มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

29 ธันวาคม 2559

โร้ดทริป 5D4N บนเกาะชวา ตอน 2 – Prambanan & Boroburdur


ฟิ้ววว เมื่อคืนนี้หลับสบายดีที่เมืองหลวงจาการ์ต้า พอวันนี้บินฉิวๆ ชั่วโมงเดียวก็มาถึงยอกยาการ์ต้า (Yogyakarta) ในเขตชวากลาง (Central Java) ซะแล้ว แต่ชื่อเมืองยาวจัง ต่อไปจะเรียกแค่สั้นๆ ว่ายอกยานะจ๊ะ สนามบินที่นี่มี 2 เทอร์มินัลค่ะ คนขับรถส่วนตั๊วส่วนตัวของพวกเราดั๊นไปรอผิดที่ ต้อง What’s App ตามตัวกันให้วุ่นวายเลย (ที่อินโดใช้ What’s App เป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเห็นใช้ Line นะคะ) และสำหรับไฮไลท์ในเมืองยอกยาแห่งนี้ มิสกะโปโลจะพาไปเยี่ยมชม ศาสนสถานสำคัญของฮินดูและพุทธ ในประเทศที่ประชากร 90% (จาก 250 ล้านคน) นับถือศาสนาอิสลาม ได้แก่ วิหารพรัมบานัน (Prambanan) ทางทิศตะวันออก ซึ่งก็ไม่ไกลนักจากสนามบิน และบุโรพุทโธ (Borobudur) ที่ห่างจากตัวเมืองยอกยาไปทางตะวันตกอีกกว่า 40 km ตามลำดับ … แต่ เอิ่ม … ภารกิจแรกสุดของพวกเรา คือหาข้าวเที่ยงทาน เพราะกองทัพยังงัยก็ท้องก่อนสินะ


คนขับรถแสนรู้ใจ ระหว่างทางไปยังวัดพรัมบานัน ก็พาลูกทัวร์ VIP มาลงร้านอาหารกลางทุ่งกลางนากันเลยทีเดียว เป็นงัยคะ กินข้าวในกระต๊อบกลางนา แจ่มสุดๆ ไร่นาแถวนี้ยังเล็กน้อยนะคะ เด๋วพอเดินทางออกสู่ชนบทเรื่อยๆ จะพบเห็นที่ใหญ่โตกว่านี้มากมาย แต่ที่เหมือนกันคือชาวนาตัวเป็นๆ ที่ออกมาปักดำทำนา เพราะแถวนี้ยังไม่มีเครื่องจักรใช้มากมายแบบบ้านเรา แถมประชากรเค้าก็เยอะ และค่าแรงก็ยังไม่แพงนัก ดังนั้น อาหารมื้อแรกของพวกเรา ก็เลยทั้งรสชาติ OK ราคาไม่แพง และบรรยากาศฟินสุดๆ

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

  
กินข้าวกลางทุ่งนา

สามสาวบังวิวไร่นามิดเลย

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com


มื้อแรกของทริป แจ่มสุดๆ

อิ่มแล้วก็เที่ยวต่อกันเลย วัดพรัมบานันอยู่ใกล้ๆ นี้เอง แต่อันที่จริงต้องบอกว่าเป็นกลุ่มวัดนะคะ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Temple Compounds เพราะมีสิ่งก่อสร้างคล้ายปราสาท หรือเทวาลัย ตั้งรวมอยู่ด้วยกันภายในบริเวณเป็นร้อยๆ หลัง ถือเป็นศาสนสถานฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย และในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ด้วย หลังจากคนขับรถจัดการซื้อตั๋วให้เรียบร้อย ก็ส่งต่อพวกเราให้กับไกด์ท้องถิ่นประจำวัด อ้าว ไหนบอกว่าไม่มีไกด์งัย ไม่เป็นไร ไม่อยากได้ ขี้เกียจฟัง … แต่ในเมื่อได้มาแล้วก็ OK ค่ะ ฟังๆ ไปได้ความรู้ จะถ่ายรูปลั้นลากันยังงัย ต้องเหลือซักคนมาฟังไกด์พูด เด๋วเค้าจะเสียใจเอา (อยากไปถ่ายรูปเหมือนกันนะ ฮือๆ) 




วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 แล้ว ประกอบด้วยเทวาลัยที่สร้างจากหินล้วนๆ จำนวนหลายร้อยหลัง มีเทวาลัยหลัก 8 หลังตรงกลาง แต่ที่ใหญ่และโดดเด่นจริงๆ มี 3 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก หลังใหญ่ที่สุดและสูงที่สุด คือ 47 เมตร สร้างถวายพระอิศวร (หรือพระศิวะ) ในขณะที่อีก 2 หลังที่ประกบอยู่เหนือใต้ มีขนาดเล็กกว่าหน่อย สร้างถวายพระนารายณ์ และพระพรหม ตามลำดับ นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยเทวาลัยบริวารขนาดเล็กอีกมากมาย วางเรียงเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม และมีแนวกำแพงด้านนอกล้อมรอบเป็นวงกลม ซึ่งไกด์บอกว่าแตกต่างจากบุโรพุทโธ ที่เป็นแนวสี่เหลี่ยม ล้อมรอบสถูปที่จัดเรียงเป็นวงกลม






ทีนี้มาดูใกล้ๆ นะคะ แม้กลุ่มวัดจะเคยเสียหายอย่างหนัก จากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่สมัยศตวรรษที่ 17 และอีกทีในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเราจะพบเห็นเศษซากก้อนหินสีดำ ทิ้งไว้กระจัดกระจายเป็นหลักฐานมากมาย แต่ความปราณีตของภาพแกะสลักนูนต่ำ ตามพื้นผิวต่างๆ ของเทวาลัย ที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้า รามายณะ และตำนานอื่นๆ ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงชื่อเสียงเรียงนามระดับมรดกโลก ของวัดพรัมบานันได้เป็นอย่างดี ไกด์บอกว่าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าก้อนหินที่นำมาก่อสร้างเทวาลัยเหล่านี้ จริงๆ แล้วใช้เพียง 3 รูปแบบเท่านั้น คือ รูปแบบ I (แท่งตรง) L (แท่งงอ 1 มุมฉาก) และ Z (แท่งซิกแซก 2 มุมฉาก) ทำให้รู้สึกเหมือนว่า คนสมัยก่อน เค้า make it simple กับการรังสรรค์สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่โตมโหฬารแบบนี้ได้ง่ายๆ เลย 


ภายในสวนหย่อมของโรงแรม Manohara, Borobudur

หลังจากนั้นพวกเราก็ซิ่งไปบุโรพุทโธกันต่อเลยค่ะ ซึ่งที่บุโรพุทโธนี้พวกเราเลือกพักที่โรงแรม Manohara ซึ่งเป็นเพียงโรงแรมเดียว ที่สร้างได้ใกล้ชิดติดขอบรั้วศาสนสถานสำคัญ แขกที่มาพักสามารถเข้าๆ ออกๆ เยี่ยมชมบุโรพุทโธกี่ครั้งก็ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม เว้นแต่ว่าจะเข้ารอบพิเศษตอน sunset กับ sunrise ที่ต้องซื้อตั๋วแยกต่างหาก (sunset กับ sunrise ก็ตั๋วแยกกันนะคะ ประมาณตั๋วละ 600 บาท สามารถซื้อได้ที่เคาท์เตอร์โรงแรม) หลังมาส่งพวกเราที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็หมดหน้าที่ของคนขับรถแล้ว พวกเราจัดการที่เหลือกันเองแบบฟรีสไตล์ ซึ่งแม้สีฟ้าดูจะไม่ค่อยเป็นใจ เมฆมาก แต่ไหนๆ ก็มาถึงแล้วทั้งที จึงจัดไปทั้งตั๋ว sunset & sunrise แพ็คคู่เลยค่ะ … แต่ไกด์เนี่ยไม่ต้องแล้วนะจ๊ะ เพราะไกด์ที่พรัมบานันเค้าแถมเรื่องราวของบุโรพุทโธให้เยอะแล้ว ไม่เอาแล้ว ขี้เกียจฟังแล้ว อิอิ


มองเห็นนักท่องเที่ยวสีลูกกวาด เมื่อมองจากชั้นต้นๆ ของศาสนสถานบุโรพุทโธ

บุโรพุทโธนี้ถือเป็นกลุ่มวัด หรือ Temple Compounds เช่นกัน เป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ สร้างขึ้นประมาณศตวรรษที่ 7-9 ก่อนปราสาทนครวัดของกัมพูชาประมาณ 300 ปีเห็นจะได้ แผนผังก่อสร้างตามความเชื่อในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน มองว่าบุโรพุทโธคือจักรวาล จากส่วนฐานรูปสี่เหลี่ยมจำนวน 6 ชั้น จนถึงลานรูปวงกลมในชั้นที่ 7-9 ซึ่งมีสถูปทรงระฆังคว่ำ ภายในบรรจุพระพุทธรูปในปางต่างๆ เรียงรายอยู่ 72 องค์เต็มทั่วทั้ง 3 ชั้น โอบล้อมลานวงกลมชั้นที่ 10 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถูปองค์ใหญ่ที่สุด เปรียบเสมือน กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีภาพสลักนูนต่ำ ที่แสดงคติความเชื่อทางพุทธศาสนา ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละภูมินั้นๆ ไล่เรียงกันไปตามลำดับ



ที่ชั้นบนๆ อันเป็นที่ตั้งของลานวงกลม และสถูปทรงระฆังคว่ำ

และเท่าที่ทราบปกติแล้วคนมุสลิม จะไม่นิยมเข้าไปในศาสนถานของศาสนาอื่น แต่ที่อินโดนีเซียนี้อาจจะไม่เคร่งครัดขนาดนั้น อีกทั้งศาสนสถานเหล่านี้ ไม่ว่าจะพรัมบานัน หรือบุโรพุทโธ ต่างก็เป็นโบราณสถานเก่าแก่ ที่ผุพังไปตามกาลเวลา น่าจะถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซะมากกว่าเป็นวัดเสียแล้ว เราจึงเห็นเจ้าของประเทศเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มุสลิม มาเยี่ยมชมศาสนสถานนี้มากมาย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษาเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ละกลุ่มใส่เสื้อสีเฉพาะของตน ทำให้บุโรพุทโธที่เดิมมีแต่สีพื้นๆ แห่งนี้ ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสจากผู้มาเยือน ดูมีชีวิตชีวาดีเหมือนกัน

ภาพศาสนสถานบุโรพุทโธในยามค่ำคืน

แต่ไม่เวิร์กเลยสำหรับตากล้อง จะหามุมถ่ายภาพทีต้องเอียงและหลบสุดฤทธิ์ ต่อเมื่อใกล้เวลาพระอาทิตย์ตก เจ้าหน้าที่เดินวนๆ ตรวจตรา และเชิญผู้ที่ปราศจากตั๋วรอบพิเศษลงจากศาสนสถานเสีย ทำให้บุโรพุทโธที่เคยออกจะชุลมุนวุ่นวาย ดูเงียบสงบลงในพริบตา ดังนั้นแม้ในวันนี้จะเมฆมากไปซักหน่อย จนทำให้ไม่เห็นแสงส้มหรือฟ้าระเบิดใดๆ แต่ก็ถือว่าซื้อความสงบแบบที่ไม่ได้พบเห็นกันง่ายๆ แทนละกัน


มื้อเย็นที่โรงแรม Manohara นี้แหละ แจ่มสุดๆ ไม่แพ้มื้อเที่ยง

แก้ตัวตอนเช้าตรู่อีกทีค่ะ เช้านี้อากาศดีมาก แสง sunrise สวยงามสุดๆ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ดีเกินไปเช่นนี้ ตั๋วรอบพิเศษจึงขายดีด้วยเช่นกัน ยิ่งพอหมดรอบพิเศษ ก็ได้เวลาของกลุ่มนักเรียนที่มาทัศนศึกษาแล้วสินะ เช้านี้คึกคักกว่าเย็นเมื่อวานมาก เด็กๆ เวลาเห็นชาวต่างชาติจะกรูมาขอถ่ายรูปด้วย สงสัยจะส่งการบ้านคุณครูรึป่าว ว่าให้กล้าๆ ฝึกคุยภาษาอังกฤษกับต่างชาติเยอะๆ เข้าไว้ คนไหนหน้าตาดูไม่ท้องถิ่นนี่กลายเป็นเซเลบไปเลย หรือจะเป็นของแปลกแถวนี้นะ 555


บรรยากาศแสนสวยของบุโรพุทโธขณะพระอาทิตย์ขึ้น

นักท่องเที่ยวมากมายจริงๆ

เด็กๆ มาขอถ่ายรูปกับเซเลบต่างด้าว

พักผ่อนเรียบร้อยรอคนขับรถมารับ แล้วเตรียมลุยต่อยังจุดหมายถัดไปเลยค่ะ

http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

โร้ดทริป 5D4N บนเกาะชวา ตอน 2 – Prambanan & Boroburdur

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น