My travel diary: ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #9

เช้าวันรุ่งขึ้น หมอกยังคงลงจัดอีกเช่นเคย เมือง Siena อยู่ใกล้แค่นี้เอง จะไปเก็บตก Duomo ที่พลาดชมไปเมื่อวาน (เพราะมัวแต่โอ้เอ้ไต่ขึ้นลงเขาที่เมืองอื่นเยอะไปนิด) ก็ได้อยู่หรอก … แต่สุดท้ายเดอะแก๊งส์ยกทีม ก็ตัดสินใจโบกมืออำลาค่ะ เพราะจากไฮไลท์อันดับหนึ่งของทริป ที่ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าและหมู่บ้านแสนสวยบนขุนเขา แถบทัสคานีนี้ ไปยังไฮไลท์อันดับสอง แถบชายฝั่งทะเลตะวันตก ที่ชิงเควเทอเร (Cinque Terre) หนทางยังอีกยาวไกลนัก (และขี้เกียจหาที่จอดรถแล้วด้วย อาจไม่ฟลุ้คได้โลเคชั่นเด็ดเหมือนเมื่อเย็นวานแล้ว) อีกทั้งมิสกะโปโลยังจะพาแวะเที่ยวระหว่างทาง คั่นรายการที่เมืองฟลอเรนซ์ (Florence หรือ Firenze ในภาษาอิตาลี) และปีซ่า (Pisa) อีกด้วย ก่อนจะถึงที่พักที่สุดติ่งทางด้านเหนือสุดของ Cinque Terre ที่เมือง Levanto รวมระยะทางก็เกิน 250km แล้วล่ะ … รีบไปกันดีกว่า สวยๆ จากนี้ยังมีอีกเยอะ

มหาวิหารใหญ่ Duomo แห่งเมือง Florence

จาก Siena มา Florence ระยะทางประมาณ 72km ขับรถก็น่าจะ 1 ชั่วโมงนิดๆ แต่ด้วยถนนที่ปิดซ่อมเป็นพักๆ เลยต้องขับอ้อมนิดๆ และใช้เวลาเยอะจากที่แพลนไว้หน่อยๆ มาถึง Florence พวกเราก็เลือกจอดรถที่ลานจอดรถด้านเหนือของเมือง (แถบสถานีรถไฟ) เพราะดูแล้วน่าจะเดินน้อยที่สุดละ … แต่มาจาก Siena ทางด้านใต้ ก่อนจะถึงที่จอดรถทางเหนือ ก็ต้องกระดึ๊บเลียบๆ เคียงๆ โซน ZTL กันไป เล่นเอาเสียวๆ ว่าจะลำเส้นรึเปล่าเหมือนกัน 555 (จิตตกทุกครั้งเมื่อเข้าใกล้เมืองใหญ่ และเจอป้าย ZTL)

ประเดิมด้วยเจลาโต้แท่งแรก

ไม่รู้จะจิตตกไปทำไม ไม่เห็นมีอะไรเล้ย ก็แค่ป้ายข่มขู่ เจอมาตั้งกี่เมืองแล้ว (อย่าเผลอก็แล้วกัน 555) … จากนั้นก็ได้เวลาสำรวจเมืองค่ะ จากที่จอดรถแถบสถานีรถไฟ ก็เดินลัดเลาะลงมาเรื่อยๆ แล้วก็ได้เจลาโต้แท่งแรก เสริฟต้อนรับการมาเยือน Florence นี้ อิอิ … จนมาถึงแลนด์มาร์คสำคัญ ก็คือโบสถ์ Duomo อันยิ่งใหญ่อลังการแห่งเมือง Florence โอ้ววว นักท่องเที่ยวแออัดมากมาย ศิลปินแบกะดินก็เยอะเหลือเกิน … สมัยก่อนมิสกะโปโลเคยมากับทัวร์แป๊บๆ ค่ะ คือมันแป๊บๆ จริงๆ เลยล่ะ แม้ว่าการเข้าชม Duomo ข้างในจะฟรี (ยกเว้นพิพิธภัณฑ์และคลังสมบัติใต้ดิน ที่ต้องเสียค่าเข้าชม) แต่แถวคิวที่ค่อนข้างยาวและดูน่ากลัวไปนิดนึง ไปกับทัวร์ก็อดอยู่แล้วล่ะค่ะ … มารอบนี้เลยขอซักนิดละกัน คิวยาวแบบที่หางแถวไปกองรวมกันอยู่อีกมุมหนึ่งของ Duomo (คนใหม่จะมาต่อ ก็ต้องถามย้ำให้มั่นใจ ว่าเป็นแถวที่จะเข้า Duomo จริงๆ นะ 555) แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้รอนานเท่าไหร่หรอกนะคะ

แบกะดินเยอะแยะเชียว

แถวคิวยาวเหยียด

ข้างในเฉยๆ ค่ะ

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

แต่น แต๊น เข้ามาข้างในแล้วก็เฉยๆ เลยค่ะ ไม่ได้อลังการอะไรนัก ยิ่งถ้าเทียบกับที่ต้องเสียค่าเข้าชม เช่น Duomo ที่มิลาน หรือ Duomo ที่ Siena (ที่อดเข้าไปเมื่อวาน ได้แต่ชื่นชมผ่าน google) ก็ชัดเจนเลยแหละว่าทำไมของที่นี่ถึงเข้าฟรี 555 (เลยเคืองกรุ๊ปทัวร์สมัยก่อนน้อยลงไปนิดนึง) ดูจากข้างนอกอลังกว่า และดูเพลินๆ กว่าหลายเท่าเลยค่ะ

นี่ก็ศิลปิน

เต๊ะท่า ที่หน้าลาน Piazza della Repubblica

งั้นก็ไปต่อยังปักหมุดถัดไป ที่สะพาน Ponte Vechio อันโด่งดัง ระหว่างทางผ่าน Piazza della Repubblica ซึ่งก็สวยงามตามท้องเรื่อง และคนเยอะอีกเช่นเคย ได้แวะเก็บรูปโพสต์ท่าเต๊ะจุ๊ยมาหน่อยๆ

พิซซ่าร้านนี้น่ากินมากเลยแฮะ

จากนั้นก็ถึงแล้วค่ะ สะพานไฮโซ Ponte Vechio ที่เต็มไปด้วยร้านขายเครื่องประดับ เพชรพลอย และนาฬิกาแบรนด์หรู คิดดูสิคะ ของไฮโซมูลค่าเป็นแสนเป็นล้าน เอามาขายกันในร้านเล็กๆ ดั่งซอกหลืบ บนสะพานข้ามแม่น้ำเก่าๆ … เป็นบ้านเรานี่ไม่ได้เลยนะ นึกว่าของก๊อป อิอิ

ใกล้ถึงแล้ว สะพาน Ponte Vechio อยู่ตรงหน้านี้เอง

แหล่งค้าขายแบรนด์หรูบนสะพาน

ไฮโซบนพื้นที่เล็กๆ แบ่งสรรไปคนละหน่อย

วิวสวยๆ จากบนสะพาน Ponte Vechio

ข้ามสะพานไปอีกฝั่งนะคะ แล้วเลี้ยวขวา จะมีซอกติ่งให้มุดเข้าไปเก็บรูปสะพาน Ponte Vechio ในมุมสวยๆ (เหมือนในรูป อิอิ) กลับมาชื่นชม แต่ถ้าข้ามกลับไปฝั่งเดิมที่เดินมา (ผ่านร้านหรูๆ ไฮโซทั้งหลายบนสะพานอีกครั้ง) เลี้ยวขวาอีกเช่นกัน ที่แถวๆ หน้า Uffizi Gallery ก็ได้มุมสวยของอีกฝั่งหนึ่ง (ตามรูปเช่นกันค่ะ)

วิวของ Ponte Vechio จากซอกติ่ง ที่อีกฝั่งหนึ่งตรงข้าม

เดินข้ามกลับไปดีกว่า

ฝั่งนี้ ด้านหน้า Uffizi Gallery ก็สวยไม่แพ้กัน

กว่าจะหลบหลีกเหล่าบรรดานักท่องเที่ยว และเก็บพ้อยต์หลักๆ ในเมือง Florence ได้ครบ ก็บ่ายกว่าๆ ละ ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน เดอะแก๊งส์เลยพากันฝ่าฝูงชน ทะลุทะลวง Uffizi Gallery และ Piazza della Signoria (คนเยอะจริงๆ ไม่ชอบเลยค่ะ ฮือๆๆ) ออกมา (นั่งกินแถวนั้น คงแพงน่าดู แถมยังท้าทายอึนกจากฟากฟ้า ไม่เอาด้วยหรอก 555) แล้วก็มาลงเอยกับร้านอาหารจีนฟิวชั่น ราคาอื้อหือ (แพงสุดในบรรดาร้านอาหารจีนในทริปอิตาลีนี้แล้ว) ส่งท้าย ก่อนจะบ๊าย บาย พร้อมเจลาโต้แท่งโตมากๆ กว่าแท่งแรกปิดท้าย (แพงที่สุดในทริปนี้ อีกแล้ว 555) ถึงได้ฤกษ์เดินทางกันต่อไป

แออัดเกินไปแล้ว ที่ Piazza della Signoria

ซูมใกล้ๆ ศิลปะโป๊เปลือย

โหดร้ายก็มี

ร้านอาหารริมทาง

จะท้าทายของฝากจากฟากฟ้าไปหน่อยมั้ย 555

แท่งนี้ปิดท้าย ใหญ่โตทีเดียว

แต่แค่ Florence เมืองเดียว ก็ใช้เวลาไปเกินกว่าที่แพลนไว้เยอะมากแล้วค่ะ (อะไรกันนักหนา แค่โบสถ์กับสะพานแท้ๆ) จะเดินทางไป Pisa ก็อีก 84km ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งไปถึงก็คงใกล้ๆ 4-5 โมงเย็นแล้ว แถมที่ปิซ่าเนี่ย จากที่จอดรถที่ใกล้ที่สุด จะไปยัง Field of Miracles อันเป็นศูนย์รวมของทั้งหอเอน (Leaning Tower), โบสถ์ Duomo, Duomo Museum, Camposanto, และแน่นอน ฝูงชนอีกมหาศาล ต้องใช้บริการ shuttle bus ค่ะ เดินเองคงไม่ไหว ดูทรงแล้วกว่าจะไปถึง แถมต้องรีบเดินรีบดูเหนื่อยๆ อีกก็ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ละ … เดอะแก๊งส์เองก็ไม่ว่าอะไร เพราะเคยมาทัวร์กันหมดแล้ว … ก็เลยตัดสินใจข้ามเมืองคั่นระหว่าง 2 ไฮไลท์ของทริปนี้ไปอีกหนึ่ง และลดระยะทางสู่เมือง Levanto ได้อีกหน่อย … ใครเพิ่งเคยมาอิตาลีครั้งแรก ไม่ควรนะคะ แพลนเวลาให้ดีกว่านี้ หอเอนเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ที่ต้องแวะมาให้ได้ซักครั้งค่ะ

บรรยากาศน่ารักที่เมือง Levanto

จากฟลอเรนซ์ก็ยิงยาวพรวดๆ รวดเดียว 175km ถึง Levanto ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลริมหน้าผา ภายใน 2 ชั่วโมง และในเมื่อมาถึงเร็วก่อนกำหนด ก็ทำให้มีเวลาได้สำรวจเมืองเล็กๆ แห่งนี้ พร้อมกับวอร์มร่างกายด้วยการไต่ขึ้นลงเขาเล็กๆ อีกวาระ … แม้ไม่ได้เป็นเมืองที่แพลนว่าจะมาเดินเล่นสำรวจอะไรเพลินๆ เท่าไรนัก แต่ก็น่ารักดีนะคะ ได้เก็บบรรยากาศชายทะเลสวยๆ ที่ต่อกับชายทะเลของไฮไลท์เบอร์ 2 หรือ Cinque Terre ที่จะได้สำรวจกันแบบเต็มๆ ในวันรุ่งขึ้น เท่านี้ก็สุขใจแล้ว … แล้วไฮไลท์พรุ่งนี้จะขนาดไหนหนอ ตื่นเต้นซะแล้วสิ