บล็อกที่แล้วเราเที่ยวกันแบบ 1-day trip ที่เมืองซัปโปโร อิ่มเพลินดีแล้วใช่มั้ย มาวันนี้จะพาไปเต็มอิ่มแบบ 1-day trip อีกครั้งที่เมือง Otaru ซึ่งจากซัปโปโรนั่งรถไฟ JR ไปแค่ชั่วโมงเดียวเอง เลยไม่ต้องหอบข้าวของย้ายที่นอนนะคะ สามารถเดินทางไปเที่ยวเช้าเย็นกลับได้ และตัวเมืองก็ไม่ใหญ่โตจนเกินไปนัก เดินไป พักไป ชิมไป แป๊บๆ ก็เก็บหมดได้ครบแบบชิลๆ
มีแบบนี้พาเที่ยวรอบเมืองโอตารุด้วย
เมืองโอตารุเป็นเมืองท่าและเมืองค้าขายสำคัญตั้งแต่สมัยก่อน และมีชื่อเสียงเรื่องการเป่าแก้ว สังเกตุจากโรงงานเป่าแก้วและร้านค้าต่างๆ ที่เกี่ยวกับแก้ว ที่ตั้งเรียงรายเต็มสองฝั่งคลองโอตารุ แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองสิคะ (มีคลองด้วย ก็เลยออกแนวเวนิสหน่อยๆ แต่เป็นเวนิสไซส์มินินะคะ อิอิ) และสำหรับนักชิมที่หลงใหลในเมนูซุชิ ต้องบอกเลยว่าที่โอตารุนี้ มีร้านซุชิที่ทั้งใหม่และสดที่สุดในญี่ปุ่นให้ได้ลิ้มลองกันเต็มที่
บนทางรถไฟสายเก่า Temiya Line
ถึงแล้ว จากสถานี JR Otaru ก็เดินกันตรงๆ ไปตามถนน Chuo Dori ในทิศที่จะไป Otaru Canal นั่นแหละค่ะ ระหว่างทางจะผ่านเส้นทางรถไฟสายเก่า Temiya Line (เป็นทางรถไฟสายแรกบนเกาะฮอกไกโด เชื่อมระหว่างท่าเรือที่โอตารุและซัปโปโรนั่นเอง) ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวประปรายตรงแถวนี้ และผ่านตลาด ผ่านร้านซุชิ ให้น้ำลายไหลย้อยไปได้เรื่อยๆ จนมาถึงคลองจนได้
ผ่านร้านค้า และตลาด น่ากินทั้งนั้นเลย
สมัยก่อนพอเรือใหญ่มาจอดเทียบท่า เค้าก็อาศัยคลองโอตารุนี้แหละ ในการลำเลียงของขึ้นเรือเล็ก และนำมาเก็บไว้ตามโกดังรอบๆ คลอง สมัยนี้โกดังไม่ได้ทำหน้าที่โกดังอีกต่อไปแล้ว เพราะกลายเป็นโรงงานเครื่องแก้ว พิพิธภัณฑ์ และร้านค้าต่างๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังอนุรักษ์รูปแบบเดิมของโกดังเก่าแก่ไว้เป็นอย่างดี
โกดังเก่าแก่ที่แปรสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
โกดังเก่าแก่ริมฝั่งคลอง
ส่วนมุมมหาชน ก็บนสะพานข้ามคลอง ที่มองเห็นโค้งสวยๆ ตามแบบในรูปนี้ล่ะค่ะ ซึ่งถ้ามาหน้าร้อนก็ได้หน้าตาแบบนี้ (หามุมหลบแดดกันเพลินเลย) แต่ถ้ามาหน้าหนาว ก็จะได้บรรยากาศหิมะ 2 ฝั่งคลองโรแมนติกไปอีกแบบ (ดูจากรูปของคนอื่นเอาน่ะ อิอิ)
มุมสวยๆ จากบนสะพาน
นั่งเรือท้าแดดเล็กน้อย
แต่ถ้าบนบก ก็สามล้อถีบ
มื้อนี้สิ เด็ดจริง
มีมุมสนุกหน่อยๆ
จากนั้น ก็เดินกันต่อ จากละแวกแถบคลอง ก็เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยบนถนน Sakaimachi ซึ่งมีตลาด ร้านค้า ในอาคารเก่าแก่ เรียงรายมากมาย และเราก็ได้ไอศครีมสายรุ้งมาเติมพลังระหว่างทางจนได้ อิอิ
อีกมุมสนุก
แต่มุมนี้น่าจะอร่อยนะ
อร่อยจริงด้วย ฮูเร
สดทุกระดับประทับใจ
แวะนู่น ชิมนี่กันไปเรื่อย จนมาถึงปลายทางที่ Marchen Square ที่มีอาคาร Music Box Museum ตั้งเด่นตรงหัวมุมด้านหนึ่ง พร้อมด้วยนาฬิกาไอน้ำ Steam Clock ซึ่งประกอบขึ้นโดยนายช่างคนเดียวกับที่ประกอบ Steam Clock ตัวแรกที่ Gastown เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดานั่นเอง
ถึงแล้ว Marchen Square
นาฬิกาไอน้ำหน้า Music Box Museum
มุมน่ารัก
เข้าชมภายใน Music Box Museum ก็จะมีกล่องดนตรีน่ารักๆ หลากไซส์ หลากสไตล์ รวมถึงมุมพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ แต่เค้าห้ามถ่ายรูปค่ะ และเวลาเดินก็ควรรวบแขนและอุปกรณ์เกะกะรอบตัวไว้ให้ดี เพราะถ้าตกลงมาแตกที จะชดใช้กันน้ำตาไหลเลยนะ
ร้าน LeTAO
วิวเมืองฝั่ง Marchen Square จากหอคอยร้าน LeTAO
อีกฝั่งเป็นวิวทะเล
จากนั้นก็ขึ้นรถไฟกลับซัปโปโรค่ะ จบ 1-day trip Otaru กันแบบง่ายๆ (แต่ก็เดินเมื่อยเหมือนกันนะ) โดยยังมีเวลาเหลือให้กลับไปช้อป และหามื้อเย็นเด็ดๆ ที่ซัปโปโรต่อได้อีก … ชิลๆ ซักวันจะเป็นไรไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น