มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

22 ตุลาคม 2560

ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #11 – Portofino


วันสุดท้ายของทริปนี้แล้วสินะ หลังจากเก็บตกไฮไลท์สำคัญไปหมดจด ครบทั้งนัมเบอร์ #1 คือท้องทุ่งสีเขียวและหมู่บ้านแสนสวยแห่ง Tuscany กับนัมเบอร์ #2 ที่ชายฝั่งทะเลตะวันตก กับหมู่บ้านริมหน้าผาทั้ง 5 แห่ง ณ Cinque Terre … แล้วยังจะเหลืออะไรในวันสุดท้ายนี้หรา? ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักหรอกค่ะ แต่ยังสวยบาดตาอีกเช่นเคย ที่ชายฝั่งทะเลต่อเนื่องจาก Cinque Terre และไม่ไกลกันนัก คือที่เมืองท่า Santa Margherita Ligure ซึ่งจะตั้งต้นล่องเรือไปเยี่ยมชมรีสอร์ตทาวน์แสนสวย ปอร์โตฟิโน (Portofino) นั่นเอง (โปรดอย่าสับสนกับ Porto Chino แถวสมุทรสาคร 555) เรียกได้ว่าเป็นทริปที่ไม่เคยทำให้แห้งเหี่ยวได้เลยซักวัน

บรรยากาศสุดหรูที่หน้าอ่าวเมือง Portofino

อำลาที่พักในหมู่บ้านเล็กๆ เมือง Levanto ทางตอนเหนือของ Cinque Terre และขับรถเรื่อยๆ มาเรียงๆ อีกไม่เกิน 60km ประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงเมือง Santa Margherita Ligure ดูมีความเจริญหูเจริญตาขึ้นเยอะเลยค่ะ บ้านเมืองและร้านรวงดูทันสมัยมากมาย เราจอดรถกันแถวๆ ที่จอดรถใกล้สถานีรถไฟ และไต่ลงเนินไปยังชายหาด มุ่งหน้าสู่ท่าเรือเฟอรี่เพื่อเตรียมซื้อตั๋วนั่งเรือไป Portofino … แต่เด๋วก่อน คุณพระ เมืองที่ตั้งใจไว้ตอนแรกแค่เพียงมาแวะขึ้นเรือ ช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก ไม่เชื่อก็ดูรูปกันเองเลยค่ะ บรรยากาศน่ารักสุดๆ ต่อให้ต้องรอเรือรอบต่อไปอีกเกือบชั่วโมง ก็นั่งเล่นดูผู้คนและชมวิวเพลินๆ สดชื่นกับอากาศดีๆ แถวนี้ได้ไม่เบื่อเลย

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

ริมหาดเมือง Santa Magherita Ligure


บ้านเมืองสวยงาม น่ารัก

จากท่าเรือมองกลับไปหน้าหาดที่เดินผ่านมา สวยจริงๆ

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ท่าเรือเมือง Santa Margherita Ligure

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

ตรงนี้เป็นชายฝั่งด้านตะวันตกทางตอนเหนือของอิตาลีค่ะ เพียงแต่ว่าเมือง Santa Margherita Ligure และต่อไปยังเมืองรีสอร์ต Portofino นี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Portofino Peninsula ที่ยื่นเป็นติ่งเข้าไปในทะเล เวลานั่งเรือลงใต้จาก Santa Margherita Ligure ไป Portofino ก็จะเห็นแผ่นดินอยู่ทางขวามือนั่นเอง  ซึ่งจริงๆ แล้วจาก Santa Margherita Ligure ไป Portofino นอกจากนั่งเรือก็ยังมีบริการรถบัส และมี trail ให้เดินไฮกิ้งอีกด้วย (ระยะทางจิ๊บๆ ค่ะ แค่ขึ้นๆ ลงๆ เนิน 5km เอง ใครไหวก็ตามสบายนะ อิอิ) แต่ไม่น่าจะนิยมขับรถส่วนตัวนัก เพราะต้องจอดรถแถวชานเมืองแล้วเดินเข้าไปอีก แถมค่าจอดรถก็แพงยิ่งนัก จอดทิ้งไว้ที่ Santa Margheritat Ligure แล้วนั่งเรือไปก็สะดวกและได้บรรยากาศชิลๆ ดีออกนะคะ … ตอนเที่ยว Cinque Terre ไม่ได้นั่งเรือเลย เพราะมีตั๋วรถไฟบุพเฟ่ห์ซะแล้ว วันสุดท้ายของทริปแล้ว เลยต้องนั่งเรือซักหน่อย อิอิ .. แถมยังได้ว้าวๆ กับเมือง Santa Margheriat Ligure แบบคาดไม่ถึงอีกด้วย

นักท่องเที่ยวต่อคิวกันขึ้นเรือ

นั่งเรือเปิดประทุนกันแบบนี้เลย ชิลๆ

พอขึ้นเรือกันหมด ท่าเรือก็ร้างเลย

นอกจากนี้ค่ะ ถ้านั่งเรือต่อจาก Portofino ลงไปวนๆ ทางใต้ของคาบสมุทร จะมีแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งคือ Christ of the Abyss ซึ่งเป็นรูปปั้นพระเยซูคริสต์ที่จมอยู่ใต้น้ำ แถวนี้นักท่องเที่ยวชอบมาดำน้ำกันค่ะ แต่สำหรับนักท่องเที่ยว day trip อย่างแก๊งส์กะโปโล จบกันที่เมืองรีสอร์ตหรูอย่าง Portofino ก็แสนจะเพียงพอแล้วค่ะ

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

ถึงแล้ว Portofino บรรยากาศดี๊ดี ได้ชมวิวสวยๆ ของเมืองหน้าอ่าวจากบนทะเลเลย บรรยากาศคล้ายๆ หน้าอ่าวของบรรดาเมืองสวยใน Cinque Terre แหละค่ะ แต่ดูแพงกว่าเยอะ ร้านอาหารแถวนี้แพงๆ กันทั้งนั้น (คือก็แพงกว่า Cinque Terre นิดๆ เพราะทุกที่ในอิตาลีมันก็แพงอยู่แล้ว 555) อย่าคิดมาก ตัดสินใจเลือกฝากท้องมื้อเที่ยงไปซักร้านเถอะค่ะ 55

ถึงหน้าอ่าวเมือง Portofino แล้ว

บรรยากาศครึกครื้นที่ท่าเรือ

จากนั้นก็ได้เวลาเดินขึ้นเขาเรียกน้ำย่อย เพื่อหามุมถ่ายรูปหน้าอ่าวเมือง Portofino จากมุมสูง งานนี้ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ค่ะ ถ้าเคยขึ้นลงเขาจนครบทั้ง 5 เมืองใน Cinque Terre มาแล้ว ระดับ Portfofino นี้จิ๊บๆ เลยค่ะ ถือว่ามาพักผ่อนปิดทริปแบบชิลๆ … แถมท้ายด้วย cafe macchiato แก้วที่แพงที่สุดของทริป (เค้าชาร์จค่าที่นั่งชมวิวสวยหน้าอ่าวไปด้วย 55)

ขึ้นเนินอีกครั้ง ไปชมวิวสวย

วิวสวยๆ จากมุมสูง

โบสถ์สวยข้างบน

โรงแรมเก๋ๆ ข้างล่าง

มัคคิอาโต้ถ้วยนี้แพงมากๆๆๆ

เอาล่ะค่ะ  สมควรแก่เวลา นั่งเรือกลับ Santa Margherita Ligure กันชิลๆ และขับรถต่ออีกนิดๆ ประมาณ 75km (ใช้เวลา 1 ชั่วโมงหน่อยๆ ก็มาถึง) Serravalle Designer Outlet ให้ละลายทรัพย์ตกค้างกันแล้วล่ะค่ะ 555 เร่งทำเวลาช้อบสุดๆ จนไม่สนใจถ่ายรูป outlet สวยๆ เลย ใครอยากรู้หน้าตา outlet เป็นยังงัยก็ google ดูแทนละกันนะคะ หรือไม่ก็จินตนาการถึง outlet สวยๆ แถวเขาใหญ่บ้านเรานั่นแหละ อิอิ … นอกจากนี้ใกล้ๆ outlet ยังมี hypermarket ให้แวะซื้อขนมนมเนย ติดไม้ติดกลับมาเป็นของฝากด้วยค่ะ ห้างแถวนี้ใหญ่โตมากมาย ได้มาครบเต็มไม้เต็มมือแน่นอน ก็ขอให้นึกถึงพื้นที่กระเป๋าด้วยนะคะ ขอเตือน … ถึงที่พักคืนนี้ หน้าที่หลักคงไม่พ้นเรื่องแพ็คกระเป๋าสินะ จะยัดกันลงมั้ย 555

นี่เลย แถวที่พักคืนนี้ คืนสุดท้ายแล้ว เพลินสุดๆ

ที่พักคืนสุดท้ายสำหรับทริปนี้ เราเลือกพักกันไม่ไกลจากสนามบินมิลาน แต่ไม่น่าเชื่อเลย บรรยากาศรอบๆ แสนสงบร่มรื่น ทั้งๆ ที่ห่างไปอีกไม่ไกล ก็ตัวเมืองมิลานที่สุดจะวุ่นวาย ซึ่งยังจำได้เลยว่า วันแรกที่มาถึงต้องหาที่จอดรถชานเมือง แล้วนั่งรถไฟเข้าไป … ได้พักในที่สงบๆ แบบนี้หลังช้อบกันมาเต็มเหนี่ยว มันช่างสุขใจจริงๆ เหมาะกับการทำใจก่อนกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ในอีกไม่กี่ชั่วโมงจากนี้ 555 ชีวิตต้องสู้สินะ ไอ้มดแดง 

แถมให้อีกนิด ไอเดียโฆษณาเก๋ๆ ที่สนามบินมิลาน

เครื่อง TG มารอรับกลับละ



http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #3 – Sirmione
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #4 – Verona
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #5 – Venice, Murano & Burano
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #6 – Rimini & Republic of San Marino
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #7 – Heart of Tuscany Drive
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #8 – San Gimignano, Volterra, Siena
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #9 – Florence & Levanto
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #10 – Cinque Terre
ทริปอิตาลี ตอนเหนือ #11 – Portofino

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น