ทริปนี้ไม่ต้องอาศัยหยุดยาวเลยค่ะ นัดกันได้ปุ๊บก็จัดทริปเลย ไปกัน 2 วัน 1 คืนเสาร์อาทิตย์นี่แหละ ทริปนี้ไปกันเป็นแก๊งส์เมื่อต้นปี อากาศพอไหวในช่วงเย็น แต่ตอนกลางวันยังสาหัสเป็นปกตินัก (ทำใจเท่านั้นค่ะ 555) โดยจุดหมายปลายทางแห่งแรก (หลังจากแวะมื้อเที่ยงซะนาน เป็นทริปกินซะมากกว่า) คือสถานีรถไฟถ้ำกระแซใน อ.ไทรโยค เพื่อชมวิวโค้งรถไฟสายมรณะ และไหว้พระวัดถ้ำกระแซนั่นเอง ขอบอกว่าวิวสวยมากมาย แต่ก็ท้าแดดสุดๆ ดีที่มีถ้ำกับร่มไม้ให้แอบหลบแดดได้เป็นพักๆ
แม้หน้าตาจะโทรมแดดเล็กน้อย แต่แก๊งส์เราก็ไม่ย่อท้อ ไปต่อกันที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 เพื่อแปลงร่างเป็นแม่หญิงและท่านขุน เดินเล่นในบรรยากาศ (และขนม) ย้อนยุค เป็นงัยคะ สีสันตัดกันสุดๆ เลยใช่มั้ยล่ะ มาเที่ยวที่นี่นะคะ มาเย็นๆ ซัก 4-5 โมงแบบนี้กำลังดี เพราะไม่ร้อนจนเกินไป และควรมากับกลุ่มเพื่อนที่ชอบแอ๊คติ้งถ่ายรูปจะเวิร์กสุดๆ แถมมาแล้วก็ควรต้องแต่งตัวด้วยนะ เพราะถ้ากะว่าจะมาเดินเล่นเพลินๆ ก็อาจไม่สนุกเท่าไหร่ ไม่ได้มีพิพิธภัณฑ์ หรือมุมจัดแสดงอะไรให้ดูชมนัก ค่าเข้าชมกับค่าเช่าชุดแพงอยู่เหมือนกัน แต่ก็อยู่ในระดับที่พอรับได้ สำหรับการมาเที่ยวเป็นแก๊งส์ และหามุมเฮฮาถ่ายรูปสวยๆ กลับไป
มิสกะโปโลมีข้อแนะนำมาฝากนิดนึงนะคะ แม้ว่าชุดที่เค้าจัดให้จะครบเซ็ต ทั้งชิ้นบน ชิ้นล่าง เครื่องประดับ (ต่างหูหนีบ สร้อยคอ กำไลข้อมือ เข็มขัด) และร่มอีกคันสำหรับผู้หญิงเท่านั้น แต่รองเท้านี่คือของใครของมันนะคะ อยากให้รูปออกมาเนียนๆ ต้องพร้อมเองเลยค่ะ (แต่อันที่จริง แม่หญิงในชุดสไบ กับรองเท้าผ้าใบก็เก๋ไปอีกแบบนะ) อ้อ แล้วก็พวกของกระจุ๊กกระจิ๊ก อย่างเช่น กระเป๋าสตางค์ มือถือ ฯลฯ รวมทั้งเหรียญเงินโบราณ ที่ต้องแลกเพื่อใช้ซื้อของนู่นนี่ภายในเมืองย้อนยุค เฮ้อ เต็มไม้เต็มมือไปหมด (ร่มก็เกะกะเหลือเกิน) ถ้าสามารถเตรียมกระเป๋าถือใบเล็กๆ ที่เข้ากับชุดแม่หญิงไปด้วยก็จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ เพราะในเซ็ตเครื่องแต่งตัวไม่มีกระเป๋าถือแถมให้หรอกนะคะ (มีแค่ล็อคเกอร์ไว้ฝากของเท่านั้น)
เฮฮากันจนเค้าปิดเมืองไล่ ก็ไปต่อกันที่ชุมชนเก่าเมืองกาญฯ บนถนนปากแพรก (อยู่ริมกำแพงเมืองกาญฯ ใกล้พระบรมราชานุสาวรีย์พระนั่งเกล้าฯ) กันต่อเล็กน้อย ก่อนจะลงเอยที่มื้อเย็นมื้อใหญ่ (อีกแล้ว) และนอนหลับฝันดี เหนือโค้งน้ำสวยๆ ที่โรงแรม U Inchantree
เที่ยวตลาดชุมชนเมืองเก่า บนถนนปากแพรก
วิวโค้งน้ำสวยๆ ที่โรงแรม U Inchantree
วันถัดมา ก่อนกลับกรุงเทพฯ แวะเที่ยวกัน 2 ที่ค่ะ ที่แรกคือวัดถ้ำพุหว้า ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นวัดถ้ำที่เลิศมาก เดินทางก็ไม่ยาก อยู่ไม่ไกลเลยจากตัวเมืองเลย ภายในถ้ำมีโถงใหญ่ต้อนรับผู้คนที่มาไหว้พระ แล้วก็ยังมีโถงเล็กโถงน้อยดูเป็นส่วนตัวสำหรับนักปฏิบัติ (แต่ด้วยบรรยากาศที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปซะแล้ว จะยังสงบพอให้ปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ทราบเหมือนกัน) และที่ไม่แพ้ข้างในถ้ำ ก็คือประติมากรรมอันสุดอลังการ ที่พบเห็นตั้งแต่หน้าวัดนั่นเองแหละค่ะ ดูตามรูปได้เลยนะคะ
จากนั้นไปต่อกันที่ต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 100 ปี ที่กรมการสัตว์ทหารบก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายในสถานที่ราชการ ระหว่างทางภายในอาณาบริเวณอันร่มรื่น จะพบเห็บปศุสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย จนมาถึงที่ๆ มีรถนักท่องเที่ยวจอดกันเยอะๆ นั่นแหละค่ะ โอ้ว ช่างใหญ่โตอลังการเหลือเกิน ลำต้นนี่ก็คงซัก 10 คนโอบเห็นจะได้ ส่วนกิ่งก้านที่แผ่ขยายนี่ก็น่าจะครอบคลุมพื้นที่เป็นไร่ได้เลยแหละ บอกพิกัดแถมกันไว้ตรงนี้เลย 13.9553, 99.527 นะคะ จะได้ชัวร์ว่าถูกต้นแน่นอน :) ส่วนพวกเรา ก็กระโดดกันเพลินเลยค่ะ
พอแล้วค่ะ แดดร้อนมากละ กลับกันเถอะ 555 จบทริปแบบสบายๆ มีแค่เสาร์อาทิตย์ก็เที่ยวได้เพลินๆ เช่นนี้เองแหละค่ะ
บทความทั้งหมด
เที่ยวเมืองไทย
เที่ยวเมืองไทย
เที่ยวกาญฯ สบายๆ 2D1N (ถ้ำกระแซ เมืองมัลลิกา วัดถ้ำพุหว้า ต้นจามจุรียักษ์)
แก่งกระจาน 2D1N เที่ยวง่ายๆ (ล่องน้ำเพชร ชมเขื่อน ขึ้นเขาพะเนินทุ่ง)
เที่ยวเมืองจันทน์ 3D2N (ชุมชนเก่า น้ำตกพลิ้ว ป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน หาดคุ้งวิมาน)
สุราษฎร์ เขาสก 4D3N ตอน 1 – เที่ยวเมืองกับเหล่าฮีโร่
สุราษฎร์ เขาสก 4D3N ตอน 2 – สายน้ำและภูผา
แก่งกระจาน 2D1N เที่ยวง่ายๆ (ล่องน้ำเพชร ชมเขื่อน ขึ้นเขาพะเนินทุ่ง)
เที่ยวเมืองจันทน์ 3D2N (ชุมชนเก่า น้ำตกพลิ้ว ป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน หาดคุ้งวิมาน)
สุราษฎร์ เขาสก 4D3N ตอน 1 – เที่ยวเมืองกับเหล่าฮีโร่
สุราษฎร์ เขาสก 4D3N ตอน 2 – สายน้ำและภูผา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น