กลับจาก day tour Ha Long Bay เมื่อคืนเหนื่อยมาก เช้านี้เลยขออู้ตื่นมาสายๆ หน่อย แล้วยังต้องแพ็จกระเป๋าเตรียมบินกลับเย็นนี้อีก กว่าจะได้ออกตะลอนทัวร์ฮานอยเป็นวันปิดท้าย ก็ปาเข้าไป 10 โมงละ อิอิ รอบที่พักใกล้ทะเลสาบหว่านเกี๊ยม เริ่มคึกคักมาได้พักใหญ่ละ เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันปิดถนนให้คนเดินในช่วงสุดสัปดาห์นั่นเอง บรรยากาศยังน่าเดินเหมือนเดิม แต่มีที่น่าเสียดายก็คือ ฝนที่ตกมาลงปรอยๆ และก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ซะด้วย
สวนสวยในวัด Temple of Literature
วันก่อนเราเล่นชมกิจกรรมวันหยุดรอบทะเลสาบหว่านเกี๊ยมกันเพลินๆ ไปแล้ว วันนี้จะไปตะลอนกันไกลหน่อยค่ะ เดินไปเองคงไม่ไหว ก็เลยให้โรงแรมเรียกแท๊กซี่ให้ แป๊บเดียวก็มา โดยจุดหมายแรกของวันนี้คือ เจดีย์เตริ่นกว็อก (Tran Quoc Pagoda) ที่ตั้งอยู่บน West Lake ทะเลสาบใหญ่ (ใหญ่กว่าหว่านเกี๊ยมมากมายหลายเท่านัก) ห่างออกไปทางตอนเหนือประมาณ 4-5 กิโลเมตร ค่าแท็กซี่ 4 หมื่นด่อง (60 บาท) เท่านั้น แต่วัด Tran Quoc นี้ก็ไม่ได้เปิดให้เข้าชมข้างในหรอกนะคะ เราจึงได้แค่ถ่ายรูปสวยๆ จากด้านหน้าเท่านั้น ท่ามกลางสายฝนปรอยๆ
Tran Quoc Pagoda
ไปต่อเรื่อยๆ ทางทิศใต้
ถนนแถวนี้ต้นไม้ปกคลุมร่มรื่นดี
จากนั้นก็อาศัย 2 ขาต่อค่ะ เดินเลียบทะเลสาบชิลๆ ไปทางทิศใต้กิโลกว่าๆ (ตัดใจไม่แวะ Seramic Mosaid Moral เพราะอยู่อีกทาง ขี้เกียจเดินย้อนไปย้อนมา) ก็มาถึงย่านถนนคนเดินอีกแห่ง ที่ออกจะเป็นทางการมากกว่า เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ราชการสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นทำเทียบประธานาธิบดี อดีตศูนย์กลางการปกครอง (Presidential Palace) สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum) วัดเจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติเวียดนาม (Vietnam Fine Arts Museum) อยู่แถวๆ นั้นด้วยกันหมดเลย ว่าแต่ … เดินเที่ยวแถวนั้นต้องสำรวมนิดนึงนะคะ เค้ามีเส้นแบ่งไม่ให้คนทั่วไปเดินพ้นเข้ามาด้วย ต้องเดินบนพื้นถนนเท่านั้น (ก็อุตส่าห์ปิดให้คนเดินโดยเฉพาะแล้ว) และใช้ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้นะ เพราะจะมีทหารเดินมาสะกิดกันเลยทีเดียว (โดนมาแล้ว 55)
Presidential Palace สีเหลืองสดเชียว
สุสานโฮจิมินห์
วัดเจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda)
พระพุทธรูปและเครื่องบูชาภายในวัดเจดีย์เสาเดียว
ภาพปริศนาธรรมภายในวัด
จุดหมายถัดไป อยู่ห่างไปทางใต้ไปอีกกิโลกว่าๆ คือวิหารวรรณกรรม (Temple of Literature) หรือที่ชาวเวียดนามเรียก วันเหมียว ระหว่างทางก็ผ่านร้านค้าท้องถิ่นที่ขายของกันเป็นโซนๆ อีกแล้ว แต่โซนที่ผ่านคราวนี้ดูจะออกแนวศิลปะเยอะหน่อย เดินๆ ก็เพลินดีเหมือนกัน (พยายามทำตัวให้เพลินไว้ก่อน ดีกว่าเมื่อยกับเซ็ง 55)
ร้านค้าแถวนี้เป็นโซนศิลปะ
สวยสวยที่ทางเข้าด้านหน้าวิหารวรรณกรรม ที่ขายตั๋วอยู่ขวามือ
วิหารวรรณกรรม อดีตเป็นโรงเรียนของพวกขุนนาง และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่ท่านขงจื๊อ มีกำแพงล้อมรอบทุกด้าน ทางเข้าอยู่ทางทิศใต้ พวกเราเดินมาจากทางเหนือ ก็เลยต้องอ้อมหน่อยๆ เดินเมื่อยอยู่เหมือนกัน ตอนที่ไปถึง เห็นเด็กนักเรียนแต่งตัวมาชุมนุมกันในชุดเต็มยศ เข้าใจว่ามาฉลองจบการศึกษากันนะ ผู้หญิงใส่ชุดประจำชาติอ๋าวหย่ายสีขาว แต่ละคนหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักดี ก็เลยอุตส่าห์เข้าไปเจ๊าะแจ๊ะ และร่วมแสดงความยินดีกับเค้ามาด้วยนิดนึง อิอิ
เด็กๆ มาฉลองเรียนจบมัธยมปลาย
จากนั้นก็ว่าจะกลับไปแถวทะเลสาบหว่านเกี๊ยมละ เพราะส่วนตัวชอบที่มันคึกคัก น่าเดินกว่าเยอะ จากวิหารวรรณกรรมเดินไปก็เกือบๆ 3 กิโล เรานั่งแท็กซี่กันเถอะค่ะ 55 เอาล่ะ … เป็นครั้งแรกในทริปเวียดนามที่จะได้เรียกแท๊กซี่เองละ (ไม่นับที่นั่งมอเตอร์ไซค์จากหมู่บ้าน Cat Cat กลับเข้าซาปา) ซึ่งพวกเราก็หากันง่ายๆ ที่จอดกันอยู่ตรงถนนข้างวิหารเลย ถามเค้าว่าไปทางเหนือของทะเลสาบหว่านเกี๊ยม คิดเท่าไหร่ พอเค้าบอกว่าคิดตามมิเตอร์ ก็เลย OK คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
วิหารด้านใน Temple of Literature
วิวจากวิหารชั้นบน
ปรากฏว่ามิเตอร์ขึ้นเร็วมาก และพวกเราดู google map กันตลอดทาง ก็รู้ว่าเค้าพาขับวนไปวนมาค่ะ ขาจากโรงแรมไกลกว่านี้อีกยังแค่ 4 หมื่นด่อง นี่วิ่งมาไม่เท่าไหร่ก็ทะลุทะลวงเรทขามาไปเรียบร้อยแล้ว เลยคุยกันว่าจะเล็งซักที่ใกล้ๆ จุดหมายปลายทาง แล้วลงเดินเองกันเถอะ อย่าปล่อยให้ทะลุเกิน 1 แสนด่องเลย
ลงจากแท็กซี่เดินไปทางทะเลสาบหว่านเกี๊ยม ก็เจอโซนร้านขายแว่นตา
แล้วก็มุมสวยๆ แบบนี้
ถนนคนเดิมรอบทะเลสาบหว่านเกี๊ยมในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ดีจริง เพิ่งฉลองคริสต์มาสมาเมื่อวีคที่แล้ว ตอนนี้เตรียมจัดเวทีฉลองปีใหม่ละ คึกคักมากมาย เสียดายที่ฝนยังคกตกต่อเนื่อง และดูจะออกอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยเดินเล่นหาร้านอาหาร (ที่เล็งๆ ไว้แต่แรก … อีกแล้ว … เล็งไว้เยอะเชียว 55) ต่อด้วยกาแฟอีกแก้ว เพลินๆ สบายๆ ส่งท้าย
เตรียมงานฉลอง Count Down กันแล้วสินะ
เที่ยงนี้จัดหนัก
จากนั้นก็พากันกลับโรงแรม รับกระเป๋า ให้โรงแรมเรียกแท็กซี่ไปส่งสนามบินให้ (เรทสแตนดาร์ด 20 เหรียญ เชื่อถือได้ ชัวร์สุดละ 55) แล้วก็บ๊าย บาย จบทริปเวียดนามเหนือแต่เพียงเท่านี้ สนุกสุดๆ ค่ะ
ร้านกาแฟร้านนี้ก็น่านั่ง
นั่งโต๊ะเตี้ยๆ กันแบบนี้
กาแฟเวียดนามแก้วสุดท้ายของทริป
สรุปค่าเสียหายกันนิดนึงนะคะ ทริปนี้รวมๆ แล้วเฉลี่ยคนละไม่เกิน 2 หมื่นบาท เป็นค่าโรงแรม 4 พัน (คือตกคืนละประมาณ 5-600 บาทต่อคนเท่านั้น ก็ได้ทั้งที่สะดวกสบาย และทำเลดีๆ แล้ว) ค่าตั๋วเครื่องบิน 7 พันนิดๆ ที่เหลือก็ค่าทัวร์ ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าขึ้นกระเช้าที่ซาปา ค่าเช่ารถ จิปาถะ … ทั้งที่ก็เที่ยวกันชิลๆ และกินกันเพลินสุดๆ แล้วนะ ใครงบน้อยๆ ลองหาวิธีบีบค่าใช้จ่ายได้อีกนะคะ ประเทศนี้เที่ยวสนุกและไม่แพงเลย ระวังอย่างเดียว เลี่ยงๆ อย่าให้โดนตื๊อ โดนหลอก เอาง่ายๆ จนเสียความรู้สึกก็พอ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 1 – Hanoi’s weekend รอบแรก
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 2 – Sa Pa เดินเที่ยวใกล้ๆ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 3 – Sa Pa วันนี้มีรถ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 4 – Trang An
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 5 – Ha Long Bay
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 6 – Hanoi’s weekend รอบปิดท้าย
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 2 – Sa Pa เดินเที่ยวใกล้ๆ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 3 – Sa Pa วันนี้มีรถ
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 4 – Trang An
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 5 – Ha Long Bay
Merry X’mas เวียดนามเหนือ ตอน 6 – Hanoi’s weekend รอบปิดท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น