มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

9 สิงหาคม 2560

ทริป UK - ตอน 3 เอดินเบอระ


จากยอร์ค มิสกะโปโลแก๊งส์อาศัยรถไฟไฮสปีดรอบ 5 โมงครึ่ง กระเต็งกันขึ้นมาถึงเมืองหลวงของสก็อตแลนด์ คือเอดินเบอระ (Edinburgh) ใช้เวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมง มาถึง 2 ทุ่มหน่อยๆ ซึ่งก็ไม่ดึกดื่นจนเกินไปนัก ไทมิ่งกำลังสวยเลย เส้นทางตามหาที่พักก็ไม่เป็นเนินโหดมากนัก แต่สะพานลอยข้ามทางรถไฟนี่สิคะ ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเลย เล่นเอาหอบเหมือนกัน 555 เรามีเวลาเที่ยวที่เมืองเอดินเบอระนี้ 1 วันเต็มค่ะ จากนั้นก็เบนเข็มมุ่งหน้าลงใต้ อำลาสก็อตแลนด์แต่เพียงเท่านี้ … โถๆๆ มากันได้เพียงแค่นี้จริงๆ นั่นก็เพราะว่า …


จริงๆ แล้วก่อนมาคิดเยอะนะคะ ลางานมาเที่ยวได้เต็มที่ก็ 12 คืน (ไม่รวมคืนที่ต้องนอนบนเครื่องบิน) ซึ่งก็ถือว่ายาวมากแล้วนะ กระเป๋าเดินทางไซส์บิ๊กบึ้มกว่าทุกทริปที่ผ่านมา (ซึ่งอย่างมาก 10 คืนก็หอบหิ้วกันเหนื่อยแล้ว ไม่อยากคิดถึงตอนระเบิดกระเป๋า กับตอนซักผ้าเมื่อถึงบ้าน) แหม มาอังกฤษทั้งที ก็อยากจะเที่ยวให้ครบๆ ทั้ง England, Scotland และ Wales จริงมั้ย

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

แต่เกาะอังกฤษนี่ก็ใหญ่โตใช่เล่นเลยนะ ขนาดแบ่งนั่งรถไฟไฮสปีดไปครึ่งค่อนเส้นทาง (จากลอนดอน ไปยอร์ค ไปเอดินเบอระ) แล้ว จากนั้นขับรถกันเอง จากเอดินเบอระค่อยๆ เที่ยวเก็บพ้อยต์ ไต่ลงมาถึงลอนดอนก็อีก 1,600+ ก.ม. ใน 8 วัน (ดูเส้นทางภาพรวมที่บล็อกนี้) เฉลี่ยวันละ 200 กิโล … ขับทุกวันแบบนี้ก็เหนื่อยเนอะ

สวยๆ และอากาศดีๆ ในฤดูใบไม้ร่วงเช่นนี้ มีเวลาไปเดินไฮกิ้งเตรดเตร่ ชมวิวทิวทัศน์เพลินๆ น่าจะดีกว่ามัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถจริงมั้ย คิดได้แบบนี้แล้ว ตัดทิ้งหมดเลยค่ะ ทุกเส้นทางที่อยู่เหนือเอดินเบอระขึ้นไป ถึงจะอยากไปน้ำลายหยดแค่ไหน แต่ละพ้อยต์นี่หลายร้อยกิโลทั้งนั้นเลย ไม่น่าจะไหว 555 ตัดใจเสียเถอะ ไว้ติดใจค่อยมาใหม่รอบหน้า แล้วจัดเต็มสก็อตแลนด์อย่างเดียวเลย ดีมั้ย?


The Royal Mile

ที่พักของเรานี่ก็โลเคชั่นดีเลิศอีกแล้ว เดินเลี้ยวมาปุ๊บ ถึงแล้ว Royal Mile ถนนสายหลักใจกลางเมืองเอดินเบอระ เช้าสดใสวันนี้พวกเราเดินเล่นชมเมืองบนถนนสาย Royal Mile เส้นเดียวก็เพลินสุดๆ แล้ว แม้เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งดูเหมือนความคึกคักจะไม่เยอะเท่าวันอื่นๆ แต่ก็มีกิจกรรม street show เอาใจนักท่องเที่ยวได้ไม่เบื่อค่ะ แถมยังฟลุ้คเป็นวันแข่งวิ่งวิบากของเค้า เลยได้ลุ้นเชียร์ไปในตัว มันดีเหมือนกันแฮะ 555


แข่งวิ่งวิบาก มันดีค่ะ

สุดทางก็ถึงปราสาท Edinburgh Castle อยู่บนยอดเนิน แม้ค่าเข้าจะแพงน้ำตาไหล ก็ยอมควักกระเป๋า (แหม สก็อตแลนด์เที่ยวแค่เมืองนี้เอง) ซึ่งก็ถือว่าคุ้มแหละ เพราะอาณาบริเวณปราสาทกว้างขวาง ได้ชมวิวเมืองและ Royal Mile จากมุมสูงสวยดี ส่วนนิทรรศการก็ใช้ได้นะ แม้จะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง ประมาณศึกแย่งชิงเปลี่ยนถ่ายราชวงศ์ในแต่ละยุคสมัย … ไม่ค่อยถนัดวิชาประวัติศาสตร์ต่างประเทศ ขยันหามุมโพสต์ท่าถ่ายรูปมากกว่า อิอิ … ดิสเพลย์ดูธรรมดาไปนิด เพราะดันไปเจอสุดยอดการนำเสนอที่ Jorvik Viking ที่ยอร์คไปแล้ว 555 แต่บางมุมได้แอบส่องนักกีฬาวิ่งวิบาก ก็สนุกไปอีกแบบค่ะ






พักเบรกชั่วคราวด้วยกาแฟรถฟักทอง (ต้อนรับฮาโลวีน) ที่สตาร์บั๊ค รสชาติแปลกประหลาดเล็กน้อย 555 จากนั้นเที่ยวยังไม่เสร็จ ก็กลับที่พักไปรับกระเป๋าคืน และลากไปรับรถเช่า (เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ ร้านเค้าปิดเร็ว จะเช่ารถก็คอนเฟิร์มเวลาเปิดปิดดีๆ นะคะ กันพลาด) แล้วมาหาที่จอดฟรีๆ ด้านหลังปราสาทนั่นเองแหละค่ะ (ก็ดีที่เป็นวันอาทิตย์ เลยได้จอดฟรี อิอิ ถ้าวันอื่นก็เสียตังค์นะ)

จอดฟรีด้านหลังปราสาท

รถบัส 2 ชั้นพาทัวร์เมือง Edinburgh

ตามด้วยมื้อเที่ยง และสุดท้ายพลาดไม่ได้ มาทั้งทีก็ต้องยอมผิดศีล 5 ได้ลอง Scotch Whisky Experience สักนิดสิคะ ชื่อเล่นของเค้าคือ Malt Disney ซึ่ง Malt ก็คือวัตถุดิบใช่มั้ยล่ะ ส่วน Disney ก็คงเพราะได้นั่งรถชมนิทรรศการแบบไม่ต้องเดินเองอีกแล้วมั้ง เหมือนสวนสนุกเลย อิอิ มีวิญญาณอาวุโสจากถังหมักวิสกี้มาเป็นไกด์ทัวร์ด้วย 555


การเข้าชมต้องจองเวลาเป็นรอบๆ นะคะ และค่าเข้าก็รวมค่าชิมวิสกี้พร้อมแก้วส่วนตัวด้วยแล้ว (พกกลับบ้านเป็นที่ระลึกได้) วิสกี้ที่เค้าให้ชิมมี 4 รส 4 กลิ่น ตอนแรกมาเป็นกระดาษ 4 สีที่เคลือบกลิ่นวิสกี้ท้องถิ่น นำมาทดสอบความสามารถจมูกก่อน ซึ่งก็มีทั้งกลิ่นทุ่งหญ้าสุดๆ กลิ่นดอกไม้ ผลไม้ แต่ละกลิ่นแค่ดมก็มึนแล้ว (อ่อนไปมั้ย) … ต่อจากนั้นเค้าให้เลือกว่าอยากชิมกลิ่นไหน (โห เทมาซะเยอะเชียว กะให้เมากันเลยหรืองัย) เรามีกันหลายคน เลยแบ่งชิมกันได้ครบทุกรส และ เมาแอ๋ 555 (เวอร์ไปๆ)


 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook





เป็น experience ที่ก็สนุกดีเหมือนกันค่ะ และคุ้มค่าเข้าเพราะได้นั่งรถสวนสนุกด้วย อิอิ พอจบจากที่นี่ก็เริ่มขี้เกียจเที่ยวต่อ (อีกแล้ว) ทั้งๆ ที่ลิสต์พิพิธภัณฑ์ฟรีมาหลายที่เลยนะ … เราไม่ค่อยเน้นสาระค่ะ จบทริปสก็อตแลนด์แต่เพียงเท่านี้ แบบเมาๆ … จากนั้นขับรถยิงยาวไปเมือง Keswick ต่อเลยดีกว่า … เปิดซิงขับรถวันแรก แค่ 2 ร้อยกิโลนิดๆ เอง 555 … และถัดจากนี้ไป สุขใดจะเท่า ไม่ต้องลากกระเป๋าตามหาที่พักอีกแล้ว เย้ เย้ เย้

รีวิวเส้นทางทริป UK ครั้งนี้ได้จากบล็อกนี้

http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

ทริป UK - ตอน 1 ลอนดอน
ทริป UK - ตอน 2 ยอร์ค
ทริป UK - ตอน 3 เอดินเบอระ
ทริป UK - ตอน 4 North Lake District, Buttlemere
ทริป UK - ตอน 5 North Lake District, Ullswater
ทริป UK - ตอน 6 Wales
ทริป UK - ตอน 7 วอร์ริค

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น