ลิสต์บรรดาเมืองเล็กน่ารักในย่าน Cotswolds ที่มิสกะโปโลจะพาไปตะลอนในเวลาที่เหลืออยู่ 1 วันนิดๆ ต่อจากนี้ ได้แก่ Chipping Campden, Blenheim Palace, Stow-on-the-Wold, Bourton-on-the-Water และ Bibury แม้ชื่อแต่ละเมืองจะยาวไปหน่อย เหมือนโคลงฉันท์กาพย์กลอนยังงัยไม่รู้ แต่ก็ออกเสียงตรงไปตรงมา ไม่มึนตึ้บเข้าขั้นจนปัญญาและเมื่อยลิ้นแบบที่ Wales อิอิ … อีกทั้งยังจะมีแทรกนิดๆ คือ Stratford-upon-Avon ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านระหว่าง Warwick กับ Cotswolds และแหล่งช้อบปิ้งที่ Bicester Village (อันนี้สำคัญ พลาดไม่ได้ ไม่งั้นโดนเดอะแก๊งส์บ่นชัวร์)
เอาละ อิ่มอาหารไทยเว่อร์ๆ จากวอร์ริคแล้ว ก็ไปต่อกันที่คอทส์โวลส์ ซึ่งเป็นย่านหมู่บ้านบนเนินเขา Cotswold Hills ประกอบด้วยหมู่บ้านเล็กๆ น่ารักๆ ที่ให้บรรยากาศชนบนแบบ fairy tale หน่อยๆ พร้อมด้วยปราสาท Blenheim ซึ่งเป็นปราสาทนอกเมืองใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
เมืองแรกในคอทส์โวลส์ที่เดอะแก๊งส์ไปเยือน คือ Chipping Campden ซึ่งแม้วอร์ริคกับคอทส์โวลส์จะไม่ไกลกันเท่าไรนัก (33 กิโลเอง จิ๊บๆ) แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ขี้เกียจขับรถรึป่าวเอ่ย … ที่ต้องยกมาเที่ยวก่อนนิดนึงในวันแรก หลังจากเที่ยว Warwick Castle เสร็จ (ซึ่งก็บ่ายกว่าๆ ละ) เพราะเกรงว่าตะลอนหลายเมืองเหลือเกินในย่านนี้ ปล่อยไปถึงพรุ่งนี้วันเดียวจะไม่มีเวลาพอ เลยขับรถเพิ่มอีกหน่อย มาเที่ยว Chipping Campden ชิมลางนิดๆ ก่อน
ซึ่งก็สวยสมใจนะ หมู่บ้านน่ารักดี บ้านเรือนสวย และดูรวย … ส่วนไฮไลท์ที่ไม่เหมือนใคร ก็เห็นจะเป็นบ้านหลังคามุงฟางหนาๆ หรือ thatched house (คล้ายชิราคาวะโกะในญี่ปุ่น) และรั้วพุ่มไม้ทรงกลมๆ อ้วนๆ (อันนี้ญี่ปุ่นไม่มีละ) ดูแปลกดี แต่เดินไกลจากดาวน์ทาวน์เยอะเหมือนกัน ในขณะที่ High Street ซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก เงียบสนิทเลยค่ะ โล่งเหลือเกิน ผู้คนไปไหมกันหมดนะ คงเพราะอากาศหนาว ลมแรง ผู้คนคงอยู่แต่ข้างในบ้านกัน และเมื่อพวกเราพากันเข้าไปในร้านกาแฟเล็กๆ บรรยากาศน่ารักแห่งหนึ่ง ก็ ซตพ. ซึ่งต้องพิสูจน์ เป็นไปดังคาด 555
ชิมกาแฟกินขนมเสร็จ ก็ง่วงสิคะ น่านอนจริงๆ … อากาศมันหนาวน่ะ 555 … กลับเลยดีกว่า ไม่เดินละ แต่แอบงก ขากลับก็แวะ Stratford-upon-Avon เมืองบ้านเกิดของศิลปินระดับโลก เชคสเปียร์ ซะหน่อย เผื่อจะมีอะไรๆ ให้ดูบ้าง (แต่คิดว่าคงไม่ได้เที่ยวมากมาย เพราะมืดแล้ว และพวกเราก็ไม่ใช่แฟนคลับ) ทว่าเมื่อไปถึง นี่คืออะไร สวนสนุกยกมาวางกลางเมืองชัดๆ … จะว่าไปตอนอยู่วอร์ริคก็แอบเห็นคล้ายๆ กันแบบนี้นิดนึง แต่ตอนนั้นยังสว่างอยู่ ยังไม่เปิด เลยไม่รู้ว่าตกดึกจะอลังการขนาดนี้ … เดาว่าคงเป็นเทศกาลฉลองวันหยุดยาว หรืออะไรซักอย่าง แต่ที่แน่ๆ เลิกง่วงเลยค่ะ เจอสีสันขนาดนี้เข้าไป ก็รีบแจมเลยสิคะ เพลินเลย คึกคักและตื่นตัว จนมีแรงเดินไปถึงบ้านหลังที่เป็นบ้านเกิดของเชคสเปียร์เลย เอ้า ถ่ายรูปหน้าบ้านไว้เป็นหลักฐานนิดนึง 555
เช้าวันถัดมา เริ่มต้นวันด้วยการไปช้อบปิ้งค่ะ ทนไม่ไหวแล้ว ขอช้อปก่อนเลย ที่ Bicester Village ได้ของมาโหลดใส่รถเพิ่มอีกเพียบ ทั้งที่ในรถก็เต็มไปด้วยกระเป๋าเดินทางใบโต (เพิ่งเช็คเอาท์ออกมา) ไม่มีที่ว่างเหลือแล้ว ยังอุตส่าห์จะยัดเยียดอะไรต่อมิอะไรโถมเข้าไปอีก สามารถสุดๆ (ไม่ลงรูปนะ อายมาก 555)
จากนั้นค่อยไปเยือนปราสาท Blenheim Palace … ถามว่าเบื่อมั้ย ปราสาทน่ะ ก็เบื่อสิคะ แต่ด้วยศักดิ์ศรีปราสาทนอกเมืองใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน UK ก็ซักนิดละกัน อีกทั้งในทริปนี้ นอกจากปราสาทที่กลายเป็น theme park ไปเรียบร้อยแล้วอย่างที่ Warwick และปราสาท Edinburgh ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งเดียวในสก๊อตแลนด์ที่เดอะแก๊งส์ไปเยือน ก็ยังไม่ได้เสียตังค์เข้าปราสาทที่ไหนอีกเลย
ซึ่งก็ดีเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้แวะมื้อเที่ยงที่ไหน ตรงดิ่งมาปราสาทเลย ทำให้ได้ใช้บริการ canteen ภายในปราสาท ซึ่งอาหาร canteen ก็ธรรมดาๆ ค่ะ ประมาณแซนวิชและเมนูควิ้กๆ เทือกนั้น แต่ที่ฟินสุดๆ คือ การได้จับจองพื้นที่ตรงระเบียง และโซ้ยแซนวิชกับสลัดบาร์ ในบรรยากาศที่ไม่ธรรมดา … ถ้าไม่มองมาที่เมนู ก็เหมือนเจ้าหญิงในปราสาทเลยนะ 555
พื้นที่ปราสาทกว้างใหญ่มากเลยค่ะ (จริงๆ แค่ที่จอดรถก็เดินเยอะมากแล้ว) ยังมีสวนอีกแห่งตั้งอยู่ห่างๆ และเค้ามีรถไฟให้บริการฟรีไปส่งถึงที่ด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ตามโปรแกรมยังอีกหลายเมืองเลย บายก่อนละกัน … ว่าแต่ ทำไมไม่มีรถไฟไปส่งที่จอดรถบ้างนะ 55
รถไฟเล็ก ให้บริการภายในบริเวณ Blenheim Palace
จากนั้นก็ขับตามเส้นทางที่แพลนไว้ ถึงเมืองถัดไปคือ Stow-on-the-Wold ซึ่งก็สวยงามอีกนั่นแหละ เป็นเมืองเล็กๆ ถ้าจะเดินก็เดินได้ แต่เริ่มขี้เกียจ ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกแป๊บๆ ไปเมืองอื่นต่อเลยดีกว่า เผื่อจะมีอะไรๆ กว่านี้
แล้วก็ต้องถือว่าคิดถูกจริงๆ ค่ะ เพราะเมืองถัดมาคือ Bourton-on-the-Water ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวมากกว่า ตัวเมืองใหญ่กว่า มีสายน้ำและพันธุ์ไม้สวยๆ ที่ขึ้นริมน้ำ พร้อมมุมถ่ายรูปชิคๆ เยอะกว่า ก็เดินเล่นกันเพลินๆ หลังฝนตกปรอยๆ เก็บรูปได้เพียบ
จากนั้นเมืองสุดท้ายตามโปรแกรม คือ Bibury ที่หลังๆ เห็นโปรโมทกันนักหนา แต่มิสกะโปโลว่า ก็งั้นๆ แหละ มุมที่น่าเดินก็คือมุมเดียวกับรูปที่โปรโมทตามสื่อเยอะๆ นั่นเอง ส่วนมุมอื่นน่ะ ดูงั้นๆ จริงๆ นะ อันที่จริงแถวนี้เค้ามีฟาร์มแซลมอนด้วย (เป็นเมืองที่มีสายน้ำไหลผ่านเช่นกัน) แต่เนื่องจากขี้เกียจเดินแล้ว จึงขอลงความเห็นแบบส่วนตัวนิดนึง ว่างั้นๆ แหละ (รอบที่ 3 … อย่าโกรธกันเลยนะ 555)
ไปค่ะ ขับกันอีกนิด ย้ายนิวาสสถานไปอีกไม่กี่สิบโล ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ กระเถิบไปใกล้ๆ กับที่เที่ยวในวันพรุ่งนี้นิดนึง เก็บแรงไว้เที่ยวต่อ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
รีวิวเส้นทางทริป UK ครั้งนี้ได้จากบล็อกนี้
ทริป UK - ตอน 1 ลอนดอน
ทริป UK - ตอน 2 ยอร์ค
ทริป UK - ตอน 3 เอดินเบอระ
ทริป UK - ตอน 4 North Lake District, Buttlemere
ทริป UK - ตอน 5 North Lake District, Ullswater
ทริป UK - ตอน 6 Wales
ทริป UK - ตอน 7 วอร์ริค
ทริป UK - ตอน 8 คอทส์โวลส์
ทริป UK - ตอน 9 กลุ่มหินประหลาด (Stonehenge, Avebury, plus Bath)
ทริป UK - ตอน 10 The Making of Harry Potter : WB Studio Tour
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น