มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

27 มิถุนายน 2561

อะไรจะเต็มอิ่มขนาดนี้ @Hakodate


บล็อกนี้เป็นการเดินทางต่อเนื่อง หลังจากเที่ยวเพลินๆ ช่วงเช้าที่แถบ Noboribetsu/ Shiraoi เสร็จแล้ว ก็พากันกระเต็งกระเป๋าขึ้นรถไฟ JR เดินทางต่อมายังเมืองที่ใหญ่โตเป็นอันดับ 3 ของเกาะฮอกไกโด คือเมืองฮาโคดาเตะ บนติ่งทางใต้สุดของเกาะนั่นเอง ซึ่งกว่าจะมาถึงก็ 4 โมงเย็นแล้ว แต่ก็ไม่ถือว่าสายจนเกินไป เพราะไฮไลท์จะอยู่ในช่วงค่ำๆ เนี่ยแหละ แล้วพอตื่นเช้าขึ้นมาอีกวัน ก็ยังเตรดเตร่ที่ตลาดเช้าอันโด่งดังได้อีก … อยู่กันที่เมืองฮาโคดาเตะนี้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่บอกเลยว่าเต็มอิ่มสุดๆ ตามมาดูกันเลยค่ะ

บรรยากาศย่านท่าเรือที่ Hakodate ดูน่ารัก และโรแมนติกมาก

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮาโคดาเตะของทิปิจังครั้งนี้ จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ นะคะ โดยส่วนแรกก็คือแถบท่าเรือ และเดินเลียบริมทะเลไปเรื่อยๆ จนถึงอนุสรณ์สถานก้าวแรกฮอกไกโด (Hokkaido First Step Monument) จากนั้นก็หันหน้าไปทางภูเขาฮาโคดาเตะ และเข้าสู่ส่วนที่ 2 ใกล้ๆ ก็คือ Motomachi ซึ่งเป็นย่านบ้านเรือนของต่างชาติ ที่เข้ามาค้าขายในสมัยก่อน และไล่ไปถึงสถานีเคเบิ้ลคาร์ขึ้นยอดเขานั่นเอง โดยเวลาที่เหลืออยู่ในวันแรกนี้ก็จะจัดการกับ 2 ส่วนแรกนี้เนี่ยแหละ แล้วเก็บส่วนที่ 3 สุดท้ายที่อยู่ใกล้กับสถานี JR Hakodate คือตลาดเช้า Asaichi ไว้วันพรุ่งนี้ก่อนบ๊ายบายฮาโคดาเตะและเกาะฮอกไกโด

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com








บรรยากาศดี๊ดี แม้ในยามหลังฝนพรำ

ฝนตกพรำๆ อากาศดูขมุกขมัวเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเที่ยวของเรา แค่พกร่มเล็กๆ ติดไปด้วยก็แค่นั้นเอง จากนั้นลุยเลยค่ะ นั่งรถแทรมกันนะคะ (เก็บแรงหน่อย) ไปลงที่สถานี Jujigai แล้วก็เพลินกับวิวสวยๆ ของบรรดาโกดังเก่าแก่แถบท่าเรือ ดูคล้ายๆ โอตารุอยู่นะ แต่มันน่ารักคนละแบบค่ะ แถมผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน (ต้องขอบคุณฝนพรำสินะ อิอิ) เก็บรูปสวยๆ เพลินเลยทีเดียว


เดินเลียบริมทะเลและท่าเรือไปเรื่อยๆ

อนุสรณ์สถานก้าวแรกฮอกไกโด (Hokkaido First Step Monument) เป็นรูปหมีกับสมอเรือ ดูออกมั้ย

จากนั้นก็ไต่เขานิดๆ ขึ้นไปชมบ้าน ชมโบสถ์ ชมเมือง ที่ย่าน Motomachi ซึ่งมีสถาปัตยกรรมปนๆ กันทั้งจีน รัสเซีย และตะวันตกอื่นๆ เนื่องจากสมัยก่อนตอนญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ท่าเรือที่ฮาโคดาเตะนี้เอง ที่ได้เปิดต้อนรับพ่อค้าจากต่างชาติเป็นที่แรกๆ จึงทำให้ย่าน Motomachi นี้กลายเป็นแหล่งชุมชมที่อยู่อาศัยยอดนิยมของชาวต่างชาติในสมัยนั้น

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

จะขึ้นเขาแล้วนะ

ฝาท่อระบายน้ำยังน่ารักได้มากมาย

มองย้อนกลับไปทางท่าเรือด้านล่าง สวยมากๆ


บ้านเรือนแถบนี้ หน้าตาดีทีเดียว


อาคาร สถานที่ทำการ ต่างๆ ที่ตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว

ตึกสวยๆ สไตล์ตะวันตก

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook



เรียกว่าย่านโบสถ์เลยสินะ

วัดก็มี อยู่ใกล้ๆ กัน แค่หลังคาก็ใหญ่โตมากกกกก

จากตรงนี้เราสามารถเดินไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์ ที่จะพาขึ้นไปชมวิวสวยๆ บนยอดเขาฮาโคดาเตะได้ค่ะ ซึ่งยอดเขา Hakodate จัดได้ว่าเป็นวิวยามค่ำคืนที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว (อีก 2 แห่งคือยอดเขา Rokko ที่โกเบ และยอดเขา Inasa ที่นางาซาคิ) คือเป็นวิวที่มองจากยอดเขา ย้อนกลับไปทางฝั่งฮอกไกโด แล้วจะมีแสงไฟจากบ้านเรือนด้านล่างส่องประกายสวยงาม เหมือนบนหน้าบัตรขึ้นเคเบิ้ลคาร์นั่นแหละ (ในขณะที่ฝั่งทิศใต้ซึ่งเป็นทะเลและเกาะฮอนชูจะมืดๆ มองไม่เห็นอะไร)

หมอกขนาดนี้ ข้างบนจะเห็นอะไรมั้ย

แต่ฟ้าหลังฝน ณ เวลานี้ หมอกตรึมเลยค่ะ ขึ้นไปจะเห็นอะไรไหมหนอ ขนาดตอนซื้อบัตรขึ้นเคเบิ้ลคาร์เค้ายังเตือนเลย (เตือนทุกคน) ว่าขึ้นไปก็อาจไม่เห็นอะไรนะ และที่สำคัญคือไม่มีคืนตังค์ด้วยนะเออ … ก็เข้าใจอยู่ แต่ก็ขึ้นค่ะ … แหม มาทั้งที เอาน่า ลุ้นดู เผื่อฟลุ้ค

แล้วก็ไม่เห็นอะไรจริงๆ ด้วย ข้างบนขาวสนิทเลย 55 แต่ก็มีจังหวะที่เมฆหาย ได้เห็นแสงไฟเบื้องล่างเป็นพักๆ นะ มันเลยสนุกไปอีกแบบ โดยเฉพาะตอนที่หลายชีวิตร่วมชะตากรรมบนยอดดอย ต้องมาช่วยกันลุ้นให้ลมพัดแรงขึ้นอีกนิดๆๆ ซึ่งเมื่อลมพัดจนหมอกหลีกทางให้เท่านั้นแหละ ช่างภาพก็แชะกันรัวๆ เลยค่ะ หมอกกลับมาทีก็นั่งพัก หมอกหลบอีกทีก็แชะต่อ ฮาดีเหมือนกัน รูปที่ออกมาก็สวยไปอีกแบบ

สวยไปอีกแบบ

ขาลง หมอกยิ่งหาย

ยิ่งดึก ผู้โดยสารก็ยิ่งมารอขึ้นกันหนาแน่น


แถมวิวสวยๆ ยามค่ำแถบท่าเรืออีกครั้ง

ถือว่าคุ้มค่าขึ้นเคเบิลคาร์เลยค่ะ คืนนี้นอนหลับฝันดีได้ละ … แต่ที่เยี่ยมกว่านั้นก็คือ เช้าวันถัดมา ที่ตลาดเช้าใกล้สถานี JR Hakodate นั่นแหละ โอ้โห ครึกครื้นมากมาย ทั้งนอกร่มและในร่ม ดูรูปรัวๆ กันเลยนะคะ มันเพลินสุดๆ ไปเลย ขอบอก

ชิลๆ จากหน้าต่างโรงแรม ใกล้สถานี JR Hakodate

ไปเที่ยวตลาดกัน

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

สดมาก


ปลาหมึกสดๆ


ปูก็แยะ

หอยเม่นก็มี

โอ้ว เมล่อน






ลองซักอัน หวานกรอบเชียว

มาต่อในร่ม



ผักและผลไม้

มันต้องขนาดนี้เลย

ตกหมึก

ผ่าให้เลย


จัดไป

ต่อด้วยหอยแม่น

หมีกมั้ยคร้าบ

จากนั้นก็ได้เวลาหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางข้ามเกาะกันแล้ว โดยเราจะนั่งรถไฟลอดอุโมงค์ใต้น้ำ มาขึ้นเกาะฮอนชูที่เมืองอาโอโมรินั่นเอง ซึ่งที่อาโอโมริจะมีอะไรให้เที่ยวในหน้าร้อนบ้าง ก็นี่เลยค่ะ เทศกาลเนบุตะ ศิลปะบนผืนนา และอื่นๆๆๆ อีกมากมายในภูมิภาคโทโฮขุ ลิสต์ไว้เยอะแยะเลย ไว้มาติดตามกันนะคะ … สำหรับบล็อกนี้ บ๊าย บาย ฮอกไกโด แดนสวรรค์ในหน้าร้อนของทิปิจัง

ลอดใต้น้ำข้ามเกาะกันจริงๆ นะ



http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

พิธีชงชาแบบญี่ปุ่น

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น