วันนี้จะเป็นวันปลอดทริปเที่ยวธรรมชาติ คั่นกลางไว้ 1 วันนะคะ (เพราะวันแรกก็ขึ้นเขาแล้ว เมื่อวานก็ทะเลสาบแล้ว เริ่มโหยหาเมืองหน่อยๆ 555) เช้านี้เราไปเที่ยวใกล้ๆ ที่เมือง St. Gallen กันค่ะ จากซูริคนั่งรถไฟก็ 1 ชั่วโมงนิดๆ ... พอมาถึงก็เริ่มต้นที่ Textile Museum กัน (ฟรีอีกแล้ว) เพราะเมืองนี้ขึ้นชื่อเรียก textile กันมานมนามแล้ว โดยธีม seasonal exhibition ในช่วงที่เราไปนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Knie Circus หรือคณะละครสัตว์ Knie เก่าแก่ ที่เคลื่อนย้ายไปจัดแสดงตามเมืองต่างๆ และเสื้อผ้าในคณะละครสัตว์ก็ตื่นเต้นเร้าใจ ... เรียกว่าถ้าไม่มาก็ไม่เคยคิดจะรู้ แต่พอรู้ก็สนุกดีเหมือนกัน ... และบรรยากาศตกแต่งอยู่ในระดับ OK มากสำหรับคนชอบถ่ายรูป
ส่วนหนึ่งจากงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ซูริค
เอา Swiss Travel Pass ไปแลกตั๋วเข้าชม Textile Museum มาค่ะ
ธีมวันนี้คือ Knie Circus
จากนั้นก็เดินเล่นชมเมืองค่ะ โดยเฉพาะโบสถ์และห้องสมุดเก่าแก่ขึ้นชื่อของเมือง หรือ Abbey Library (Stiftsbibliothek) ซึ่งเป็น UNESCO World Cultural Heritage ... มี Swiss Travel Pass ก็ไฉไลเข้าไปฟรีๆ เลยค่ะ … ทว่า ... ในห้องสมุดเค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปค่ะ จะเข้าไปด้านในต้องฝากของที่ห้องล็อคเกอร์ และต้องเปลี่ยนรองเท้าด้วย (เข้าใจเค้านะคะ ของเก่าแก่ทรงคุณค่าระดับนี้ ต้องถนอมและรักษากันดีๆ) ... แต่คนสวิสฯ ก็เข้าใจหัวจิตหัวใจนักท่องเที่ยวดีเหลือเกิน ในเมื่อถ่ายรูปข้างในไม่ได้ ก็จัดมุมเซลฟี่พร้อมฉากประกอบด้านหลังแบบสมจริง เตรียมไว้ให้ตั้งแต่ตรงประตูทางเข้าซะเลย ... ดีงามมากค่ะ 555ต่อด้วยจัตุรัสกลางเมืองสีแดง หรือ Red Square ... แดงเถือกกันทั่วทั้งลานกว้าง ... อันนี้ก็ว่ากันว่า เมือง St. Gallen โด่งดังเรื่อง textile และการย้อมผ้า มาแต่โบร่ำโบราณ ก็สงสัยว่าคงจะทำบ้านเมืองสีเลอะเทอะไปนิดนึง เลยเทสีแดงทับมันซะเลย ... ประมาณนั้นกระมัง 555
มุมสงบๆ น่ารักๆ ก็มี
แดงเถือกทั่ว Red Square
มื้อเที่ยงแบบควิ้กๆ เล็งไว้ตั้งแต่ขามาแล้ว อิอิ
แล้วก็ตามด้วย quick lunch ที่เล็งกันไว้ตั้งแต่ขามาแล้วแบบไวๆ ก่อนจะจับรถไฟกลับซูริค เพื่อร่วมฉลองงานเทศกาล Sechseläuten festival หรือ Zurich Spring Festival วันจริงแบบจัดเต็ม
กำหนดการของงานเทศกาลคือประมาณ บ่ายสามโมงค่ะ แต่เนื่องจากสถานที่จัดงานกินพื้นที่เกือบจะทั้ง town center จึงมีผู้ร่วมงานทยอยเข้าพื้นที่จากตรอกซอกซอยมากมาย กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลาพอสมควร งานจึงเริ่มแบบทยอยๆ กันไปค่ะ ... แต่ก็เรียกว่าบริหารจัดการได้ดีมากทีเดียว ดูทุกคนจะรู้คิวของตัวเอง ... ส่วนคนดูไม่ต้องพูดถึง ... สนุกมากอยู่แล้ว เพราะไปทางไหนก็เจอแต่บรรยากาศของงานเทศกาลทั้งนั้น ... โอววววว มันเยี่ยมมาก บอกเลย ... ยกเว้นก็แต่นักช้อบปิ้ง ขอแสดงความเสียใจด้วย ห้างร้านแบรนด์เนมทั้งหลาย ปิดหมดนะคะ อิอิ
ชมคลิปกับเลยค่ะ
เดินชมงานไป กินกันไป เพลินเลยค่ะ ... จนสุดท้ายงานจะมาจบที่ pyre หรือการจุดไฟเผาหุ่นตุ๊กตาหิมะที่ทำจากฟาง ในเวลา 6 โมงเย็น ตรงลานกว้างหน้าทะเลสาบซูริคนั่นเอง ... ถือเป็นเป็นการบอกลา winter และเข้าสู่ spring อย่างเป็นทางการ (แต่บนเขาหิมะยังเต็มพรึ่ดอยู่ 555) ... แต่ลานที่จัด pyre คนเยอะมากเลย ... คิดดูนะคะ ว่าคนจากถนนซอกซอยทั้งหลายเต็มพื้นที่ town center ทั้งผู้เข้าร่วมงานและผู้ชม เวลามากระจุกรวมกันตรงลานพื้นที่จัด pyre มันจะแออัดขนาดไหน ... ถ้าอยากเห็นชัดๆ ต้องมาจองคิวล่วงหน้านานๆ เลยล่ะ ... ส่วนมิสกะโปโลที่เดินเล่นซะเพลิน ก็ติดแหง่กอยู่ในซอยเล็กใกล้ๆ เข้าไปกว่านั้นไม่ได้แล้ว ... ยกเว้นว่าถ้าตัวสูงๆ หน่อย ลองยืดมือขึ้นฟ้า ถือกล้องถ่าย ก็เห็นชัดดีอยู่นะคะ ... คนรอบข้างทำแบบนี้กันเยอะเลย 555
จุดไฟเผาหุ่นฟาง
คุณลุงใจดีมาถ่ายรูปกันหน่อย
จบแล้ว ไฮไลท์สำคัญที่เล็งไว้หลายปี ก็สำเร็จลุล่วงไปเรียบร้อย ... สบายใจแล้ว พรุ่งนี้เตรียมโบกมืออำลาซูริค และกลับเข้าสู่โหมดธรรมชาติอีกครั้งนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น