อันที่จริงฟ้าฝนก็ไม่ได้เป็นใจให้ลั้นลาเที่ยวได้ตลอดนะ เพียงแต่ก็ไม่ได้ใจร้ายจนเกินไป ตั้งแต่เมื่อบล็อกก่อน ที่พวกเราเดินหาซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับ หรือ day trip จากฮานอย ก็เลือกแล้วว่าวันนึงจะไปล่องเรือใหญ่ที่อ่าวฮาลอง (Ha Long Bay) และอีกวันก็ล่องเรือเล็กที่ฉางอัน (Trang An) ในเมือง Ninh Binh หรือฉายาฮาลองบกนั่นเอง ซึ่งตอนนั้นก็ดูพยากรณ์อากาศไว้เหมือนกัน ชะรอยว่าวันนี้ฝนจะตกปรอยๆ ส่วนพรุ่งนี้ท้องฟ้าน่าจะสดใสกว่า ก็เลยตกลงปลงใจว่า ฮาลองเบย์ค่อยไปวันพรุ่งนี้ละกัน (เพราะถ้าฝนตกคงล่องเรือออกทะเลไม่สนุกแน่) ส่วนฮาลองบนบกก็ไปวันนี้เลย เพราะเรามีเวลากันแค่นี้ ฝนตกเพียงปรอยๆ ล่องแค่แม่น้ำลำคลองก็น่าจะพอไหว แบบลุ้นๆ หน่อย
ไปล่องเรือลอดถ้ำที่ Trang An กัน
แล้วพยากรณ์อากาศก็แม่นจริงๆ ฝนตกปรอยๆ แต่เช้าเลย แต่โปรแกรมตอนเช้ามีไปวัดพุทธนิกายมหายานก่อน คือ Bai Dinh Pagoda ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้อยากไปเท่าไหร่หรอก แต่ทัวร์ Trang An เค้าจัดให้แบบไม่ต้องขอ (เพราะน่าจะเป็นทางผ่านเพียงแห่งเดียวที่แวะเที่ยวได้) แล้วช่วงบ่ายๆ ค่อยล่องเรือเป็นไฮไลท์ของทัวร์ ก็ค่อยมาลุ้นอีกทีว่าฝนจะหยุดมั้ย
ร้านขายของหน้าวัด เปียกเชียว
เราออกจากฮานอยประมาณ 8 โมงครึ่ง ก่อนหน้ารถตู้ได้ตระเวนรับผู้โดยสารจากโรงแรมอื่นมาเยอะแล้ว ของมิสกะโปโลเป็นคนท้ายๆ และจำนวนลูกทัวร์ก็หลวมๆ เลยไม่ค่อยเสียเวลานัก ฝนตกปรอยๆ สร้างความชุ่มฉ่ำไปตลอดทาง ระหว่างทางก็ผ่านไร่นาดูชนบทดีเหลือเกิน ไกด์ประจำกรุ๊ปคุยเอนเทอร์เทนลูกทัวร์ไปตลอดทาง (แต่บางทีก็ขี้เกียจฟังนะ สำเนียงอังกฤษสไตล์เวียดนามของไกด์คนนี้ ฟังแล้วค่อนข้างเหนื่อยอยู่ 55) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงวัด Bai Dinh
ได้นั่งรถไฟฟ้าเข้าวัดเพลินๆ
มาส่งถึงตรงนี้
ฝนยังตกต่อเนื่อง เลยต้องกางร่มเที่ยวกัน แต่ก็ไม่หนักหนาอะไร เพราะแม้วัด Bai Dinh จะมีบริเวณกว้างขวาง (ใหญ่สุดในเวียดนาม) แต่เค้าก็มีรถไฟฟ้าค่อยให้บริการวิ่งรับส่งจากหน้าประตูใหญ่เลย (ห้ามขับรถเข้าไปเอง แต่ก็พอเดินไหว) … เวลาซื้อทัวร์ควรเช็คก่อนว่าได้รวมค่าตั๋วรถไฟฟ้านี้แล้วรึยัง
ตรงระเบียงทางเดินยาวๆ
ระเบียงทางเดินของวัด Bai Dinh ค่อยๆ พาไต่ระดับขึ้นเขาไปเรื่อยๆ แต่เนื่องจากทางยาวมาก เลยไม่ค่อยรู้สึกว่ากำลังขึ้นเขา ตามทางมีรูปปั้นพระอรหันต์ในโพสต์ต่างๆ ประดิษฐานมากมาย (ไกด์บอกว่ามีมากกว่า 500 องค์) บางโพสต์ก็ดูแปลกตาปนตื่นเต้นหน่อยๆ (ไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้ อิอิ) เลยเดินได้เพลินๆ แม้จะค่อนข้างไกลอยู่เหมือนกัน
จนมาถึงกลางทางก็เจอหอระฆังยักษ์ สูง 22 เมตร ซึ่งต้องปีนขึ้นไป 5 ชั้นถึงข้างบนสุด เหนื่อยใช้ได้ทีเดียว
บนหอระฆัง มีระฆังอยู่บน กลองอยู่ล่าง ไซส์ยักษ์ทั้งคู่
วิววัด Bai Dinh สวยๆ จากบนหอระฆัง
แล้วก็ไปต่อที่วิหารด้านใน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ขนาดใหญ่ สีทองอร่ามอลังการมากมาย
จากนั้นก็ไต่เขา เดินลึกเข้าไปชมอีกหนึ่งวิหารชั้นใน ซึ่งเห็นบันไดแล้วก็หอบแฮ่กอยู่เหมือนกันนะ
ชันนะ ขอบอก
ขากลับสบายละ เพราะเป็นทางลงเขา ซึ่งยังต้องผ่านระเบียงพระอรหันต์เหมือนเดิม แล้วก็นั่งรถไฟฟ้ากลับออกมา ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว เย้ๆๆๆ บ่ายนี้ได้นั่งเรือแน่ละ แต่ก่อนอื่นต้องแวะเดิมพลังก่อน ซึ่งมื้อเที่ยงวันนี้เป็นบุพเฟ่ห์ในร้านอาหารกลางหุบเขา ส่วนรสชาติก็บอกเลยค่ะ ว่าแค่กินประทังชีวิต ไม่แน่ใจถ้าจ่ายค่าทัวร์มาถูกกว่านี้จะโดนเอาไปปล่อยที่ร้านแบบไหน เอ๊ะ หรือเราจ่ายแพงเอง จะราคาไหนก็ร้านนี้แหละ รึป่าวนะ 555
ลำละ 4 คนนะ
เรือจอดรอที่ท่าเพียบเลย ตรงหน้าทางเข้าแถวนั้น มีแผนที่เขียนบอกไว้ว่าเส้นทางล่องเรือมี 2 เส้นให้เลือกนะ แต่ไกด์บอกว่าของพวกเราจะไปเส้นที่สวยกว่า และได้แวะ Kong Skull Island (ที่เค้าถ่ายทำภาพยนต์เรื่องคิงคองนั่นแหละ) ด้วย ไกด์ไปซื้อตั๋วเสร็จก็ทยอยต้อนลูกทัวร์ขึ้นเรือไปลำละ 4 คน ไอ้เราก็อุตสาห์รอไว้เป็นคนท้ายๆ เผื่อฟลุ้คได้นั่ง 2 คน ซึ่งก็เป็นจริงเช่นนั้น แต่ปรากฏว่าคนพายไม่ยอมออกเรือน่ะสิคะ เค้ารอให้ครบ 4 คนก่อน ไม่งั้นไม่ออก ว้า เซ็งเลย
ดอกบัวสวยๆ
สุดท้าย 2 หนุ่มเกาหลีลูกทัวร์กรุ๊ปเดียวกัน ซึ่งอยากไปอีกเส้นทางมากกว่า รออยู่เป็นนานก็ไม่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมด้วยซะที ในที่สุดจึงยอมเปลี่ยนใจมาลงเรือลำเดียวกับพวกเรา แล้วก็บ่นๆ ว่าเค้าอยากไปอีกเส้นทางหนึ่งมากกว่า เพราะได้ยินมาว่าสวยกว่า อ้าว หรา จริงดิ ต๊าย ไม่ต้องสาธยายต่อนะ ไม่อยากได้ยิน ยังงัยก็ตกลงปลงใจ (คือโดนยัดเยียด) เส้นทางนี้มาแล้วนี่คะ
ถ้ำแรกแล้ว เตี้ยไปมั้ย 55
แล้วก็มีแลกเปลี่ยนเช็ดราคาทัวร์กันหน่อยๆ ดูเค้าทำหน้าตกใจตอนได้ยินราคาทัวร์ของเรานะ ฟังไม่ถนัดว่าของเค้าเท่าไหร่ แต่เหมือนจะแพงกว่าของพวกเรา (เข้าข้างตัวเอง) เพราะเค้าบ่นๆ ว่าเค้าจ่ายราคาขนาดนี้ก็ค่อนข้างคาดหวังกว่านี้ โถๆๆ นี่ขนาดไม่แน่ใจว่าใครจ่ายแพงกว่า มิสกะโปโลก็ยังอุตส่าห์เห็นใจเค้าเลย
ไม่ใช่นักท่องเที่ยวก็มี
ส่วนพวกเราที่มากันแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก (แค่ลุ้นให้ฝนหยุดตกได้ก็ดีใจจะแย่แล้ว) ก็สุดจะเพลิดเพลินกับเส้นทางล่องเรือครั้งนี้มากเลย อากาศหลังฝนเย็นสบายดีแท้ ชื่นชมกับดอกบัวที่มีอยู่ประปรายท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา จนมาถึงถ้ำแรก
โอ้โห นี่จะพายเรือลอดเข้าไปเลยใช่มั้ย ตื่นเต้นๆ แต่แหม ก็เตี้ยอยู่นะ ต้องหลบดีๆ … มา day tour วันนี้มิสกะโปโลยังคงเตรียมตัวมาดีเช่นเคย แม้ไม่ได้พกขนมมาแจกเด็ก (เพราะไม่มีเด็กให้แจกแน่) แต่พกไฟฉายมาพร้อมค่ะ เข้าถ้ำมืดๆ แบบนี้เอาไฟมาส่องดูหินงอกหินย้อยสนุกดีจัง แต่ก็ต้องระวังไม่เผลอยื่นหน้าไปกระแทกหินนะคะ เพราะแม้คนพายจะรู้จักร่องน้ำดีอยู่ แต่เราก็ควรต้องระวังเองด้วยค่ะ เพราะหน้าเราไม่ใช่หน้าเค้านิ 55
จะแวะขึ้นเกาะ Kong Skull Island
เข้าๆ ออกๆ อยู่ประมาณ 3-4 ถ้ำค่ะ จำไม่ค่อยได้แน่ชัด (มัวแต่ตื่นเต้นอยู่) เล็กบ้างใหญ่บ้างปนๆ กันไป แต่ก็ตื่นเต้นทุกถ้ำเลยทีเดียว จนสุดท้ายก็พายมาส่งที่ท่าเรือบนเกาะ Kong ให้พวกเราได้ขยับแข้งขาเดินเล่นเพลินๆ กัน … จำหน้าคนพายไว้ด้วยนะคะ ขากลับที่อีกท่าใกล้ๆ จะได้ขึ้นถูกลำ สื่อสารกันยิ่งไม่ค่อยจะเข้าใจอยู่ด้วย ต้องอาศัยจำๆ เอาค่ะ ไม่เราจำเค้า และเค้าจำเรา ถ้ากลับมาที่ท่าแล้วดูงงๆ ก็หวังว่าเค้าจะโบกไม้โบกมือเรียกเราด้วยล่ะ 55
555 เกาะนี้ข้ายึด
ซากเครื่องบินที่ใช้ถ่ายทำ รึป่าวน้อ
มีแบบนี้ด้วย
แล้วก็เป็นอันจบคอร์สแล้วค่ะ ขากลับจากเกาะ Kong ไปที่ท่าเรือ วิวทิวทัศน์ก็ยังสวยอยู่หรอกนะ แต่ไม่ค่อยมีอะไรให้ว้าวๆ แล้ว (เพราะว้าวไปจนหมดแรงตั้งแต่ถ้ำแรกๆ แล้ว 55) จากนั้นก็นั่งรถรวดเดียวยาวๆ กลับถึงฮานอย … จริงๆ มีแวะพักระหว่างทางให้เข้าห้องน้ำแป๊บๆ ด้วย หรือถ้าใครจะกินข้าวเลยก็ต้องทำเวลาหน่อย … แต่มิสกะโปโลคิดว่า day tour Trang An รอบนี้ กลับถึงฮานอยไม่ได้ดีกดื่นนัก ประมาณทุ่มนิดๆ ก็ถึงแล้ว ไว้ค่อยไปหาของกินอร่อยๆ แถวในเมืองก็ได้ค่ะ
ร้านนี้แหละ ที่เล็งไว้
แล้วก็เป็นจริงดังนั้น โดยเฉพาะแถบที่พักใกล้ๆ ทะเลสาบหว่านเกี๊ยมของพวกเรา ยังคงคึกคักสุดๆ ร้านริมถนนมีโต๊ะนั่งเตี้ยๆ และคนเยอะจนล้นมานอกร้านแบบนี้ ที่เล็งไว้ตั้งแต่วันก่อนนู้นละ ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้ลิ้มลองวันนี้เอง ตอนแรกก็ลุ้นๆ อยู่ แต่เอาเข้าจริงก็แซ่บมากเลย นี่แหละ อาหารเวียดนามที่แท้ทรู แถมยังสบายกระเป๋าสตางค์อีกต่างหาก อิอิ … พรุ่งนี้ตื่นเช้าอีกวันไปฮาลองเบย์ค่ะ
อร่อยหมด แค่นี้กินกัน 2 คนก็จุกแล้ว
แซ่บ กระทั่งน้ำจิ้ม
ความสุข เสริฟบนถาด
ไอดิมยี่ห้อท้องถิ่น ปิดท้าย
ป.ล. ทัวร์นี้มีน้ำเปล่าแจกให้คนละขวดนะคะ แต่เนื่องจากอ่านรีวิวไปเยอะ ก็เลยพกจากที่โรงแรมติดตัวไปด้วยอีกหลายขวด ซึ่งผลก็คือ … หนักค่ะ 55
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 1 – Hanoi’s weekend รอบแรก
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 2 – Sa Pa เดินเที่ยวใกล้ๆ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 3 – Sa Pa วันนี้มีรถ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 4 – Trang An
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 5 – Ha Long Bay
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 6 – Hanoi’s weekend รอบปิดท้าย
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 2 – Sa Pa เดินเที่ยวใกล้ๆ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 3 – Sa Pa วันนี้มีรถ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 4 – Trang An
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 5 – Ha Long Bay
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 6 – Hanoi’s weekend รอบปิดท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น