้ขึ้นบอลลูนชมภูมิประเทศสวยๆ ของดินแดน amazing แถบนี้จากบนฟ้ามั้ย … สมาชิกกะโปโลแก๊งส์ในชีวิตไม่มีใครเคยขึ้นบอลลูนมาก่อนเลย ก็มีแอบหวั่นๆ นิดนึงเหมือนกัน … แต่ไหนๆ ก็มาถึงแล้วทั้งที เค้าบอก “ของมันต้องลอง” ก็เลยฝากโรงแรมจองให้แบบไม่คิดเยอะตั้งแต่ตอนมาถึงเลยค่ะ แพงอยู่เหมือนกันนะ แต่ยังไม่เก็บตังค์ ไว้ไปจ่ายหน้างานค่ะ เพราะยังต้องรอลุ้นต่ออีกว่า สภาพอากาศ ณ เวลานั้น จะมอบโชคให้พวกเราได้เหินฟ้ากันมั้ย
รถตู้ของ Butterfly Balloon มารับพวกเราที่โรงแรมแต่เช้าตามนัด ลูกทัวร์กะโปโลแต่ละคน หน้าตายังงัวเงียกันอยู่ไม่น้อย ไปถึงจุดนัดหมายก็เช็คชื่อและเข้าไปนั่งรอ ใช้บริการห้องรับแขก ขนม เครื่องดื่ม และห้องน้ำ เค้าเรียบร้อย ก็ยังไม่เก็บตังค์ค่ะ รอต่อไปเรื่อยๆ รอ ร้อ รอ … จนในที่สุด เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาประกาศว่า สภาพอากาศวันนี้ไม่ดี ไม่เหมาะกันการนำบอลลูนขึ้น … ก็เลยกินของเค้าฟรีแล้วหน้าจ๋อยนั่งรถกลับมากินข้าวเช้าที่โรงแรมกันต่อ … ฮือๆๆ
ฝนยังคงตกพรำๆ ต่อเนื่อง ให้เที่ยวเอาท์ดอร์คงไม่ไหว งั้นเราสลับโปรแกรมไปเที่ยวอินดอร์กันก่อนละกัน … ปักหมุดแรกของวันนี้ (ไม่รวม Butterfly Balloon นะ) จึงกลายเป็นเมืองใต้ดิน Kaymakli Underground City ที่ตอนแรกว่าจะไปกันพรุ่งนี้ ก็แปะมือควิ้กๆ แล้วเริ่มตะลอนกันเล้ยยยย
ซื้อตั๋วเตรียมมุดดิน
โย่
โถงใหญ่ก็มี
ไต่ขึ้นไต่ลง ซับซ้อนและล้ำลึกมากมาย
เย้ ฝนหยุดตกแล้ว
มุดขึ้นมาจากเมืองใต้ดิน ฝนก็หยุดตกพอดี เย้ๆๆ … จะได้เที่ยวบนดินกับเค้าแล้ว ปักหมุดถัดไปเราไปที่ Göreme Open Air Museum กันเลยค่ะ พื้นที่หุบเขาแถบนี้คือส่วนที่โดนกัดก่อนเยอะ จนกลายเป็นแท่งเสาทรงแหลม แต่เนื่องจากเสามันขนาดใหญ่มากงัยคะ เลยเจาะกันเป็นโบสถ์เป็นบ้านได้อีกเพียบ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกยูเนสโกเสียด้วย
ด้านหลังนี้ล่ะค่ะ Göreme Open Air Museum
ก่อนเที่ยวต่อ ซักอันดีมั้ย?
ว้าว สีสันฤดูใบไม้ผลิ
ปีนๆๆ
ข้างในนี้เป็นโบสถ์ค่ะ
ตลาดหน้ามิวเซียมก็น่าเดิน
และน่ากิน
ยังปีนป่ายกันไม่หนำใจค่ะ จบจาก Göreme Open Air Museum ก็ไปฉลองฝนหยุดตกต่อกันที่ Paşabağ Monks Valley ซึ่งอันนี้ธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเหมือนพิพิธภัณฑ์ เลยได้ปีนป่ายกันหนำใจ แบบที่เผื่อไว้เลยว่าถ้าพรุ่งนี้ฝนตกอีก ชั้นก็แฮ่กๆ ตุนไว้เต็มที่แล้ว 555
Paşabağ Monks Valley
คึกจัด วิ่งขึ้นๆ ลงๆ
ปีนขึ้นไปบนเขา แล้วมองลงมา สวยๆๆ
บนเขาเริ่มจะหนาว
ทางเข้าถ้ำ ดูดีทีเดียว
กินกันในถ้ำ
ระบำหน้าท้อง Turkish Dance
Whirling Dervish
เช้าวันถัดมายังคงใช้บริการรถรับส่ง และการต้อนรับจาก Butterfly Balloon มารอลุ้นกันอีกแล้ว เช้านี้อากาศดีกว่าเมื่อวานเพราะฝนหยุดตก ก็เลยพอจะมีหวังขึ้นมาหน่อยๆ … แต่ แต่ แต่ หลังจากรออยู่นาน เจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจออกมาป่าวประกาศว่า สภาพอากาศวันนี้ลมแรงเกินไป เอาบอลลูนขึ้นอาจไม่ปลอดภัย จึงขอยกเลิก และส่งกลับโรงแรมโดยสวัสดิภาพ … แง๊ แง๊ แง๊ … อุตส่าห์เผื่อไว้ 2 วัน ก็หมดสิทธิ์ทั้ง 2 วัน อุตส่าห์ตื่นเช้ามารอลุ้นแท้ๆ … เก้อเลย
บางรายก็อุตส่าห์เอาบอลลูนขึ้นนะ นับนิ้วได้เลย
เป็นวันสุดท้ายที่ Cappadocia แล้ว หลังจากจ๋อยสนิทกับ Butterfly Balloon ซึ่งเลือกปลอดภัยไว้ก่อนแทนรายได้งามๆ จากลูกค้าหน้าใสทั้งหลาย … แต่ก็มีบางรายไม่กลัวลม พาบอลลูนขึ้นฟ้าบ้างประปราย … ไม่รู้หลังจากนั้นจะเป็นงัยกัน … เจ้าของโรงแรมเห็นเรากลับมาหน้าจ๋อย ก็อุตส่าห์บอกว่าจะหาบริษัทที่เอาบอลลูนขึ้นให้ … แต่ไม่เป็นไรค่ะ Butterfly Balloon เค้าเตือนมาแล้ว เราก็อยากกลับบ้านในสภาพสมบูรณ์ด้วยสิ (กลัวความฟลุ้คจะเกิดกับเรา 555) … จากนั้นก็แพ็คกระเป๋าโหลดขึ้นรถ และตระเวนลุยตามหุบเขาต่างๆ กันต่อไป โดยที่แรกก็คือ Rose Valley ที่จะมีความเป็นดินสีแดงๆ ชมพูๆ น่ารักดี
Rose Valley สีแดงอมชมพู
แต่ เอ๊ะ ตรงนี้ไม่แดงนะ 555
แม่ค้าแถวนี้น่ารัก ไม่ซื้อไม่ว่ากัน เอามาให้ยืมใส่ถ่ายรูปอีกตะหาก
จากกันก็แวะหมู่บ้านเล็กๆ Mustafapaşa ที่ก็ไม่ค่อยมีอะไรนัก (แต่บ้านเรือนสวยพอใช้ได้ค่ะ) … และก็มีน้องหมามาตามติดอีกละ … เป็นอาณาจักรน้องหมาบนเส้นทางจาก Pamukkale สู่ Cappadocia รึป่าวจ๊ะ อิอิ
บ้านเรือนก็น่ารักดี
น้องหมาเริ่มมา
มากันเป็นหมาหมู่ละ โฮ่งๆๆ
เที่ยวธรรมชาติแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเที่ยวชมเมืองกันหน่อยๆ ที่ Ürgüp ดีกว่า ... แต่อืม บรรยากาศก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่นะ เพราะเป็นเมืองเล็กๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยสภาพภูมิประเทศแบบ คัปปาโดเกี๊ย โดเกีย อยู่ดี มองไปรอบๆ เจอแต่ดินและหินสีเดิมๆ
เที่ยวเมืองหน่อยๆ
เปลี่ยนบรรยากาศนิดๆ
จากนั้นไปเที่ยวหุบเขากันอีกที่ Devrent Valley ซึ่งจะมีอยู่ก้อนนึงที่พิเศษกว่าก้อนอื่นๆ ทั้งหมด จนต้องเรารั้วมาล้อมกันไม่ให้เข้าใกล้เกินเลยทีเดียว ดูจากรูปเองเลยค่ะ
Devrent Valley
เดอะแก๊งส์กับรถคู่ใจ
ก้อนนี้พิเศษสุด ห้ามเข้าใกล้
อู๊บบบ natural viagra
ยังเหลืออีกกี่หุบเขาเอ่ย? … แต่แหม … มาตอนแรกก็ตื่นตาตื่นใจดีอยู่หรอก พอเข้าวันที่ 2 (แถมยังอดขึ้นบอลลูน) ก็มีความตื่นเต้นลดลงนิดๆ จนถึงเริ่มเอียน เอาเป็นว่าก่อนขึ้นเครื่องกลับ Istanbul เย็นวันนี้ เราแวะเมือง Avanos ที่ขึ้นชื่อเรื่องเซรามิกและเครื่องปั้นดินเผาสวยๆ เพิ่มเติมสีสันให้กับชีวิตนิดนึงดีกว่า
หุบเขาอะไรก็ไม่รู้ สวยดี ถ่ายจากไกลๆ ก็พอ เริ่มเหนื่อย 55
เยี่ยมชมโรงงานเซรามิคในเมือง Avanos
วัตถุดิบก็หาดินใกล้ๆ กับแม่น้ำแถบนี้น่ะเอง
เอาดินมาตาก
แล้วก็มาจบที่เมือง Nevsehir สุดท้ายแล้วจริงๆ ก่อนขึ้นเครื่อง … เมืองใหญ่ใช้ได้ทีเดียว (เมื่อเทียบกับที่ผ่านๆ มาใน 2 วันนี้) ได้กินโรตีและไอศครีมให้ตัดรสชาติชื่นใจได้หน่อยๆ ก็อำลา Cappadocia และตุรกีในโซนเอเซียแต่เพียงเท่านี้ … เจอกันอีกทีที่ Istanbul เลยนะคะ บ๊าย บาย
ดีใจได้เจอเมืองใหญ่
มีโรตีให้กิน
ไปละกัน เจอกันอิสตันบูลเลยค่าาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น