มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

19 มกราคม 2560

มาดูปลา ตอน 1 (Lovina Beach, Dolphin Watching)


แยกออกมาเป็นอีก 1 บล็อกพิเศษค่ะ เนื่องจากปีที่แล้วทั้งปี มีโอกาสได้ไปดูปลามา 3 แบบ 3 ประเทศ ก็คือ ดูปลาโลมาที่ทะเลทางตอนเหนือของบาหลี แถวหาดโลวีน่า (Lovina Beach) ในบล็อกนี้ ดูปลาวาฬบรูด้า ขึ้นมาเล่นน้ำสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ที่อ่าวตัว ก อ่าวไทยนี้เอง และ ดูทั้งปลาโลมาและปลาวาฬ ที่อะแควเรียมกลางแจ้ง ณ Taiji Whale Museum จังหวัดวาคายามะ ประเทศญี่ปุ่น ในบล็อกถัดไป เป็นกิจกรรมการดูปลาที่แตกต่างกัน 3 สไตล์ จาก 3 ทริป ต้องนำมาวางเรียงติดกัน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เลือกกันว่า จะไปดูปลาที่ไหนดี 

ออกทะเล ไล่ล่าชมปลาโลมาแต่เช้าตรู

เริ่มต้นด้วยปลาโลมาที่หาดโลวีน่า จากทริปบาหลีนะคะ ซึ่งไปเที่ยวมาเมื่อช่วงหยุดยาวต้น พ.ค. ปีที่แล้ว … ดองนานสุดใน 3 ทริปนี้แล้ว (ดองนานหลายปีกว่านี้ก็มี  ค่อยๆ ทยอยเขียนกันไปค่ะ ^^) ชายหาดแถวนี้มีแต่ทรายสีดำๆ จากขี้เถ้าภูเขาไฟ กรวดก็เยอะ ไม่เนียนเท้า หาดไม่สวย (คือถ้าอยากมาเที่ยวหาดสวยๆ ที่บาหลี แนะนำไปทางใต้ของเกาะดีกว่าค่ะ) แต่ก็เงียบสงบดี ผู้คนไม่พลุกพล่าน ยกเว้นก็แค่ตอนเช้าตรู่ ที่นักท่องเที่ยวแห่มาออกทะเลดูปลาโลมากันนั่นเอง

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

และที่แก๊งส์กะโปโลเลือกมาพักแถวนี้ ก็เพราะด้วยเหตุผลนี้แหละ อยู่ตรงนี้ ออกจากโรงแรมก่อน 6 โมงเช้านิดๆ แค่ 5-10 นาที เดินมาก็ถึงหาดละ แต่ถ้าไปพักแถวแหล่งยอดนิยมค่อนไปทางตอนใต้ เช่นเมืองอูบุด (Ubud) คูต้า (Kuta) ต้องให้รถมารอรับตั้งแต่ตี 3 เลยนะ ถึงจะทันมาขึ้นเรือ เพราะระยะทางไกลอยู่เหมือนกัน (ประกอบกับความเป็นถนนไป 1 เลนกลับ 1 เลนของที่นี่)

เรือขาแมงมุม ที่จะพาพวกเราไปตะลุยกิจกรรม dolphin watching

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

เรือที่นิยมใช้พานักท่องเที่ยวไปไล่ล่าชมปลาโลมา ส่วนใหญ่ก็ลำเล็กๆ ขาแมงมุมแบบในรูป นั่งได้ไม่กี่คน ซึ่งเป็นเรือท้องลึก ท้องเรือเหมือนคมมีด สามารถวิ่งตัดคลื่นแรง ๆ ของบาหลีได้ดี และพอมีไม้ซุงมาพาดเป็นคานกับทุ่น ก็บาลานซ์ 2 ข้างได้ดีทีเดียว ทำให้ไม่โคลง โต้คลื่นลมได้สนุกเลย ดูเป็นนวัตกรรมพื้นบ้านที่น่าสนใจทีเดียว … ทำไมไม่เห็นในเมืองไทยบ้างนะ หรือเมืองไทยใช้แต่สปีดโบ๊ท

ว่ากันว่าทะเลแถวนี้มีปลาโลมาอาศัยอยู่เป็นร้อยๆ ตัว แสดงว่าอาหารการกินต้องอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว แถวนี้น้ำค่อนข้างนิ่ง คลื่นลมไม่ค่อยโหดร้าย พวกมันคงชอบ เช้าตรู่แบบนี้ฝูงปลาโลมาจะออกมาล่าเหยื่อ เพื่อหาอะไรใส่ท้องประทังชีวิตน่ะค่ะ เวลาเดียวกันกับที่ชาวประมงนิยมออกไปหาปลานั่นเอง (แล้วบ่ายเย็น ปลาหายไปไหนหมด … ก็ไม่รู้สินะ อิอิ) ชาวประมงเวลาเห็นปลาโลมา ก็จะรู้ได้ว่าแถวนั้นมีปลาชุกชุม ส่วนปลาโลมาเวลาเห็นเรือมาทอดแห ก็มักฉลาดพอจะเดาได้ว่าปลาต้องเยอะแน่ ทั้งปลาซาดีน ปลาแมคคาเรล ว่ายไปทางไหน อร่อยชั้นล่ะ ช่วยกันเรียนรู้ ไม่รู้ใครสอนใคร 555 ว่ายไปว่ายมา ก็มีกระโดดขึ้นมาบิดขี้เกียจ และเช็คสถานการณ์เหนือน้ำมั่ง ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นธุรกิจท่องเที่ยวซะงั้น … แนะนำว่าให้เลี่ยงเดือน ก.พ. เม.ย. นะคะ เพราะสภาพอากาศอาจไม่เหมาะนัก ทั้งกับคนที่จะออกไปดูปลา และกับปลาโลมา พระเอกตามท้องเรื่อง

พระอาทิตย์ขึ้นตรงขอบฟ้า สวยงามมาก

เอาละ ได้เวลากัปตันส่วนตัว พาพวกเราล่องเรือออกทะเลกันแล้ว เย้ๆๆ ว้าว ทะเลแถวนี้น้ำใสแจ๋วมาก แถมปลาก็ชุกชุม มิน่าล่ะ ฝูงปลาโลมาถึงเลือกมาสร้างบ้านอยู่แถวนี้ แต่ว่านะ … ขยะก็ไม่น้อยทีเดียวเลย แล่นๆ ไปมีขยะลอยมาให้เห็นไม่ขาดสาย เยอะมากๆ ทั้งถุงพลาสติก ถุงขนมขบเคี้ยว หรือแม้แต่เปลือกทุเรียน (โอววว ลอยมาจากประเทศไหนหนอ) สกปรกจัง อย่าเผลอกินเข้าไปนะ เจ้าโลมา  

ตัดเรื่องราวรำคาญใจเกี่ยวกับขยะทิ้งไป และมาเฝ้ารอกันต่อ ว่าจะได้เจอปลาโลมาเมื่อไหร่หนอ กัปตันพาเรือวิ่งไปทิศนู่นนี่เรื่อยเปื่อย ดูไม่มีจุดหมาย และเพื่อนฝูงลำอื่นๆ ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นพื้นทะเลสีลูกกวาด ที่เต็มไปด้วยเรือขาแมงมุม (แถมช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวของอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวจึงเยอะเป็นพิเศษ) กัปตันบอกว่า ถ้าจอดเรือเฉยๆ จะไม่มีทางได้เห็น ต้องพาเรือออกตามล่าเท่านั้น เพราะฉะงั้นบางทีแทนที่จะเรียกกิจกรรมนี้ว่า dolphin watching คนท้องถิ่นเค้าจะเรียกว่า dolphin hunting แทน

นั่นงัยๆ ครอบครัวปลาโลมาฝูงน้อย เห็นประมาณนี้แหละค่ะ

อู๊บๆๆๆ นั่นไงๆๆ มีใครซักคนในกลุ่มเรือขาแมงมุมสีลูกกวาด ส่งสัญญาณบอกว่าเห็นปลาโลแล้ว … โหวว จริงด้วยๆ ไปดูใกล้ๆ กัน … อุแม้เจ้า จากนั้นครอบครัวโลมาผู้น่าสงสาร ก็กลายเป็นเป้าหมายของบรรดาเรือสีลูกกวาด ที่ดูๆ แล้วน่าจะมีจำนวนเยอะกว่าพวกมันไม่กี่ตัว ที่ดันเผลอโผล่ขึ้นมาอวดโฉมในเวลาอันเหมาะเจาะนี้ … แป๊บๆ พวกมันก็ดำน้ำและจากไป .... อู๊บๆๆๆ ตรงนู้นก็มี … เรือเป็นร้อยหันหน้าเฮละโลวิ่งตามครอบครัวปลาโลมาฝูงใหม่ … วนไปวนมาเช่นนี้ 

ในความเห็นส่วนตัวของมิสกะโปโลนะ มันช่างเป็นการไล่ล่าดูปลา … ที่น่าอนาถที่สุดแบบหนึ่ง … ถึงแม้ว่าชาวประมงกับฝูงปลาโลมา จะสั่งสมความสัมพันธ์อันดี และเรียนรู้ซึ่งกันและกันมายาวนาน แต่ถ้ามิสกะโปโลเป็นปลาในฝูงนั้น คงตกใจมิใช่น้อย ที่อยู่ดีชาวประมงเลิกทอดแห แล้ววิ่งไล่หลังมาติดๆ กันตรึมขนาดนี้ เสียววุ้ยยย หนีดีกว่า … คิดเอาเอง ว่าปลามันคงนึกแบบนี้แหละ  

สุดท้าย ก็ได้เห็นประมาณเท่าในรูปนั่นแหละ พอเหอะ พวกเรากระซิบบอกกัปตันว่า พาพวกเรากลับเข้าฝั่งได้เลย ไม่ต้องอยู่ต่อจนครบชั่วโมงหรอก (แบบว่าทนไม่ไหวจริงๆ) แต่พอบอกแบบนั้นปุ๊บ กัปตันก็ออกอาการจ๋อยทันที (เฮ้ยย ไม่เป็นไร ไม่ได้จะทวงเงินคืน) ถามย้ำอยู่นั่นแหละ จะกลับจริงหรา ซึ่งเมื่อพวกเรายืนยันหนักแน่น เค้าก็เสนอว่าจะพาไปดูปะการังสวยๆ แทน เพราะอยากให้พวกเรากลับไปพร้อมความประทับใจ เค้าเสียใจมากที่ไม่สามารถตามหาปลาโลมาฝูงใหญ่มาให้พวกเราดูได้ ฯลฯ โถๆๆ น่ารักจริงๆ  


ระหว่างทางที่กัปตันกำลังพาพวกเราไปดูปะการัง โอ้วววว ฝูงปลาทูน่าค่ะ ทูน่าครีบเหลือง (yellow tail) เป็นฝูงเลย (ตัวเล็กๆ ไม่บิ๊กเบิ้มอย่างทูน่าครีบน้ำเงิน ที่ประมูลกันตัวเป็นล้านๆ ที่ตลาดปลาทสึคิจินะ) โหวว ฟลุ้คที่สุด ฟลุ้คมาก กัปตันดับเครื่องเรือลงทันที ทะเลแถวนี้ไม่มีใครเลย มีแต่เรือของพวกเราลอยเท้งเต้งอยู่ลำเดียว ปลาเยอะขนาดนี้ น้ำใสขนาดนั้น เห็นกันชัดๆ จะๆ กระโดดโชว์อีกเป็นสิบ นี่สิ ธรรมชาติของจริง ไม่ต้องไล่ล่าใดๆ ทั้งสิ้น คุ้มสุดๆ … กัปตันเองก็ดีใจไปกับพวกเราด้วย แต่ไม่นานนักก็หน้าจ๋อยอีกละ เฉลยว่าเสียดาย เพราะไม่ได้พกแหตกปลาติดมาด้วย โถๆๆ พ่อคุณ (พวกเราก็จ๋อย ที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่แรก … และเตรียมกล้องก็ไม่ทัน ฮือๆ)

พอฝูงปลาว่ายผ่านไป ก็แล่นเรือมายังแหล่งปะการัง โอ้ ว้าว น้ำใสมาก ปะการังเยอะและสมบูรณ์จริงๆ สามารถเห็นได้ชัดโดยไม่ต้องใส่สน็อกเกิ้ลเอาหน้าจุ่มน้ำ ปลาเล็กปลาน้อยว่ายมาโชว์ตัวให้เห็นชัดๆ แบบที่พวกเราไม่เปียกน้ำเลยซักนิด ทะเลแถบนี้อุดมสมบูรณ์มากจริงๆ  ปลาชุมมาก กัปตันล้วงกระเป๋ากางเกง ควักถุงอาหารปลามาเซอร์ไพรส์พวกเรา แหม น่ารักอีกละ … ทีอย่างนี้ล่ะ เตรียมมาดีเชียว แผนสำรองสินะ เผื่อเวลานักท่องเที่ยวบ่นตอนไม่เจอปลาโลมา 555 … แต่สุดท้ายแล้ว จะปลาอะไรก็ตาม พวกมันคงไม่ชอบขยะหรอก แม้จะน้อยนิดเมื่อเทียบกับทะเลอันกว้างใหญ่ แต่ถ้าสะสมเยอะขึ้นเรื่อยๆ ระบบนิเวศน์ดีๆ แบบนี้ก็อาจถูกทำลายได้ในที่สุด เวลาผ่านไป ฝูงปลาเค้าจะย้ายบ้านหนีนะ ช่วยกันเก็บขยะไปทิ้งให้ถูกที่ถูกทางกันหน่อยเถอะ ขออีกนิดนะ จิตสำนึกดีๆ ช่วยๆ กัน

ดูรูปปั้นปลาโลมาแทนละกันนะ

บนพื้นก็มี

แม้จะเป็นการไล่ล่าชมปลาโลมาที่ดูจะอเนจอนาถไปซักนิด แต่โดยรวมก็เพลินดีค่ะ ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเล ได้ฟลุ้คเห็นอีกหลายอย่าง ทำให้อยากมาอีกซักรอบ แต่ถ้ามารอบหน้าขอลองไปชายหาดด้านใต้ของเกาะมั่ง จะจัดทริปดำน้ำโดยเฉพาะมาเลย (ดีมั้ย?) … 10 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวและเช็คเอาท์เรียบร้อย คนขับรถ VIP ส่วนตัวก็มารอรับที่หน้าโรงแรมแล้ว เมื่อเล่าให้เค้าฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ได้พบเจอมาในเช้านี้ คนขับรถเกทับเลยค่ะ ว่าถ้าให้เค้าหาเรือให้ จะได้เห็นฝูงปลาโลมาเยอะกว่านี้แน่ แถมกระโดดตีลังกาให้ดูเลยแหละ แหม เกี่ยวหราคะ ขี้จุ๊ไปนิดนึงนะ 555

เสร็จจากดูปลา ก็เป็นกิจกรรมเจ๊าะแจ๊ะชาวบ้าน กับ street food สไตล์บาหลี ของสาวๆ

บล็อกถัดไปจะเป็นกิจกรรมดูปลารูปแบบไหน ต้องติดตามกันต่อนะคะ บ๊าย บาย 

http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น