กับการมาประเทศอังกฤษครั้งแรก เริ่มต้นก็ต้องเที่ยวกรุงลอนดอนก่อนเลยสิคะ เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติ Heathrow แต่เช้าตรู่ ซื้อ Oyster card ตั้งแต่ที่สนามบินเลย เตรียมพร้อมตะลุยลอนดอนสุดๆ Oyster card ตอนนี้เป็นแบบ refill ค่ะ เงินหมดก็เติมได้เรื่อยๆ แต่ซื้อครั้งแรกต้องมีค่าตั๋ว 3 ปอนด์ก่อน จ่ายแล้วจ่ายเลยไม่ได้คืน (non-refundable) จบทริปนี้แล้วจะเก็บไว้ใช้ทริปหน้าอื่นๆๆๆ อีกก็ได้ (ถ้าจะมาอีกนะ อิอิ)
จากนั้นภารกิจแรก ก็คือนั่งรถไฟเข้าเมือง เอาสัมภาระไปโยนกองไว้ที่ที่พักที่จองไว้ เราพักกันแถวสถานี King's Cross St. Pancras เพราะสะดวกต่อการเดินทางในวันถัดไป ไป Hogwarts เอ๊ย ไม่ใช่ ไป York ต่างหาก … แถมจากสนามบินนั่งรถไฟใต้ดิน (ที่นี่เรียกว่า tube) สาย Piccadilly ต่อเดียว ก็ถึงแล้ว ง่ายและสะดวกมากๆ เป็นโลเคชั่นที่เหมาะเจาะสุดๆ
อาคารสวยๆ แถบสถานี King's Cross St. Pancras
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ปลดเปลื้องสัมภาระเสร็จปุ๊บ ก็หาอะไรควิ้กๆ รองท้องนิดนึงแถว King's Cross เนี่ยแหละ ง่ายดี จากนั้นก็สำรวจเมืองจากบริเวณใกล้ๆ เริ่มต้นก่อนที่อาคารตึกรามสวยๆ สไตล์วิคตอเรียนแถบสถานีนี่เอง แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็ถึง British Library ได้ถ่ายรูปคู่กับนักวิทยาศาสตร์เอกระดับโลก ไอแซค นิวตัน ในท่ากำลังก้มหน้าก้มตาวัดค่าอะไรซักอย่างหนึ่ง หอมปากหอมคอแล้วก็นั่ง tube ไปต่อที่ Westminster เลยค่ะ
รูปปั้น ไอแซค นิวตัน ที่ด้านหน้า British Library
ถ้ามาลอนดอนครั้งแรก สถานที่นี้ต้องมาอย่างแรง (แม้แต่คนที่เคยมาหลายครั้งแล้ว ก็ยังแวะเวียนมาได้อีก) เรียกว่าเป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยวจริงๆ … ออกจากสถานี Westminster ปุ๊บ นี่ค่ะ ได้เจอหอนาฬิกา Big Ben ตั้งอยู่ตรงหน้าเลย ติดๆ กันก็คืออาคารรัฐสภา Houses of Parliament และโบสถ์สำคัญ Westminster Abbey อยากได้มุมสวยๆ ก็เดินไปทางสะพานข้ามแม่น้ำ Thames จะได้เห็น Big Ben ในมุมโปสการ์ดสวยสมใจ (แต่ฝูงชนก็ล้นหลานยิ่งนัก) และยังได้เห็น London Eye ตั้งเด่นอยู่ลิบๆ อีกฝั่งนึง จะเดินไปก็ไม่ไกลนะ แต่แบบว่า ขี้เกียจน่ะค่ะ เพราะตั้งใจไว้จะไปเถลไถลที่อื่นในทิศตรงข้ามกันเลย จึงขอมองจากแค่ไกลๆ แล้วไปต่อเลยดีกว่า
ทางขึ้นลงสถานี Westminster
บิ๊กเบนตั้งเด่นตระหง่าน
London Eye อยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง
หักขวาเข้าถนน Paliament St. มุ่งหน้า Trafalgar Sq. ชมบ้านชมเมือง ระหว่างทางผ่าน Horse Guards ได้ถ่ายรูปคู่ทหารม้าตรงหน้าทางเข้าด้วย (ระวังม้ากัดนะ มีป้ายเตือนบอก … เลยยืนซะห่างเชียว) จนมาถึง Trafalgar Sq. และ National Gallery ซึ่งจะเห็นรูปปั้นโครงกระดูกไดโนเสาร์ตั้งเด่นต้อนรับเชียวแหละ ในวันอากาศดี ผู้คนแถวนี้ล้นหลามอีกเช่นเคย … ท้องเริ่มร้องโฮกฮาก ที่รองท้องมาเมื่อเช้าน้อยนิดไปหน่อย เที่ยงนี้จัดหนักที่ Four Season ในย่าน China Town กันเลยดีกว่า เดินต่อขึ้นไปอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ
ระวังม้ากัดด้วยน้าาา ป้ายเตือนไว้
ด้านหน้า National Gallery
ถึงแล้วไชน่าทาวน์
มากินเป็ดย่าง
เมื่อท้องอิ่ม ก็ย่อยต่อซะหน่อย ที่ m&m's world, Leicester Square (อยู่แถวนั้นแหละค่ะ ยังไม่ทันได้ย่อยอะไรก็เดินถึงแล้ว) สนุกกับสีสันสไตล์ m&m อย่างเต็มอิ่ม แต่ละอย่างน่าซื้อน่าสะสมไปหมด มุมถ่ายรูปก็เยอะแยะ ใช้เวลาไปไม่น้อยกับร้านเล็กๆ 4 ชั้นตรงนี้ จนสมควรแก่เวลา ขาช้อบเรียกร้องให้นั่ง tube และต่อ overgroud ไปนอกเมืองหน่อยๆ แถว Burberry Outlet (สถานี Hackney Central) ซึ่งแถวนี้เรียกว่าเป็นดง outlet เลยแหละ มีเยอะแยะหลายสโตร์มาก เป็นร้านเล็กร้านน้อย เห็นแล้วน้ำลายไหล แต่ด้วยเวลาที่มี พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ Burberry ที่เดียวเท่านั้น … และสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมานะคะ ทำได้เพียงแค่เล็งๆ น้ำลายหยด เพราะเกรงว่าจะเพิ่มสัมภาระเดินทางที่ต้องกระเต็งไปอีก 12 วันจากนี้ เลยยับยั้งชั่งใจไว้ก่อนดีกว่า (ไม่เป็นไรค่ะ ก่อนจบทริปมีแวะอีก outlet ใหญ่)
ซอยนี้แหละ m&m's world
มีตารางธาตุ m&m ด้วย!
นั่งรถไฟกับมาที่ King's Cross อีกครั้ง โฉบไปเฉี่ยวมาหลายรอบแล้ว ยังไม่ได้แวะเที่ยวข้างในสถานีเลย รอบนี้ก็ขอซักหน่อยละกัน การตกแต่งข้างในสถานีเก๋ไก๋ดีแท้ เดินต่อไปอีกนิดก็มี Platform เบอร์ 9 3/4 และร้านขายของที่ระลึกให้สาวก Harry Potter ได้ยิ้มกรุ้มกริ่ม … แต่ … อดใจไว้ก่อนค่ะ เด๋วสัมภาระจะหนักอึ้ง … ก่อนจบทริป UK นี้ รับรองได้เต็มอิ่มกับ Harry Potter และผองเพื่อนแน่ๆ รอแพร้บนะคะ
เก๋ไก๋จริงๆ ภายในสถานี King's Cross
เค้าจะไป Hogwarts
แบตยังเหลืออยู่อีกเล็กน้อย นั่ง tube ไปลงสถานี Tower Hill กันต่อเลยค่ะ มาซะเย็นย่ำขนาดนี้ ก็ได้แค่เดินเลียบๆ เคียงๆ ข้างรั้ว Tower of London สินะ แหม แต่บรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำ Thames พร้อมวิว Tower Bridge ตอนไลท์อัพนี่ก็สวยสุดๆ โต้ลมหนาวได้ซักพัก แบตหมดจริงๆ แล้ว jet lag เริ่มออกอาการ ไม่ไหวแว้ววว กลับแถวที่พัก เติมพลังมื้อเย็น แล้วต่อพรุ่งนี้ละกันนะ
Tower Bridge สวยสุดๆ ภายใต้ไลท์อัพยามค่ำคืน
วันที่สองนี่เริ่มออกอาการค่ะ สำหรับลอนดอนแล้ว 1 วันไม่พอหรอก แต่ 2 วันเต็มก็ดูเยอะไปนิดสินะ (ถ้าเป็นวันท้ายๆ ทริป ขาช้อบคงไม่มีปัญหา 555) โปรแกรมวันนี้เลยออกแนวหลวมๆ เน้นกินซะมากกว่า และเริ่มต้นวันก็สายเสียแล้ว 555 (เมื่อวานเยอะไปนิด เริ่มเพลีย) สถานที่แรกที่แก๊งกะโปโลไปตะลอนวันนี้คือวิหาร Saint Paul ซึ่งแค่เดินวนรอบๆ ก็เหนื่อยแล้ว ใหญ่โตเหลือเกิน (เข้าข้างในเสียตังค์แพงด้วยตะหาก)
เดินเล่นชมบรรยากาศชิลๆ ยามเช้า แถบ St Paul
จากนั้นก็ใส่เกียร์เดินหน้าเร่งด่วน เพื่อไปให้ทันเข้าคิวชมพิธีการ Changing of the Guard ที่ลานด้านหน้าพระราชวัง Buckingham Palace โดยตามกำหนดการจะเริ่มประมาณ 11:00 น. โอ้วว ว้าว ผู้คนล้นหลานอลังการงานสร้างเหลือเกินค่ะ ถึงกับขี่คอกันเลยก็มี อะไรจะขนาดนั้น ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแถวนั้นก็เข้มงวดกันจริงๆ ล้ำเส้นหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะคะ ก็เบียดๆ แบ่งๆ กันไปค่ะ ได้ยินเสียงพี่พาทย์ เสียงกลองดังมา ขบวนเริ่มต้นขึ้นแล้ว จนมาถึงลานด้านหน้าพระราชวังซึ่งเป็นจุดที่พวกเราเบียดเสียดเขย่งๆ กันอยู่นั่นแหละ อืม … พิธีการก็โอเคประมาณนึงนะคะ แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าให้พร้อมเพรียงกว่านี้นิดนึงก็จะดีนะ (อาจเพราะบ้านเราก็มีสวนสนามให้ดูทุกปีอยู่แล้ว ของบ้านเราดูเป๊ะกว่านะ) แต่ก็ถือว่ามาทั้งที ได้เห็นได้ชมเป็นประสบการณ์ไป แถมพิธีการนี้ก็ไม่ได้มีทุกวันด้วยนะ (ประมาณวันเว้นวันน่ะค่ะ ให้ชัวร์ต้องเช็คจากเวบไซท์ทางการของเค้าอีกที)
เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่เรียบร้อย
ขบวนมาแล้ว้
ขนาดต้องขี่คอกันเลย
จบแล้ว ลาก่อย
จากนั้นก็เดินทะลุ Green Park ดื่มด่ำบรรยากาศเขียวๆ ในวันอากาศดี ช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง ก่อนจะถึงจุดหมายที่เล็งไว้สำหรับมื้อเที่ยงแบบจัดหนัก (อีกแล้ว) ของวันนี้ คือร้าน Burger & Lobster นั่นเอง มื้อนี้บอกเลย จัดหนัก จัดเต็มมากมาย แค่ก้ามกุ้งก็ใหญ่เท่าหน้าละ อิ่มอ้วนกันสุดๆ บริโภคไปทั้งสารอาหาร และเวลา อย่างเต็มอิ่ม
เริ่มต้นด้วยสลัด ก็หรูแล้ว
ตัวเป้งมากๆๆๆๆ
อิ่มอืดซะขนาดนี้ จนแทบไม่อยากจะคืบคลานไปไหนต่อแล้ว … จากที่แพลนไว้ว่าเวลาเหลือๆ จะไปเดินเล่น Nothing Hill หรือไม่ก็ไปหาสาระความรู้ที่ British Museum (ที่ลิสต์ในโปรแกรม มีแต่พิพิธภัณฑ์ที่เข้าได้ฟรีทั้งนั้น กระนั้นแล้ว … ก็นะ อิอิ) สุดท้าย เราเลือกนั่ง tube ไป Knightsbridge และเดินเล่นที่ Harrod ค่ะ จบข่าว (บอกแล้ว 2 วันเริ่มเยอะไปนิด ถ้าไม่ได้ช้อป 555)
ปิดท้ายที่แฮร์รอดสิคะ ชิลดี
เดิน Harrod ฆ่าเวลาเพลินๆ แบบไม่เหนื่อยมากนัก จากนั้นก็กลับมา King's Cross หอบหิ้วกระเป๋ามาเตรียมรอขึ้นรถไฟรอบดึก เพื่อเดินทางไกลสู่เมือง York ในค่ำคืนที่สองนี้เอง (รถไฟด่วนใช้เวลาประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมง) เป็นการจบทริปตะลุยลอนดอนแบบคอมแพ็ค ปนขี้เกียจนิดๆ ของแก๊งกะโปโล :)
ทริป UK - ตอน 2 ยอร์ค
ทริป UK - ตอน 3 เอดินเบอระ
ทริป UK - ตอน 4 North Lake District, Buttlemere
ทริป UK - ตอน 5 North Lake District, Ullswater
ทริป UK - ตอน 6 Wales
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น