My travel diary: เก็บพ้อยต์อีสานเหนือ 8 จังหวัด 5D4N - ตอน 1 (อุดรฯ หนองคาย สกลนคร ชมทะเลบัวแดง)

ช่วงปลายปีอากาศเย็นๆ ก็เที่ยวอีสานอีกแล้วสิคะ ทริปนี้ไปกันช่วงปีใหม่ เคาท์ดาวน์กับพี่น้องชาวอีสานม่วนหลายเด้อ นั่งเครื่องไปลงอุดรฯ เช่ารถขับวนอีสานตอนเหนือ 5 วัน มาคืนรถที่ขอนแก่น แล้วนั่งเครื่องกลับสวยๆ แบบไม่กลัวรถติด เก็บพอยต์ได้ 8 จังหวัดพอดี ไล่เรียงตามเข็มนาฬิกาตั้งแต่ อุดรฯ หนองคาย สกลฯ นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และขอนแก่นปิดท้าย แต่ละจังหวัดมีไฮไลท์ดีๆ น่าไปเยือน เที่ยวสนุกและไม่แพง ไม่แพ้เที่ยวต่างประเทศเลยค่ะ … ที่สำคัญ อาหารการกินแซ่บหลาย ถูกใจคณะลูกทัวร์ยิ่งนัก

ขึ้นไฟลท์ขี้เกียจๆ สไตล์มิสกะโปโล ก็มาถึงสนามบินอุดรฯ ตอนมื้อเที่ยงเลยสิคะ อิอิ ลงเครื่องรับรถปุ๊บ หาร้านอาหารเติมพลังงานปั๊บ จากนั้นแวะเดินเล่นที่หนองประจักษ์ (แต่ก่อนชื่อหนองนาเกลือ) ซึ่งรอบๆ ก็คือสวนสาธารณะกลางใจเมืองอุดรฯ ถ่ายรูปกับเป็ดเหลือง (ตอนนั้นที่ไปมีตัวเดียว ตอนหลังเหมือนจะมาเป็นฝูงแล้ว) ก่อนจะขับรถข้ามจังหวัดไปเที่ยวเล่นต่อที่หนองคาย จังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียง (ขับรถไม่ถึง ช.ม.) แวะเดินเล่นที่ตลาดท่าเสด็จ ชมวิวสวย รับลมเย็นริมฝั่งโขง อร่อยกับแหนมเนืองรสเด็ดมื้อเย็น แล้วขับกลับมานอนที่อุดรฯ เป็นอันจบทริปวันแรกแบบจิ๊บๆ เก็บได้ 1.5 พ้อยต์ (ไม่ถึง 2 เพราะไฮไลท์อุดรฯ ยังไม่ได้ไปเลย)

เป็ดเหลืองแห่งหนองประจักษ์

เดินเล่นยามเย็นที่ท่าเสด็จ

ร้านน่ารักๆ บรรยากาศย้อนยุคที่ตลาดท่าเสด็จ

ซื้อของฝาก อุดหนุนคนท้องถิ่นซะเลย

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

วันที่ 2 ถัดมา คือไฮไลท์อุดรฯ ค่ะ พวกเราบึ่งรถไปบึงหนองหานกุมภวาปีกันแต่เช้าตรู่ เพื่อเข้าคิวขึ้นเรือก่อนแดดจะร้อน ล่องชมทะเลบัวแดง unseen ทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แถมยังเป็นทุ่งกลางทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เสียด้วย จะชมบัวแดงให้สวยๆ ต้องนั่งเรือไปชมเท่านั้นค่ะ แถวชายฝั่งไม่เห็นอะไรเท่าไหร่หรอก และเส้นทางที่เรือวิ่ง ก็ได้ชาวบ้านและอบต. นี้แหละ ที่ร่วมกันวางแผนสำรวจ ช่วยกันกรุยทางไว้ ตั้งแต่ก่อนถึงฤดูท่องเที่ยว (คือช่วงปลายปี) แล้ว เพื่อไม่ให้เรือแล่นสะเปะสะปะ ไปทำร้ายดอกบัวแดงธรรมชาติโดยไม่จำเป็น

ดอกบัวสีชมพูสดใส บานเยอะแยะเต็มผืนน้ำไปหมด สวยสุดๆ เลยจริงๆ ระบบนิเวศน์ที่หนองหานนี้สมบูรณ์มาก เป็นที่อยู่อาศัยของปลาน้ำจืด นกท้องถิ่น และพืชน้ำมากมาย ชาวบ้านที่อาศัยทะเลสาบนี้เป็นแหล่งประกอบอาชีพ ตกปลา เก็บสายบัวขาย คงเห็นทุ่งบัวแดงชินตา ไม่ตื่นเต้นอะไร แต่นักท่องเที่ยวอย่างพวกเรานี่สิ โอ้ว ว้าว ประทับใจมากมายเลยทีเดียว ชาวบ้านก็ยินดี เพราะมีอาชีพเสริม มีรายได้ แต่ปีนึงจะมีแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ที่ดอกบัวสีสดจะบานเต็มท้องน้ำ ทำให้ได้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปีไปในตัว และธรรมชาติก็มีเวลาฟื้นตัวแบบชิลๆ สามารถแบ่งปันความงามให้พวกเราชมไปอีกนานๆ

ถ่ายรูปกันเพลินเลย สวยมากๆๆๆ

มื้อเช้าหลังล่องเรือ

จนชมทะเลบัวแดงเสร็จแล้วนั่นแหละ ถึงได้เวลามื้อเช้า ซึ่งก็ได้ร้านค้าท้องถิ่นแถวนั้นช่วยชีวิตไว้เยอะเลย (แซ่บอีกแล้วเด้อ) จากนั้นไปต่อกันที่สกลนครค่ะ ทริปนี้แวะมาเยี่ยมเพื่อนนิดนึง เลยเม้าท์มอยกันจนต้องตัดบางโปรแกรมทิ้งไป แต่ก็ทดแทนด้วยบรรยากาศสบายๆ ที่ฟาร์มฮักตอนมื้อเที่ยง

จากนั้นไปเยี่ยมชมวัดป่าสุทธาวาส นมัสการพระอัฐิธาติ และชมพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นสิริมงคล ก่อนไปปิดท้ายวันที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นที่เสด็จแปรพระราชฐาน ในคราวเสด็จเยี่ยมพสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั่นเอง

เยี่ยมชมวัดป่าสุทธาวาส และชมพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

บรรยากาศร่มรื่น สวนสวยๆ ภายในพระตำหนักภูพานฯ

อำลาเพื่อนฝูงแล้วขับรถข้ามจังหวัด ไปค้างคืนที่จุดหมายถัดไป ที่จังหวัดนครพนม … จบไป 2 วัน เก็บได้ 3 พ้อยต์ … บล็อกถัดไปค่อยตื่นมาเที่ยวต่อนะคะ เตรียมร่างกายให้ฟิตล่ะ เพราะต้องออกแรงปีนป่ายกันอีกแล้ว