มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

4 มีนาคม 2561

เที่ยวเมืองจิจิบุ (Pink moss & White water boating)


ในช่วงต้นค่อนไปกลางๆ ฤดูใบไม้ผลิ หลังหมดเทศกาลซากุระบนต้นแล้ว ภูมิภาคคันโต (Kanto) ก็ยังมีเมืองน่ารักและสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ให้ได้เพลิดเพลินกับสีชมพู้ชมพูต่อเนื่อง จากพิงค์มอส หรือซากุระบนดิน หรือชื่อจริงของเค้าก็คือ ชิบะซากุระ (Shibazakura) นั่นเอง ในบล็อกนี้ทิปิจังจะพาไปเยือนเมืองจิจิบุ (Chichibu) ในจังหวัดไซตาบะ (Saitama) ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปติดกับโตเกียว จากสถานีอิเคะบุรุโระ (Ikebukuro) นั่งรถด่วนไฮสปีดของเซบุ (Seibu) แค่ชั่วโมงเศษก็ถึงแล้ว และนอกจากพิงค์มอสก็ยังมีอีกหลายอย่าง ให้สุดแสนจะเพลิ้น เพลิน มากมายทีเดียว

Pink moss @Hitsujiyama koen

แต่เนื่องจากช่วงพีคของสีชมพู้ชมพูบนภาคพื้นดินนี้ จะตรงกับสัปดาห์ทองหรือโกลเด้นวีค (Golden Week) ในช่วงต้นเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องของญี่ปุ่นพอดี ผู้คนเลยจะเยอะเป็นพิเศษ ทั้งคนญี่ปุ่นเอง และสมัยนี้นักท่องเที่ยวก็มหาศาล ถ้าไม่ได้จองที่นั่งไว้ (จะมาพร้อมกับตั๋ว Limited Express) ก็มีสิทธิ์ได้ยืนยาวๆ ตลอด 1 ชั่วโมงกว่าบนรถไฟแน่ (เพราะแต่ละคนก็มีจุดหมายคล้ายกัน ไม่ค่อยมีใครยอมลงก่อนซะด้วย 55) แต่ถ้าจะจองล่วงหน้าก็ยากหน่อย เพราะเค้าเปิด 1 เดือนล่วงหน้า แต่ยังไม่มี online นะสิ ถ้ารอให้เท้าเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นก่อนแล้วค่อยหาซื้อ ป่านฉะนั้นคงไม่เหลือแล้วล่ะ … ซึ่งสำหรับกรณีนี้ คงต้องถอดใจจาก Limited Express แล้วหันมานั่งขบวนธรรมดาแทน ซึ่งพอบวกค่าความช้าก็เพิ่มแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น … ไม่เท่าไหร่ … แต่ที่นั่งนี่สิ ต้องเตรียมฝึกกำลังขาไว้เยอะหน่อยนะ อิอิ

ตามป้ายนี้ไปค่ะ ไม่หลงแน่

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

เอาล่ะค่ะ ปักหมุดแรกในเมืองจิจิบุ ก็คงหนีไม่พ้นเขาแกะ หรือ Hitsujiyama ซึ่งมีสวนสาธารณะฮิทสึจิยามะ ที่เต็มไปด้วยสีชมพู้ชมพูของพิงค์มอสแสนสวย ที่ออกดอกบนผืนดินสินะ ที่นี่ … แม้ไม่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ แบบแถวๆ รอบทะเลสาบทั้ง 5 (Fuji Five Lakes) ที่จังหวัดชิซุโอคะ แต่ก็มีทิวเขา และ landscape เป็นเนินสวย พอให้พิงค์มอสโทนสีต่างๆ ทั้งชมพูเข้มมาก เข้มน้อย ชมพูอ่อน จนกระทั่งอ่อนมากเกือบขาว ได้ประกอบร่างรวมเป็นคลื่นบนผืนผ้าใบสีชมพูต่างโทน แซมด้วยเหล่านักท่องเที่ยวอันสุดจะชุกชุม หามุมถ่ายรูปได้ … ยากมากกกกก 55 ซึ่งเขาแกะหรือฮิทสีจิยามะนี้ จากสถานี Seibuchichibu หรือสถานี Yokoze ก็มาได้ทั้งคู่เลยนะคะ

บรรยากาศระหว่างทาง spring มากมาย

แผนผังบริเวณทั้งหมด

ไม่ใช่ฟูจิก็สวยได้

จากนั้นไปเดินเล่นบนถนน Nakamise ใกล้ๆ สถานี Seibuchichibu กัน เค้ามีตลาดขายของคึกคักทีเดียวละ และร้านอาหารไทยแถวก็มีแถวนี้ด้วยนะคะ … แหม เป็นที่นิยมใช้ได้เลย

คึกคักรายทาง ก่อนถึงตัวตลาดซะอีก

ร้านอาหารไทยก็มีนะ

ถึงแล้วตลาด Nakamise

น่ากินนะเนี่ย หม่ำๆๆ

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

อิ่มแล้วก็เที่ยวต่อเลย ไม่ยอมให้เสียเวลา 55 ทิปิจังจะพาขึ้นเหนือขึ้นไปอีกค่ะ แต่จากสถานี Seibuchichibu ขึ้นไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะสุดสายแค่นั้น ต้องเดินมาอีกนิดนึง ที่สถานี Ohanabatake (ก็เป็นของ Seibu เหมือนกันนั่นแหละ) นั่งขึ้นไปซักครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงสถานี Nagatoro ปักหมุดถัดไปของพวกเราแล้ว

นั่งรถตู้จากสถานี Nagatoro มาที่ริมน้ำ

ที่ Nagatoro มีกิจกรรมทางน้ำหลายอย่าง ทั้งล่องแก่ง ทั้งแคนู บนแม่น้ำอาราคาวะ (Arakawa) … ในฤดูกาลหนาวๆ แบบนี้คงยังไม่มีใครมาว่ายน้ำหรอกนะ อิอิ … สำหรับพวกเราที่ไม่ได้พกพาอุปกรณ์อะไรมามากมาย และไม่อยากเปียกด้วย (มันหนาว) ก็เลือก White water boating สิคะ เป็นเรือถ่อแบบญี่ปุ่นเนี่ยแหละ จากจุดนัดพบหน้าห้องขายตั๋วแถวสถานี Nagatoro ก็นั่งรถตู้ตามแพ็จเก็จที่ซื้อ ไปยังริมแม่น้ำ โหว .. แถวคิวยาวทีเดียว เพราะลูกค้าเยอะ แต่ขนเรือกลับมาคืนไม่ค่อยจะทัน 555 คนถ่อเรือจะพาพวกเราล่องไปตามกระแสน้ำ (ถ่อได้ เพราะลำธารตื้น) และบรรยายนู่นนี่ให้ฟัง ผ่านลอดใต้ทางรถไฟมั่ง (มีรถไฟผ่านมาพอดีด้วย ว้าวๆๆ) ผ่านจุดน้ำเชี่ยวให้ได้กรี๊ดกร๊าดมั่ง (นิดๆ) แล้วก็มาสุดทางที่แก่งหิน อันมีดอกวิสเทเรียป่า เป็นพวงสีม่วงอ่อนสวยๆ บานต้นรับพอดี ใกล้กับสถานี Nagatoro นั่นเอง

ผู้คนคึกคัก กับหลากกิจกรรม

นำเรือมาส่งแล้ว ยกกันแบบนี้เลย

ประจำที่

บรรยายไปเรื่อย ระหว่างล่องเรือ

ขยันถ่ายรูปตลอด

มีรถไฟผ่านมาพอดีเลย

มาถึงเมืองจิจิบุแล้วแต่ยังไม่ได้เที่ยวตัวเมืองเลย จาก Nagatoro ก็นั่งรถไฟต่อเพื่อกลับมายังสถานี Chichibu แต่เนื่องจากรอคิวขึ้นเรือเมื่อก่อนหน้านี้นานไปนิด  เลยกว่าจะมาถึงตัวเมืองจิจิบุก็เย็นเสียแล้ว ประกอบกับประชากรของเดอะแก๊งก็ดูจะเพลียๆ กันถ้วนหน้า เลยแวะแค่ที่ศาลเจ้า Chichibu shrine ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์นิดๆ หน่อยๆ ที่เดียว แล้วก็เตรียมตัวเตรียมใจ “ยืน” รถไฟกลับโตเกียวกันค่ะ 55 บ๊าย บายนะ จิจิบุ

มาศาลเจ้า Chichibu Shrine ปิดท้าย


http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น