มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

24 มิถุนายน 2560

แก่งกระจาน 2D1N เที่ยวง่ายๆ (ล่องน้ำเพชร ชมเขื่อน ขึ้นเขาพะเนินทุ่ง)


อารมณ์ร้อนๆ ช่วง เม.ย.-พ.ค. ที่เมืองไทยก็พอจะมีที่ๆ อากาศไม่โหดร้ายให้ตะลอนเที่ยวได้อยู่เหมือนกัน และทริปนี้มิสกะโปโลก็เลือกปักหมุดลงที่แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี ซึ่งเป็นช่วงที่ผีเสื้อเยอะกำลังสวยเชียวล่ะ แถมเล่นน้ำก็เพลินดี เที่ยวทริปสั้นๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แค่หาที่พักคืนเดียวก็เที่ยวได้แล้ว แต่ถ้าได้เพิ่มอีกซักวัน ก็ได้กระโดดน้ำเล่นต่อชิลๆ เพิ่มอีกหน่อยล่ะ


จากกรุงเทพฯ ไปแก่งกระจาน ก็ประมาณ 200 กม. ถ้าไม่เสียเวลาแวะพัก ไปถึงก็ได้เวลาหามื้อเที่ยงรองท้องพอดีเลย จากนั้นก็เดินย่อยเล็กน้อยพร้อมชมวิวสวยๆ เหนือเขื่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ นั่นเอง และถ้าลัดเลาะไปอีกนิด จะถึงสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน ที่นี่เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมากางเต๊นท์พักผ่อนกันเยอะ วิวสวยใช่เล่น แต่ถ้าแดดไม่แรงจะดีกว่านี้นะ 555

โรงไฟฟ้าพลังน้ำ

วิวเขื่อนสวยๆ

สระบัวก็มี


สะพานแขวนแก่งกระจาน

กับพระเอกตามท้องเรื่อง

วิวกางเต็นท์แถวนี้สุดยอดไปเลย

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

ได้เวลานัดหมาย ก็ขับรถไปเช็คอินที่โรงแรม และรอทัวร์มารับไปพายเรือยางล่องแม่น้ำเพชรกันต่อค่ะ มาเป็นกระบะเปิดประทุนเลยทีเดียว (จะติดต่อกับทางโรงแรมก็ได้ แต่ราคาอาจจะแพงกว่าติดต่อทัวร์ที่จัดกิจกรรมพวกนี้โดยตรง ใช้กูเกิ้ลหาเอาไม่ยากหรอกค่ะ) ที่ต้องเปิดประทุนเพราะเอาไว้ขนเรือยางยังงัยล่ะค่ะ งานนี้ต้องเหมาเป็นลำๆ ละไม่เกิน 10 คน ชูชีพพร้อมคนพายพร้อมอีก 1 คน ที่เหลือใครแรงดีก็ช่วยๆ กันพายนะ ลำนี้ใช้แรงงานเด็กค่ะ โดนแซงโลดตลอด 555 ตลอดการล่องเรือก็ผ่านโรงแรมรีสอร์ตริมน้ำมากมาย แต่ละแห่งมีอุปกรณ์สไลเดอร์ เชือกโหน สะพานแขวน ฯลฯ ครบครัน พักแถวนี้ก็เล่นน้ำเพลินเลย แต่ระวังหน่อยละกัน น้ำค่อนข้างเชี่ยวเลยละ ชูชีพคือสิ่งจำเป็น แถมต้องแรงดีอีกพอควรนะ ไม่งั้นโดดลงน้ำแล้วโดนพัดไปไกล จะกลับโรงแรมไม่ถูกเอา

พร้อมแล้วค่าาาา

สไลเดอร์น่าเล่นจัง

โดนแซงตลอด

ล่องมาใกล้ถึงปลายทางแล้ว ขาโจ๋ทนไม่ไหวขอโดดน้ำบ้าง โอ้ววว เย็นเจี๊ยบเลยทีเดียว น้ำก็แรงเหลือเกิน เหนื่อยกว่าที่คิดแฮะ (ดีที่กัปตันเตือนไว้ ว่าใกล้ถึงค่อยลงน้ำ 555 เพราะน้ำเย็นๆ ว่ายนานไปอาจเป็นตะคริวได้) ขากลับหลังคารถรุ่นเรือยางก็มีน้ำหยดแหมะใส่หัวตลอดทาง พอกลับมาถึงโรงแรม ก็กระโดดน้ำเล่นต่อกันมันหยด จนเย็นย่ำกันเลยล่ะค่ะ

โดดน้ำซะเลย

อุปกรณ์ปีนป่ายและโดดน้ำที่รีสอร์ต

มื้อเย็นวันนี้กับวิวสวยๆ

คืนนี้นอนกันเร็วหน่อย เพราะพรุ่งนี้รถโฟร์วีลจะมารับแต่เช้าตรู่ นัดไว้ตี 5 ครึ่งเพื่อให้ทันขึ้นเขาพะเนินทุ่งรอบเช้า ไปชมทะเลหมอกนั่นเอง การขึ้นเขาพะเนินทุ่ง เค้าแบ่งรอบขึ้นลงนะคะ เพราะทางแคบ รถสวนกันลำบาก (มีวันละ 2 รอบ เวลาขึ้นช่วงเช้า 05:30-07:30 น. ช่วงบ่าย 13:00-15:00 น. ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้นอนค้างคืนที่แคมป์บ้านกร่างด้านบน ก็จะขึ้นรอบแรกกัน และเวลาลงช่วงเช้า 09:00-10:00 น. ช่วงบ่าย 16:00-17:00 น.) โดยเฉพาะตั้งแต่แคมป์บ้านกร่างเป็นต้นไป ถนนเป็นคลื่นลูกรังเลยละ ถ้าไม่ใช่โฟร์วีลก็เสี่ยงนิดนึง (จริงๆ ถ้ามีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ จะไม่ให้ขึ้นด้วยซ้ำ) แถมระหว่างทางมีธารน้ำไหล ให้รถได้ลุยจ๋อมลงไปอีกเป็นระยะๆ แต่เช้าๆ แบบนี้ ยังมองไม่ค่อยเห็นอะไรนัก แถมง่วงอีกต่างหาก สาวๆ กับเด็กๆ ที่นั่งข้างในรถด้านหน้ายังดี แต่หนุ่มๆ กะเด็กน้อยที่มั่นใจว่าแข็งแรงน่ะสิ นั่งปะทะลมอยู่บนกระบะก็หนาวสั่นเล็กน้อย อีกทั้งการเดินทางก็สมบุกสมบันเหลือเกิน ก้นและสะโพกเดือดร้อนไปตามๆ กัน 555

นั่งโฟร์วีวกระเตงกันไป

เฟิร์นสวยๆ ในอุทยาน

ถึงแล้วจุดชมวิวพะเนินทุ่งแห่งแรก

หมอกขาวโพลน

ค่างแว่นก็มี

จุดชมวิวจุดที่ 2

มาถึงจุดชมวิวบนเขาพะเนินทุ่งแล้ว นักท่องเที่ยวกับหมอกขาวตรึมพอๆ กันเลยค่ะ 555 และแดดก็ตามมาติดๆ (ขยันไปหน่อยมั้ย ไม่ต้องรีบมาก็ได้นะ) พักทานอาหารเช้า ชมวิวหมอก (มี 2 จุดคือที่ กม. 30 และ กม. 36) ส่องลิงส่องค่างเจอตัวนิดหน่อย พอสมควรก็ได้เวลาลงรอบเช้าละ ขากลับมีแวะตามโป่งลำธาร และเก็บภาพผีเสื้อสวยๆ … บางคนพกเกลือมาโรยเรียกผีเสื้อด้วย แต่คนขับรถเราเม้าท์ ว่าให้เจ๋งต้องปลาร้าเลย ตรึมชัวร์ โหว ผีเสื้อสวยๆ กับปลาร้าดูเข้ากันดี๊ดี 555

ธารน้ำที่พบเป็นระยะๆ ตลอดทาง

ลุยกันแบบนี้เลย จ๋อม

โป่งข้างๆ ธารนี้ ผีเสื้อตรึม

ฟังเสียงธรรมดาใสๆ ให้ชัดๆ กันไปเลย

ผ่านแคมป์บ้านกร่างอีกครั้ง แถวนี้ก็มีโป่งผีเสื้อด้วยเช่นกัน … แถมได้ยินว่ามีหมีมาแอบขโมยของกินในครัวด้วย … แต่พวกเราก็ขี้เกียจคุยกะหมีละ 555 ก่อนออกจากอุทยาน ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ที่ก็ผ่านมารอบนึงละ (แต่ก่อนหน้านั้นไม่ได้สังเกตุ) ก็แวะถ่ายรูปสวยๆ กลับมานิดๆ เป็นอันปิดทริปพะเนินทุ่งเรียบร้อย กลับมาถึงรีสอร์ตก็ทันมื้อเที่ยงพอดี

อุโมงค์ต้นไม้ หลังผ่านด่านเข้าอุทยานไปก็เจอ

จากนั้นก็นั่งเรือยนต์ชมเขื่อนต่ออีกนิด (ไม่ใช่เรือยางพายกันเองนะจ๊ะ เหนื่อยแย่ 555) หาดที่ขึ้นเรือก็ระหว่างทางจากจุดชมวิวสันเขื่อน กับสะพานแขวนนั่นเองแหละค่ะ ได้เก็บภาพสวยๆ ของเขื่อนแก่งกระจานมาพอสมควร พร้อมไอแดดอันอบอ้าวที่หนาแน่นขึ้น ไม่เอาละ ขึ้นรถเปิดแอร์เย็นๆ กลับกันเลยดีกว่า ระหว่างทางก็แวะพระรามราชนิเวศน์ หรือพระราชวังบ้านปืน เก็บภาพสวยๆ เล็กน้อย ก่อนตรงดิ่งรวดเดียวกลับกรุงเทพฯ ปิดทริปง่ายๆ 2D1N โดยสวัสดิภาพ

เตรียมพร้อมขึ้นเรือ


แดดแบบนี้เลย

สวยๆๆๆ


ป้ายสีฟ้าบอกชื่อเกาะ ว่าคือเกาะในหลวง ที่ครั้งหนึ่งท่านเคยเสด็จเยือน

แวะวังบ้านปืน ก่อนกลับกรุงเทพฯ

จริงๆ ถ้าอากาศช่วงกลางวันไม่ร้อนขนาดนี้ แถวใกล้ๆ แก่งกระจานก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่นโครงการชั่งหัวมัน และศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง เป็นต้น แต่ในเมื่อขยันทำอุณหภูมิมากซะขนาดนี้ ปล่อยให้อากาศเย็นๆ แค่เช้ากับเย็น ก็บ๊ายบายแต่เพียงเท่านี้ละ เก็บไว้รอบหน้าละกัน ใกล้แค่นี้เอง มาได้อีกหลายรอบเลย


http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น