My travel diary: เส้นทางขับรถเที่ยวโพรวองซ์ Route 3: Cavaillon -> East (Aix, Valensole, Grasse, Cannes)

เส้นทางนี้ออกจะไกลซักเล็กน้อย เริ่มต้นจากเมืองคาไวยยง (Cavaillon) วิ่งไปทางตะวันออก ผ่านสถานที่เที่ยวต่างๆ 6 stops ก่อนจะไปลงหลักยังฐานที่พักแห่งใหม่ที่เมืองคานส์ รวมระยะทางประมาณ 300km (ดีแล้วที่เมื่อวานตัดสินใจกลับมาพักผ่อนเอาแรง)

แผนที่เส้นทาง Route 3

1. เอ็กซองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence) เมืองหลวงของแคว้นในอดีต ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำพุน้อยใหญ่กว่าร้อยแห่ง ที่มีชื่อเสียงที่สุดได้แก่ Fontaine de la Rotonde ซึ่งตั้งเด่นอยู่กลางใจเมือง นอกจากนั้นยังค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องตลาดเช้า โดยเฉพาะในเช้าวันอังคารและพฤหัสจะยิ่งพิเศษ เพราะที่หน้าศาลาว่าการ (Place de I’Hotel de Ville) จะแปรสภาพเป็นตลาดดอกไม้สดประจำสัปดาห์นั่นเอง

น้ำพุ Fontaine de la Rotonde

ตลาดดอกไม้สดประจำสัปดาห์ ตอนเช้าหน้าศาลาว่าการ

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

2. โรงงาน L’occitane en Provence ในเมือง Manosque ซึ่งหากต้องการเยี่ยมชมภายในส่วนที่เป็นตัวโรงงานด้วย ก็ต้องนัดเวลาก่อนล่วงหน้า และใช้เวลาในการทัวร์โรงงานประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

เยี่ยมชมโรงงาน L’occitane en Provence เมือง Manosque

3. วาลองโซล (Valensole) รอบๆ นี้ขึ้นชื่อมากในฐานะแหล่งปลูกลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส และมีเพียงในแถบโพรวองซ์เท่านั้น ที่จะได้ชื่นชมความงามแบบพาโนรามายิ่งใหญ่ ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว (เพียงแต่ว่าต้องมาให้ถูกฤดูกาลนะจ๊ะ ประมาณเดือน มิ.ย.-ก.ค. กลางหน้าร้อนเน้นๆ โพกครีมกันแดดมาหนาๆ เลย)

มาเร็วไปเดือนนึงค่ะ ยังไม่ม่วงเลย (แค่นี้ก็ร้อนแล้วนะ)

เอาสีเหลืองสดๆ แบบนี้ไปแทนก่อนละกันนะ

4. มูสติเย แซงก์ มารี (Moustiers-Sainte-Marie) อีกหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องปั้นลงลาย Faïence de Moustiers ฝีมือประณีตที่สุดในฝรั่งเศส ขนาดที่ได้นำไปรับใช้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถึงแวร์ซายน์ แต่ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นดวงดาวสีทอง ที่ห้อยโตงเตงอยู่ระหว่างยอดเขา 2 ลูกเหนือหมู่บ้าน (ดูรูปเพิ่มเติมได้จากบล็อก เที่ยว 4 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศสย่านโพรวองซ์)

5. อุทยานแห่งชาติ เลย์ กอร์จ ดู แวร์ดง (Les Gorges du Verdon) แคนยอนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และชาวฝรั่งเศสยกให้เป็นสวรรค์บนดิน

เลย์ กอร์จ ดู แวร์ดง จากมุมสูง

6. กราซ (Grasse) เมืองหลวงของน้ำหอมโลก มีภูมิอากาศอบอุ่นแบบเมดิเตอเรเนียน เป็นแหล่งพันธุ์ไม้นานาชนิดสำหรับผลิตน้ำหอม และมีโรงงานน้ำหอม Fragonard เก่าแก่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม

7. คานส์ (Cannes) เมืองชายฝั่งทะเล เฟรนช์ ริเวียร่า (French Riviera) อันเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนต์นานาชาติ ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนพฤษภาคม

สถานีรถไฟเมืองคานส์มองจากหน้าต่างโรงแรม

ได้บรรยากาศก่อนเริ่มงานเทศกาลภาพยนต์นานาชาตินิดๆ

โรงแรมและคาสิโนมากมายในเมืองคาสน์

เอาเข้าจริงพวกเรามากันได้ถึงแค่ข้อ 4 ก็หมดแรงแล้ว เพราะเส้นทางบนไหล่เขาคดเคี้ยวยิ่งนัก ทำความเร็วไม่ได้เลย เวลาเดินทางที่คำนวณจาก google map คงล่อไปซะ 90km/hr เท่ากับป้าย speed limit ที่พบเห็นตามทางนั่นแหละ แต่ในความเป็นจริงพวกหน้าใหม่ไม่ชินทางแบบเรา ขับเร็วได้แค่ครึ่งเดียวของป้าย speed limit ก็เสียวสั่นแล้ว พอมาถึงเลย์ กอร์จ ดู แวร์ดง ก็เลยแค่เก็บรูปสวยๆ จากด้านบน และเมื่อถึงกราซ ก็เพียงอาศัยถนนที่ตัดผ่านใจกลางเมือง มุ่งสู่ปลายทางที่เมืองคานส์ ส่วนคานส์ในแผนดั้งเดิมก็ไม่ใช่จุดแวะเที่ยวอยู่แล้ว เป็นเพียงปลายทางของเส้นทางเท่านั้นค่ะ (เที่ยวจริงไว้อีกวันสิคะ แค่นี้ก็โหดพอแล้ว)

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากประสบการณ์ท่องเที่ยวจริง ต้องเล่มนี้เลยนะคะ “โพรวองซ์ ยกก๊วนชวนเพื่อนเที่ยวฝรั่งเศสตอนใต้” โดยสำนักพิมพ์ Dplus ค่ะ