มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

6 มีนาคม 2562

ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #9 – Vienna


บล็อกนี้เราอยู่ที่เมืองสุดท้ายในทริปยุโรปตะวันออกแล้วนะคะ มาจบทริปกันที่เวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ซึ่งจากตอนแรกที่คิดว่าไม่น่ามีอะไรนัก มิสกะโปโลก็ทำให้มันมีอะไร ที่ไม่ใช่แค่เมืองเก่า โบสถ์ และปราสาท จนได้ 555

เฉลิมฉลอง National Day ที่ลานหน้า Hofburg Palace

เริ่มต้นเช้านี้ไม่โอ้เอ้ค่ะ รีบแบ่งทีมนำรถเช่าไปคืนกันแบบด่วนๆ เพราะย้อนไปบล็อกแรกตอนที่มาถึงสนามบิน เราก็รับรถกันแต่เช้า แล้วใช้วนจนจะครบตามจำนวนชั่วโมงเป๊ะๆ อยู่แล้ว (ยี่ห้อนี้เค้าให้เกินได้ครึ่งชั่วโมง ถ้ามากกว่านี้ชาร์จเพิ่มอีกวัน) เพราะงั้นก็เลยต้องด่วนๆ แต่เช้า ซึ่งใช่ว่าจะอยากใช้ซะคุ้มแบบนี้หรอกนะ แต่เมื่อคืนจากปรากมาถึงเวียนนาดึกดื่นทีเดียว (330 ก.ม. แน่ะ) กว่าจะขนยายกระเป๋าและเคลียร์ของในรถเสร็จ ก็ไม่มีแรงเอารถไปคืนแล้ว หรือต่อให้เอาไปคืนไหว ก็อาจหารถไฟกลับไม่ได้ สอบถามเจ้าของที่พักทราบมาว่าถนนแถวนี้จอดรถค้างคืนได้ (แม้จะในเมือง เพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์) เลยพักรถไว้ค้างคืนก่อน แล้วตอนเช้าค่อยเอาไปคืน

กว่าจะหาเจอว่าคืนกันตรงไหน 555

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

คืนรถเสร็จทันเวลาแบบฉิวเฉียด ... ตอนแรกหากันไม่เจอ เพราะมีหลายลานจอดจนไม่รู้ว่าลานไหนใช้คืนรถ สุดท้ายต้องวิ่งแจ้นเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงออฟฟิศข้างในสถานีรถไฟ ทุลักทุเลกันพอสมควรค่ะ ดีที่มาเป็นทีม คนนึงขับวน คนนึงวิ่งๆๆ ... หาอาหารเช้าเติมพลัง แล้วก็จัดแจงซื้อตั๋วขนส่งสาธารณะแบบบุพเฟ่ห์ 24-hr ticket pass (อีกแล้ว) ซึ่งของที่เวียนนาจะใช้ได้จนวนมาครบ 24 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน แต่ครอบคลุมไม่ถึงสนามบินนะ คือถ้าตั๋ว 24-hr ยังไม่หมดอายุ จะไปสนามบินต้องจ่ายเพิ่มอีกหน่อย แต่ถ้าดันหมดอายุไปซะก่อน ก็จ่ายเต็ม กติกาง่ายๆ แบบงงๆ ที่ต้องเคารพ แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยโดนตรวจตั๋วซักที (และไม่แนะนำให้เสี่ยงโดนปรับด้วยนะ)

ไส้กรอกร้านนี้รสเด็ดจริงๆ

หลบฝนไป กินไป ฟินมั้ย

ตามธรรมเนียมของการมีตั๋วบุพเฟ่ต์ มิสกะโปโลก็จะวางแผนใช้งานจนเกินคุ้ม มีตั๋วแล้วก็แยกย้ายเที่ยวตามสไตล์ตัวเองโลด ซึ่งปักหมุดแรกของการตะลอนทัวร์กรุงเวียนนา จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากย่านเมืองเก่าหรือ Old Town สุดคลาสสิก ที่อาจจะน่าเบื่อหน่อยๆ แถมฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาอีกนี่สิ เฮ้อ ... ขึ้นจากสถานี Karlsplatz มาก็ต้องเดินแอบๆ ใต้หลังคา (อันน้อยนิด) ไปตลอดทาง จนสุดท้ายเริ่มจะไม่ไหวต้องอาศัยเข้าไปหลบฝน (และหลบหนาว ... เฮ้อ มาเจอฝนและอากาศน้าว หนาว ในวันเกือบจะสุดท้ายจนได้) ใน tourist information ที่ฝั่งตรงข้าม Monument Against War & Fascism ซะงั้น แต่ก่อนหน้านั้นก็ยังอุตส่าห์ได้เติมพลังไส้กรอกเวียนนารสเด็ด จากร้านริมถนนหัวมุมมาเรียบร้อยแล้ว อิอิ (รับรองว่าของเค้าเด็ดจริง หลังจากนี้ชิมที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าร้านนี้อีกเลย)

เดินเล่นชมร้านหรู ถนนยังเปียกอยู่เลย

แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง @โบสถ์ St. Stephen's Cathedral 

เข้าชมได้ฟรี แต่ต้องสำรวม เพราะประกอบพิธีพอดี

เดินเล่นชมเมืองไปเรื่อย

พอฝนซาก็ไปเดินเล่น ชมร้านหรูๆ บนถนนที่มุ่งหน้าสู่โบสถ์ St. Stephen's Cathedral แลนด์มาร์คประจำเมือง จากนั้นก็วนซ้ายไปในทิศที่จะไป Hofburg Palace ลั้นลาถ่ายรูปวิวเมืองสวยๆ โดยเฉพาะตรงประตูใหญ่ด้านหน้า palace นั่นแหละ อยู่กันตรงนั้นนานมาก และแอบสงสัยนิดๆ ว่าทำไมมีคนเดินไปมาในชุดประจำชาติเยอะจัง ช่างเอาใจนักท่องเที่ยวดีแท้ ... แต่ที่ไหนได้ ฟลุ้คอีกแล้วค่ะ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เค้าจัดพิธีเฉลิมฉลองวัน National Day (ที่ได้อิสรภาพคืนหลังจากถูกแบ่งเป็น 4 ส่วนตอนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง) เพราะเมื่อไปถึงลานใหญ่หน้า Hofburg Palace เค้าจัดเต็มมาในชุดประจำชาติกันทั้งลานเลย แถมทหารในชุดเต็มยศก็พร้อม ยิงปืนใหญ่ฉลองกันตูมๆ มีกล้องถ่ายทอดสดอีกด้วย หูยยย ตื่นเต้นมากเลย เป็นของแถมที่ชอบมากๆๆๆ เลิกเบื่อกับความคลาสสิกเกินไปของย่านเมืองเก่านี้ไปเลย (นี่ขนาดเบื่อ ยังแชะๆๆๆ กันระดับนี้)

ที่ทางเข้าด้านหน้าสู่ Hofburg Palace

รถม้าเยอะแยะ

ใส่ชุดประจำชาติมากันเต็มลาน ใครหน้าตาใจดีก็ขอถ่ายรูปด้วยซะเลย อิอิ

ทหารก็เต็มยศ

ทะลุมาทางด้านหลัง palace ว่าจะไปรอรถแทรมเพื่อเดินทางต่อ แต่เสียงสลุตปืนใหญ่ก็ดันตามออกมาซะใกล้ จนต้องวิ่งกรูไปถ่ายวิดีโอเก็บมาอีกล็อตใหญ่ค่ะ แล้วยังเอ็นจอยกับบะหมี่ข้างทางตรงป้ายรถเมล์อีกยก ลั้นลาสุดๆ มาเวียนนารอบนี้ไม่ต้องเสียตังค์เสียเวลาเข้าร้านอาหารนั่งกินดีๆ เลย จัดไปริมทางตลอด อร่อยมาก

บะหมี่ริมทาง อร่อยเลย

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

จากนั้นก็เข้าสู่เส้นทางที่ไม่คลาสสิคแล้วนะคะ ไม่มีหรอก Schonbrunn หรือปราสาทอื่นๆ ทั้งหลายน่ะ เรากำลังมุ่งหน้าสู่ Hundertwasser House ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์สีลูกกวาด ออกแบบโดยศิลปินชาวออสเตรีย Friedensreich Hundertwasser ... หน้าตาก็ตามรูปเลย มี shop ให้เข้าไปเดินเล่นชิลๆ และถ่ายรูปได้เพลินๆ แค่ส่วนที่ไม่เสียตังค์ก็เดินได้เยอะแล้ว ... มาครั้งนี้จ่ายแค่ค่าเข้าห้องน้ำค่ะ ซึ่งก็นับว่าเป็นห้องน้ำที่มีค่าตัวแพงกว่าที่อื่นทั่วไปถึงเท่าตัว ถือว่าจ่ายเป็นค่าดีไซน์ละกัน

ถึงแล้ว Hundertwasser House 

สีสันมั้ยล่ะ

Shop ข้างในก็น่าสน



สายอาร์ทตัวจริง

มุมน่ารักๆ เยอะแยะไปหมด

ห้องน้ำยังอาร์ท

แต่เราชิมกาแฟที่ร้านสีเหลืองนี้แทน อิอิ

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

จากนั้นก็ไปต่อที่ Müllverbrennungsanlage Spittelau ซึ่งเป็นโรงเผาขยะ หรือ waste incineration plant แบบคลีนๆ แห่งหนึ่ง ... แล้วจะไปทำไมหราคะ ... ก็เพราะโรงเผาขยะแห่งนี้เค้าออกแบบโดยศิลปินคนเดียวกับ Hundertwasser House ... หน้าตาแบบนี้ถ้าไม่บอกล่วงหน้าจะรู้มั้ยว่าเป็นโรงเผาขยะ เพราะเหมือนสวนสนุกซะมากกว่า และข้างๆ มีพิพิธภัณฑ์และอาคารจัดแสดงนิทรรศการด้านพลังงานที่ปิดทำการแล้วด้วยค่ะ (แหม มาซะเย็น วันอาทิตย์อีกต่างหาก) ... ถ้ามาตอนที่ยังเปิดก็อยากจะแวะชมอยู่นะ เพราะค่อนข้างปลื้ม ที่ศิลปะกับวิทยาศาสตร์สามารถอยู่ด้วยกันได้แบบลงตัวเช่นนี้ สมเป็นเมืองแห่งศิลปะในประเทศที่พัฒนาแล้วจริงๆ

สวนสนุกหรืองัย

ซูมใกล้ๆ หน้าตาอย่างใช่

ไม่ใช่ๆ ของจริงคือโรงเผาขยะ waste incineration plant ต่างหากล่ะ

อาคารที่ทำการด้านบริหารจัดการพลังงานและนิทรรศการที่ตั้งอยู่ข้างกัน

สุดท้ายเรามาลงเอยกันที่ The Prater สวนสนุกเก่าแก่ที่เปิดให้เข้าฟรีไม่เสียสตางค์ (จะเล่นเครื่องเล่นค่อยเสีย) ซึ่งถึงจะเก่าแก่ แต่ดูเครื่องเล่นแต่ละชิ้นซะก่อน อัดแน่นมากและดูไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยล่ะ

นี้สิ สวนสนุกของจริง @The Prater

โหดไปหน่อยมั้ย อร๊ายยยยย

เล่นเครื่องนี้ การทรงตัวต้องสุดยอดจริงๆ



สีสันแสบตา

มุมนี้เบาหน่อย

โหดอีกแล้ว อรึ๊ยยยย



แต่ละเครื่อง สะท้านใจดีแท้

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

และสุดท้ายของวันจริงๆ เราก็ได้มาปิดท้ายกันที่ร้านอาหาร The Roller Coaster Restaurant ภายในสวนสนุก The Prater นี้เอง ... ประมาณว่าอยากสนุกด้วยแต่ไม่กล้าเล่น เลยขอให้ได้ฟีลนิดๆ แทนด้วยการกินก็แล้วกัน เพลินเลย อิอิ

บรรยากาศภายในร้าน The Roller Coaster Restaurant

มาเป็นหม้อ เสริฟมาบนราง

หน้าตาตอนถึงโต๊ะใหม่ๆ

มีช่วงเปลี่ยนสีด้วย

เป็นที่ระลึกซักหน่อยนะ

ปิดท้ายด้วยโมชั่นประกอบหน่อย

แต่ก็ยังไม่สุดท้ายของเวียนนานะ เพราะยังมีช่วงเช้าในวันสุดท้ายของทริปก่อนบินเหลืออีกหน่อยๆ มิสกะโปโลไปตะลอนชมและชิมยังตลาด Naschmarkt ซึ่งเป็นตลาดขายอาหารที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเวียนนา (ปิดวันอาทิตย์ วันธรรมดาเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า) ซึ่งก็อร่อยมั่ง แปลกๆ มั่ง จากหลายร้านปนๆ กันค่ะ และแน่นอนว่าไม่พลาดไส้กรอกเวียนนาตบท้าย แต่ยังยืนยันว่าที่หัวมุมตรงข้าม tourist information เมื่อวานนี้เด็ดกว่าจริงๆ

มาเที่ยวตลาด Naschmarkt ... ก่อนถึงโซนของกิน

อาหารสดเยอะแยะ

เบเกอรี่หน้าตาแปลกๆ

ต้องลองซักหน่อย

ไส้กรอกเวียนนาต้องมา

อิ่มแล้ว เที่ยวก็ครบแล้ว สบายใจแล้วสินะ ได้เที่ยวเวียนนาแบบไม่น่าเบื่อเลย อิอิ จากนี้ก็รีบกลับที่พัก แล้วกระเต็งกระเป๋าขึ้นรถไฟ ปิดการใช้งานตั๋ว 24-hr สู่สนามบินเวียนนา และเตรียมกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ทำงานใช้หนี้ต่อนะคะ 555


http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

บทความทั้งหมด
แนะนำเส้นทางเที่ยวยุโรป
VDO (4:07) - The 10D9N Eastern EU trip
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #1 – Budapest
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #2 – Budapest (ต่อ)
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #3 – Bratislava
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #4 – Hallstatt
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #5 – Salzburg
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #6 – Salzburg (ต่อ), Hallein
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #7 – Český Krumlov
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #8 – Prague
ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #9 – Vienna

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น