ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นเริ่มเข้าหน้าร้อนแล้ว ทิปิจังเลยขอแปะมือมาพาเที่ยวฮอกไกโด เกาะสวรรค์หน้าร้อนกันต่ออีกครั้ง แต่บล็อกนี้ไม่ได้พาเที่ยวสวนดอกไม้นะคะ (เที่ยวสวนดอกไม้ ดูบล็อกนี้) แต่จะพาเที่ยวเมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด คือซัปโปโร โดยตะลอนเก็บพ้อยต์ไปตามแลนด์มาร์คต่างๆ ให้ครบ แล้วค่อยไปต่อที่ไฮไลท์แสนอร่อย ที่อยู่กันเพลินๆ ได้นานจริงจัง นั่นก็คือโรงงานช็อคโกแลต Shiroi Koibito หรือคนรักสีขาว ก่อนจะปิดท้าย 1-day trip ด้วยหม้อไฟขาปูยักษ์ เป็นมื้อเย็นสุดแซ่บ คุ้มกับที่อุตส่าห์มาถึงฮอกไกโด
เริ่มต้นจากสถานี JR Sapporo
เห็นอย่างนี้ซัปโปโรก็เมืองใหญ่ใช่เล่น เพราะใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่นเลย … สองเท้าอย่างเดียวแย่แน่ค่ะ ต้องหาตัวช่วยอย่างเช่น Subway 1-day card ซักหน่อยแล้ว สามารถใช้ขึ้นลงรถไฟใต้ดินแบบบุพเฟ่ต์ได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ
เดินมาตามถนนหน้าสถานี JR Sapporo
เขตปรับปรุงก็กั้นขอบเขตกันจริงจัง ดูน่าไว้วางใจมาก
เริ่มต้นจากสถานี JR Sapporo เดินเอาก่อนนะคะ เพราะแลนด์มาร์คสำคัญๆ อย่าง อาคารอิฐสีแดงอดีตศาลาว่าการเมือง Akarenka หอนาฬิกาเก่าแก่ Clock Tower อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และหอส่งสัญญาณสถานีโทรทัศน์ TV Tower ที่ต้นถนนโอโดริ (ที่จัดงานเทศกาลหิมะในช่วงเดือนก.พ.) ก็อยู่ใกล้ๆ กับสถานี JR Sapporo นี้เอง … แต่เราไม่โอ้เอ้กันแถวนี้นานนักหรอก แค่เก็บภาพสวยๆ ของบรรดาแลนด์มาร์ค ที่ห้อมล้อมด้วยสีสันสดใสของดอกไม้หน้าร้อนเสร็จ ก็ขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานี Odori นั่งป้ายนึงไปลงที่ Susukino กันต่อเลยค่ะ
Akarenka อาคารอิฐสีแดงเก่าแก่
หอนาฬิกา Clock Tower
TV Tower ต้นถนนโอโดริ
เพราะว่าตอนนี้ท้องเริ่มร้องกระจองอแงแล้ว อยากกินราเมงมากเลย มาฮอกไกโดก็ต้องฮอกไกโดราเมงสินะ นี่เลยค่ะ Ramen Alley หรือ Ramen Yokocho ตรอกเล็กๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้ละ รวมร้านราเมงสุดฮอตฮิตของเมืองมากองรวมกันตรงนี้เลย มีหลายร้านเลือกไม่ถูก แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่ร้านนี้ค่ะ … ดูสิคะ ใส่ปูด้วย น่ากินมั้ย
หน้าทางเข้า Ramen Yokocho ตรอกเล็กๆ
น่ากินชิมิ คริๆๆ
มีแรงแล้วก็ไปตะลุยต่อสิคะ คราวนี้นั่งรถไฟใต้ดินไปไกลนิดนึง ไปลงสถานี Miyanosawa ที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกของเมือง นั่งรถไฟกันเกือบครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว จากนั้นยังต้องเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที เพื่อมาที่นี่ค่ะ Shiroi Koibito Park โรงงานช็อคโกแลตชื่อดัง ที่ดูจากหน้าตาด้านนอกก็ทำเอาใจแป้วอยู่ไม่น้อย เอ๊ะ เรามากันถูกที่รึป่าวเนี่ย 55
ดูเป็นโรงงานจริงๆ เลยนะ
แต่พอเข้ามาข้างในนี่สิคะ โอ้ ว้าว อลังการวี้ดวิ้วดีแท้ ช่างแตกต่างจากด้านนอกเสียนี่กระไร (จริงๆ เค้ารักษาบรรยากาศด้านนอกให้ยังดูเก่าแก่ เป็นอาคารอิฐสีแดงแบบแต่ก่อน พวกเราตาไม่ถึงเองตะหาก … แต่มาถึงถูกต้องก็แล้วกัน อิอิ) ทั้งสวนสวยสไตล์ยุโรป การตกแต่งภายในอาคารที่สุดจะคลาสสิค แม้แต่ไลน์การผลิตก็ยังทำออกมาได้น่ารักซะเหลือเกิน แถมยังมีมุม workshop ให้ได้ทดลองทำนู่นนี่เอง และมุมขนมหม่ำๆ สำหรับคนไม่ชอบทำ แต่ชอบชิม ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งมุมถ่ายรูปสวยๆ และอร่อยมากมาย
ผ่านสวนสวยแว้บๆ
ข้างในก็หรู
ดูมีสไตล์มาก
ไลน์การผลิตก็เจ๋ง
ตกแต่งได้น่ารักมาก
ความรู้ก็ได้
Workshop ก็มี
นักเรียนตัวน้อย
ว้าว สวยจนคงไม่มีใครกล้ากิน
กินอันนี้แทนดีกว่า
ถึงเวลาช้อป
จากนั้นก็มาต่อที่สวนสวยด้านนอกแบบชัดๆ ชิลๆ กันอีกครั้งนะคะ (เมื่อกี๊แค่ผ่านๆ) โอ้ว ว้าว นี่เค้าจัดหนักกันขนาดนี้เลยหรา น่ารักมากเลยค่ะ ขนาดตุ๊กตุ่นตุ๊กตาที่ออกมาเต้นโชว์ทักทายกันทุกชั่วโมง พวกเรายังอยู่กันข้ามชั่วโมงจนได้ชมถึง 2 รอบเลย เพลินเหลือเกิน
มีบ้านต้นไม้ด้วย
ต้องจัดหนักขนาดนี้เลยหรา น่ารักมาก
มุมนี้ก็สวยสุดๆ
ได้เวลาออกมาโชว์ทุกชั่วโมง
ตรงนี้ก็ด้วย
จนไม่ต้องไปต่อกันที่ไหนอีกละ ขนมที่หอบหิ้วกันมาจาก Shiroi Koibito Park ก็พะรุงพะรังซะ แถมกว่าจะเดิน กว่าจะนั่งรถไฟกลับเข้าเมือง ที่แพลนไว้จะไปตะลอนฆ่าเวลาถ้าเกิดไม่รู้จะทำอะไรอีก 2 แห่งคือศาลเจ้า Hokkaido Shrine และ Sapporo City Archive Museum (เปิดถึง 1 ทุ่ม) ก็ตัดทิ้งไปซะเลย แล้วนั่งรถไฟกลับมาแถวๆ Susukino กันอีกครั้ง เพื่อตามหาหม้อไฟขาปูยักษ์นั่นเอง
ร้านนี้เลยค่ะ
เสริฟแล้ว
และนี่ค่ะ ปิดท้าย 1-day trip ซัปโปโรของพวกเรา หน้าตาแบบนี้นี่เอง … แค่วันเดียวก็สนุกและแซ่บหลายเหลือเกิน ที่เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโดแห่งนี้
อิ่มแปร้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น