My travel diary: ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #7

กะโปโลแก๊งส์เดินทางมาถึงเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ กันในตอนเย็นๆ ซึ่งเมื่อเช็คอินที่พักเสร็จปุ๊บ สิ่งแรกที่ทำคือตรงดิ่งเข้าไปในเมือง (ซึ่งก็คือแถบเมืองเก่านั่นเอง) เพื่อหาร้านแลกเงินจากสกุลยูโรเป็นเงินท้องถิ่น (ที่ได้ทอนมาตอนซื้อสติ๊กเกอร์ทางด่วน แค่เย็นวันนี้ก็ไม่น่าจะพอยาไส้แล้ว) เช็ค google เราพบว่าหลายร้านในเมืองยังคงเปิดอยู่ แต่จะปิดตอน 6 โมงเย็น ซึ่งก็คืออีกประมาณ 10 นาทีจากนี้ โอ้โห จ้ำอ้าวกันเลยค่ะ ฮึบๆๆ

ยามเย็นสวยๆ ในเมืองเชสกี้คลุมลอฟ

แต่กว่าจะกระหืดกระหอบเข้ามาถึงภายในตัวเมือง ก็ใช้เวลาไปพอสมควร (ไกลอยู่นะ) อีก 1 นาทีจะ 6 โมงแล้ว กะโปโลแก๊งส์มายืนอยู่ตรงหน้าร้านแลกเงินร้านสุดท้ายที่ยังเปิดอยู่พอดี แต่ก็ได้เห็นเค้าเก็บของปิดร้านไปต่อหน้าต่อตา ทำหน้าตาใสซื่อเข้าไปถามไถ่ ว่ายังให้แลกเงินมั้ย เค้าส่ายหัวลูกเดียวเลย ... แหม รักษาเวลาดีเหลือเกิน ... ไปถามตามโรงแรมแถวนั้น เค้าก็ไม่ยอมให้แลกซะด้วยสิ

จ้ำอ้าว รีบกันสุดๆ

วิวสวยๆ ข้ามไปก่อนนะ รีบอยู่

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

Chimney cake อีกแล้ว แต่วันนี้อดกินสินะ

เพราะฉะนั้นค่ำคืนนี้ ถ้าเป็นร้านอาหารก็ใช้เงินยูโรหรือไม่ก็บัตรเครดิตจ่ายไปก่อนนะ (ซึ่งบางร้านใช้อัตราแลกเปลี่ยนโหดสุดๆ ยอมให้บัตรเครดิตชาร์จยังน่าจะถูกกว่า โดนมาแล้ว หึๆๆ) แต่ถ้าเป็นร้านขนมหรือร้านของฝากกระจุ๊กกระจิ๊กที่ยังเปิดอยู่ ซึ่งต้องใช้เศษสตางค์ ก็อดใจไว้ก่อน ไว้พรุ่งนี้มาใหม่ แลกเงินเสร็จค่อยลุยกันอีกทีนะ

วิวสวยยามดึก หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในการแลกเงิน

มื้อเย็นวันนี้ พลาดที่จ่ายด้วยยูโร

เช้าวันถัดมาก็กลับมาแก้มืออีกครั้ง คราวนี้แลกกันตั้งแต่ร้านแรกที่เจอเลยค่ะ เป็นร้านขายของกระจุ๊กกระจิ๊กที่ติดป้ายสัญลักษณ์ให้แลกเงินได้ เห็นเรทแล้วก็รู้หรอกว่าแพงกว่าร้านที่ไปมาเมื่อวานอยู่หน่อยๆ แต่ก็ไม่เยอะนัก แล้วก็ขี้เกียจด้วยงัยคะ (เผื่อเจอขนมนู่นนี่จะได้ซื้อเลย) เลยแลกเท่าที่คำนวณว่าจะใช้ในประเทศนี้กันเท่าไหร่ เทกันหมดหน้าตักเลย ซึ่งเมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงจัตุรัสใจกลางเมืองนั่นแหละ ตรงนั้นมีธนาคารแบบเป็นเรื่องเป็นราวอยู่หลายแห่ง ลองเข้าไปเช็คเรทที่นึง โอ้โห แลกธนาคารได้เรทดีกว่าตั้งเยอะ (ดีกว่าทั้งร้านวันนี้และเมื่อวาน) ไม่น่ารีบร้อนเลย ... แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ แลกไปแล้วนิ ไม่ได้แลกกันเป็นหมื่นเป็นแสนซักหน่อย หยวนๆ ไป (โดนเรทยูโรที่ร้านอาหารเมื่อวาน ยังสาหัสกว่า 555) เที่ยวต่อดีกว่าค่ะ

สวยกันตั้งแต่ก่อนเข้าเมือง

เข้ามาในเมืองก็เจอมุมสวยๆ อีก

เลยแทบไม่อยากจากไปไหนเลย

แลกเงินร้านนี้

อาร์ทมากมาย

หอคอยโดดเด่นมาก อยู่ตรงไหนก็เห็น

และตรงจัตุรัสใจกลางเมืองนี้ละมั้ง ที่เป็นต้นแบบอาคารสีๆ ที่เห็นได้ทั่วไปในโปสการ์ด รูปวาด แม็กเน็ต และของที่ระลึกอื่นๆ ที่พบเห็นอยู่ตลอดทางในเมืองน่ารักแห่งนี้ หันไปด้านไหนก็สีไม่ซ้ำ เลยแอ็คติ้งกันนานเป็นพิเศษ

สีสันของอาคารบ้านเรือนที่จัตุรัสใหญ่ใจกลางเมือง

จากจัตุรัสมองไปก็เห็นหอคอยปราสาท

ร้านเล็กๆ น่ารักเยอะมาก

ข้ามแม่น้ำจะไปปราสาท (แต่ไม่ถึงซะที 555)

สำหรับแพลนเที่ยววันนี้ไม่มีอะไรยากค่ะ ไฮไลท์อยู่ที่ปราสาทคลุมลอฟที่ตั้งโดดเด่นให้เห็นสวยๆ แต่ไกล แต่แหม … ช่างเป็นเมืองที่น่ารักและมีความอาร์ทซะเหลือเกิน อะไรๆ ก็สวยน่ารัก น่าแวะถ่ายรูปด้วยไปหมด กว่าจะถึงปราสาทก็กินเวลาไปเยอะเลย และแถมด้านหลังปราสาท (ใกล้ที่จอดรถ … แต่เราเดินมา) ก็เป็นสวนโล่งๆ ในบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วง สวยบาดตาเข้าไปอีก กว่าจะแอ็คกันแต่ละท่า นักท่องเที่ยวมากันพรึ่บเต็มปราสาทแล้วค่ะ 555

เพราะเจอสิ่งเหล่านี้รั้งไว้

ก็น่าโดนรั้งมั้ยล่ะ

น่ารักชะมัด

น่ารักไปหมด

ข้ามสะพานซะที

แต่ยังไม่ข้าม เอ๊ะยังงัย

ข้ามมาแล้วเจอแบบนี้

และแบบนี้

แล้วก็แบบนี้ เลยไม่ไปถึงไหนกัน

เมื่อไต่ขึ้นมาข้างบน ยังไม่ทันได้ก้าวพ้นประตูเข้าไปภายในบริเวณปราสาท ก็ติดกับดักวิวสวยระดับ A+++ เข้าให้อีกแล้ว ซึ่งถ้าเที่ยวครบหมดแล้ว ก็สามารถตัดสินได้ว่า วิวตรงนี้แหละที่สวยสุดยอดกว่าตรงอื่นไหนๆ ในเมืองเชสกี้คลุมลอฟแล้ว (ขนาดที่ตากล้องของเราต้องขอกลับมาเก็บภาพซ้ำอีกครั้ง)

โอ้ว มุมนี้สุดยอด

หันไปอีกด้าน จากที่เดียวกัน ... โอ้ว สุดๆ ไปเลย

ส่วนการเดินเล่นข้างในบริเวณปราสาทก็เพลินดีค่ะ ได้เห็นกำแพงและผนังอาคารต่างๆ ที่ใช้วิธีการเพ้นท์เอาก็ดูแปลกตาดี นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เสียตังค์เข้าชม เช่นหอคอย (หรือพิพิธภัณฑ์ที่ต้องไต่ขึ้นไปดูเหนื่อยๆ) และ Baroque Theater tour (ซึ่งมีเป็นรอบ และต้องจอง) ณ จุดนี้ใครอยากทำอะไรก็ตามใจนะคะ แต่มิสกะโปโลขอไปนั่งพักจิบกาแฟและเอ็นจอยกับช้อคโกแล็ตบราวนี่ home made ที่ cafe ใต้พิพิธภัณฑ์รอละกันค่ะ อิอิ

หามุมเก๋ๆ ภายในบริเวณปราสาทแอ็คติ้งกัน

เริ่มเหนื่อย

แต่ยังแอ็คได้อยู่

เข้ามาข้างในดีกว่า

สิ่งที่ได้

ไปต่อกันได้ยัง

มาเจอมุมนี้อีก ชัดเจนมาก

ก่อนออก หันหลังกลับไป โอ้ววว สวย

ร้านข้างนอกน่ารักมากมาย

แม็กเน็ตมีแต่รูปอาคารสีๆ

ผ้าพันคอก็อาร์ท สีสันสดใน

ป้ายร้านอาหารเมื่อวานนี้นินา

อู๊บบ สีเดียวกับคอสตูมดิชั้นเลย

แล้วก็เดินเล่นชมเมืองต่อ เราเดินซอกแซ่กทะลุกันไปอีกด้าน เพื่อตามหาร้านอาหารจีน (เอเชียอีกแล้ว 55) ผ่านมุมน่ารักๆ อีกมากมาย เลยได้ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ปล่อยให้ท้องหิวไปพลางๆ ... ก็แหม เมืองเค้าสวยจริงจังนิคะ

แวะร้านขายของอีกแล้ว

ลูกเล่นตลอดทุกซอกซอย

มาทะลุอีกฝั่ง

มื้อนี้อร่อยกับอาหารจีน

ขากลับมีแวะร้านเครื่องเขียนและอุปกรณ์วาดรูป ได้หนังสือภาพหัดระบายสีติดกลับมาด้วย 1 เล่ม ซึ่งก็ไม่ได้จะเอามาฝากเด็กที่ไหนหรอกค่ะ ฝากตัวเองเนี่ยแหละ ราคาไม่แพงและดูดีแบบผู้ใหญ่ยังอู้หูแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมืองมันถึงอาร์ทได้ระดับนี้