My travel diary: ทริปยุโรปตะวันออก ตอน #8

จากเชสกี้คลุมลอฟ ขับรถมายังเหมืองหลวงของสาธารณรัฐเชค ที่กรุงปราก ระยะทาง 170 ก.ม. ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งจิ๊บๆ ค่ะ เราเลือกพักกันที่ขอบๆ ของเมือง เพื่อจะได้หาที่จอดรถกันง่ายๆ ขอแค่อยู่ใกล้กับสถานีเมโทร เพื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะเข้าเมืองสบายๆ ก็พอ เช็คอินที่พักเรียบร้อยก็พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปซะแล้ว ... แต่ที่ปรากนี้เป็นเมืองหลวงในยุโรปที่คึกคักกันถึงดึกดื่น เรียกว่าไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นกะโปโลแก๊งส์ก็จะออกไปลั้นลารอบดึกกับเค้าด้วยเช่นกัน ซึ่งอย่างแรกที่ต้องทำก็คือ ซื้อตั๋ว 24-hr pass สำหรับใช้ขึ้นรถไฟ รถแทรม รถบัส ต่างๆ ได้จนวนกลับมาครบ 24 ชั่วโมงของวันพรุ่งนี้

เที่ยวปรากกันค่ะ

มีตั๋วบุพเฟ่ต์ทีไร มิสกะโปโลไม่เคยใช้ไม่คุ้มซักที ซึ่งที่กรุงปรากนี้ก็เช่นกัน วางแผนปักหมุดมาเหมือนกลัวไม่ได้สะสมพ้อยต์ยังงั้นเลย เริ่มต้นที่แรกคือไฮไลท์ที่ Charles Bridge ค่ะ ซึ่งแม้จะดึกดื่นฟ้ามืดขนาดนี้แล้ว ประชากรนักท่องเที่ยวยังคงหนาแน่น วิวยังสวยอยู่ แต่ก็มืดเกินกว่าจะเก็บรูปสวยๆ ได้หลากหลายมุม สุดท้ายเลยเดินเล่นจากถนนหน้า Charles Bridge ไปในทิศที่จะต่อเนื่องถึงสถานีเมโทร และตามกลิ่นหาร้านอาหารอร่อยๆ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายร้านแถวนั้น แถมด้วยฝูงชนมหาศาล ซึ่งก็น่าแปลกใจหน่อยๆ ว่าร้านอาหารแถวนี้ ลูกค้าเยอะแยะ แต่ส่วนใหญ่มีพนักงานเสริฟอยู่แค่คนเดียว (เต็มที่ก็ 2 คน) ทำทุกอย่าง (ยกเว้นเข้าครัวทำอาหาร)

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

ทิวทัศน์สวยๆ ในยามค่ำคืนรอบๆ Charles Bridge

ก็เลยคิดว่าหิวๆ แบบนี้ ถ้าต้องรอพนักงานเสริฟว่างมารับออเดอร์ สงสัยจะไม่รอด ... บางร้านมีพนักงานเรียกแขก ลูกค้าเข้าไปในร้านนั่งโต๊ะสำเร็จเรียบร้อยแล้ว แต่รอพนักงานเสริฟนานเกินจนลูกค้าบ๊าย บาย (คือพวกเราเอง) ก็ไม่ไหวนะ ... สุดท้ายเลยมาลงเอยกับร้านตรงหัวมุม เมนูหน้าตาดี ราคาอัพขึ้นมาหน่อยๆ (แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวนัก) ซึ่งจัดพนักงานเสริฟมาเดินขวักไขว่เต็มร้านเลย ... แบบนี้ก็เข้าทางสิคะ จัดไปเต็มพิกัด ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง อาหารอร่อย บริการเลิศ คิดถูกแล้วที่เปลี่ยนร้าน

แนะนำเลย ร้านนี้

ไส้กรอกเต็มๆ

ปลาเพื่อสุขภาพ

อันนี้โหดสุด ขาหมูปักมีดฉึกๆ

หลังจากอิ่มอ้วนกันถ้วนหน้า เช้านี้พวกเรายังปักหมุดแรกที่สะพาน Charles Bridge อีกเช่นเคย บรรยากาศตอนเช้าสวยกว่าตอนมืดๆ เยอะ แต่จำนวนประชากรไม่เบาบางลงเลย ทั้งนักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ขาย และอื่นๆๆๆ (ดูรูปเองนะ) ... ทำให้แต่ละเยื่องก้าวใช้เวลาซะเหลือเกิน ซึ่งก็ไม่ใช่ไม่ชอบนะ อะไรๆ ก็สวย ก็ดีงาม ไปเสียหมด ยกเว้นอย่างเดียวคือทำเวลาไม่ได้เลย

ผ่านแต่ร้านขนม สงสัยจะได้ไปต่อมั้ย

Charles Bridge เมื่อฟ้าสว่าง

มีแทรมเก๋ๆ วิ่งผ่าน

เอาน้องหมามาช่วยประกอบกิจการด้วยแฮะ

มุมสวยๆ จากบน Charles Bridge

ฝูงชนระดับนี้

ฟังเพลงเพลินๆ

วงนี้ก็เพราะ

ลูบกันจนเงาวับ

ของน่าซื้อทั้งน้านนนน

อู๊บบบ Chimney cake อีกแล้ว แผลบๆๆ

ไม่ได้การละ แผนที่เตรียมมายังมีอีกหลายที่ต้องไป จะเที่ยงแล้วยังไม่ได้เข้าชมปราสาทไฮไลท์อีกอันนึงเลย (โอ้ววว แล้วยังอย่างอื่นอีกมากมายก่ายกอง) ต้องรีบต้อนเดอะแก๊งส์เดินทางต่อแล้วค่ะ ซึ่งระยะทางจาก Charles Bridge เดินมายังป้ายรถแทรมก็ใช่ย่อยนะ พวกเราขึ้นแทรมเบอร์ 22 มาลงที่ป้าย Pražský hrad ใกล้กับทางเข้า Prague Castle ทางตอนบน (และน่าจะเป็นทางเข้าหลักนะ เพราะมีด่านสแกนอาวุธด้วย คิวยาวทีเดียวเลย) เมื่อพ้นด่านสแกนอาวุธแล้วก็ออกอาการเหวอนิดนึง ไม่รู้จะไปไหนดี เพราะข้างในเป็นกลุ่มอาคาร complex ที่ใหญ่โตทีเดียว ตัดสินใจไม่ถูกก็เข้าห้องน้ำก่อนเลยค่ะ (แบบว่า อั้นมาตั้งแต่ Charles Bridge จนมาถึงคิวสแกนอาวุธละ 555)

มารอขึ้นแทรมเบอร์ 22

คิวสแกนอาวุธ ย้าว ยาว

เดินตามฝูงชนหมู่มากเข้าไปข้างใน และอู๊บบบ ได้พบกับขบวนพาเหรด เอ๊ย ขบวน Change of the Guard กำลังเดินมาพอดีเลย ก็กรูเข้าไปใกล้ๆ สิคะ จะรออะไร จากนั้นก็มึนๆ ไม่รู้จะซ้ายหรือขวา แต่พอไปขวาซึ่งดูเหมือนจะวิวสวยมากๆ ก็เหมือนจะต้องออกจากปราสาทเสียแล้ว … ไม่เอาอ่ะค่ะ ... กว่าจะเข้าคิวสแกนผ่านเข้ามาได้ เราเลยวกกลับไปทางซ้ายใหม่ และเดินวนๆ ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมอาคารต่างๆ (รวมถึง Cathedral อันสุดอลังการ) ให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยโผล่ออกมาทางลานระเบียงสวนสวยริมหน้าผาทางด้านใต้ ลัดเลาะมาเรื่อยๆ ผ่านจุดชมวิวเมืองสวยๆ จนถึงประตูที่เกือบจะออกไปแล้วเมื่อกี๊แหละค่ะ เป็นอันวนจบทัวร์ปราสาทปรากครบ 1 รอบ

Change of the Guard พอดิบพอดี

สวยค่ะ แต่อย่าเผลอออกตอนนี้เชียวนะ

กลับมาดูข้างในก่อน

โบสถ์ก็อลังการ

วิวเมืองจากระเบียงหน้าผ้าด้านใต้

ใกล้ทางออกจริงๆ ละ

ออกมาแล้ว ครบ 1 รอบพอดี

จากนี้เดินลง จ้ำอ้าวๆๆ

เลยเวลามื้อเที่ยงมาพอสมควรแล้ว แต่จุดหมายปลายทางยังมีอีกเพียบ กะโปโลแก๊งส์ก็แยกย้ายทางใครทางมันตามแต่สไตล์ของแต่ละคนจะพาไป ซึ่งก็คล่องตัวขึ้นเยอะ 555 จ้ำอ้าวไปต่อที่ Lennon Wall กันเลย (เป็นทางผ่านอยู่แล้ว) แล้วเก็บรูปเป็นที่ระลึกพอเป็นน้ำจิ้มหน่อยๆ จากนั้นก็หาร้านอาหารควิ้กๆ มื้อประหยัด เร็วและง่ายสุดๆ เพื่อจะไปต่อกันที่ปักหมุดถัดไปโดยเร็ว

จ้ำอยู่ ... แต่เมืองมันสวยเหลือเกิน

พร้อพก็เยอะ

ถึงแล้ว Lenon Wall

มื้อนี้ควิ้กๆ

ครึ่งหลังนี้ทำเวลากันสุดๆ เลยนะ 555 ไปต่อกันที่รถไฟไต่เขาหรือ funicular กระดื๊บขึ้น Petrin Tower ค่ะ ซึ่งก่อนมาได้ดูจากรูปแล้วก็งั้นๆ แหละนะ แต่พอดีว่าตั๋ว 24-hr pass เค้ารวมค่า funicular ไว้แล้ว เลยขอใช้บริการซักหน่อย ... คิวยาวอีกเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ดูเป็นคิวคนท้องถิ่นมากกว่านักท่องเที่ยวนะ (ก็ใช่น่ะสิ นักท่องเที่ยวเวลาน้อยๆ ถ้าไม่ใช่สายชิล ที่ไหนจะมากันแถวนี้)

ทำเลขาขึ้น เห็นแต่หลังคนขับ

ถึงแล้วข้างบน ถ้าไม่ขึ้น tower ก็ไม่ค่อยมีอะไรหรอกนะ

แต่ขอบอกนะคะ การตัดสินใจมา Petrin Tower นี้ผิดคาด เพราะจากที่คิดว่าไม่มีอะไร ก็ปรากฏว่าวิวสวยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตอนนั่งรถไฟไต่เขาขึ้นลง ถ้าได้ทำเลหน้าต่างที่เห็นวิวเมือง จะเพอร์เฟคที่สุด ... ทว่าขาขึ้นคิวมันยาวค่ะ ขอแค่ได้ขึ้น ทำเลไม่ต้องพูดถึง เบียดๆ กันเข้าไปก่อน แต่ขากลับลงมานี่สิ มิสกะโปโลได้ทำเลติดกระจกเลย โอ้ววว ว้าวววว วิวเมืองที่เต็มไปด้วยหลังคาสีส้มและปราสาทสวย มันสวยรุนแรงจนหยิบกล้องออกมาถ่ายอะไรไม่ทันเลย ... ตาค้างจนถึงภาคพื้นดิน ... นี่ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ควรขึ้นไปชมวิวบน tower หรือไม่ก็เดินไฮกิ้งลงมาชิลๆ รับรองสวยบาดใจแน่ๆ

เด็กๆ ก็สนุกกัน

ขาลงนี่จะสวยทรมานใจมาก น้ำตาตก ถ่ายรูปไม่ทัน

ยังค่ะ ยังไม่จบแค่นี้ ไปต่อกันที่ Dancing House ริมฝั่งแม่น้ำดานูปอีกด้านหนึ่ง ลั้นลากันตรงสี่แยกนี่แหละ วิวดีสุดๆ ทั้งวิวอาคาร และวิวโค้งแม่น้ำ (แต่ไม่เห็นปราสาทหรอกนะ ไกลเกิน) และหลังจากที่เล็งๆ แล้วว่าต่อให้ขึ้นไปบนอาคาร Dancing House ก็คงไม่ได้เห็นวิวสวยๆ แบบที่ตาค้างมาเมื่อซักครู่นี้ ก็เลยไม่ได้ขึ้นไปค่ะ

Dance มันส์ไหมล่ะ

วิวโค้งน้ำก็สวยจับใจ

ตามแพลนแล้วยังเหลือกอีก 1 เป้าหมายสุดท้าย แต่ตอนนี้ยังพอมีเวลาให้หาร้านช้อบปิ้งได้หน่อยๆ ... คือถ้าพ้นวันนี้ไปแล้ว กลับถึงเวียนนาคงไม่มีโอกาสซื้อของได้ในราคาถูกๆ อีก Last change ต้องรีบจัดค่ะ ... ภารกิจต่อจากนี้ก็เลยเป็นการตามหาห้าง ร้านขนม แหล่งช้อบปิ้ง ซึ่งอยู่ในทิศที่จะไม่เถลไถลออกจากเส้นทางสู่ปักหมุดสุดท้าย ... ซึ่งก็ฟลุ้คอีกแล้วค่ะ

พอออกจากประตูห้าง Quadrio Shopping Centre มา เราก็พบกับประติมากรรมโลหะขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนที่หมุนไปหมุนมาได้ (ดูรูปเลย) มาสืบค้นทีหลัง ก็เพิ่งจะร้องอ๋อ ว่าคือรูปปั้นส่วนหัวของนักเขียนชื่อดังแห่งศตวรรษที่ 20 ผู้ทรงอิทธิพลต่อวรรณกรรมมากมาย (โดยเฉพาะงานเขียนจากฟากตะวันตก) หรือ Franz Kafka นั่นเอง ... ซึ่งเค้าดังมากๆๆๆ เลยค่ะ ขนาดที่บางคนว่า Prague คือ Kafka, Kafka คือ Prague ... มิสกะโปโลขอขอบคุณความฟลุ้คครั้งนี้ ที่ทำให้กบตัวน้อยๆ ได้โผล่พ้นกะลาออกมาหน่อยๆ นะคะ

Kafka หมุนได้

หันมาเต็มหน้าแล้ว

ดูตอนหมุนหน่อยๆ

เอาล่ะคะ สุดท้ายแล้ว ที่จัตุรัส Wenceslas Square เพื่อเก็บรูปสวยๆ ส่งท้าย แล้วขึ้นรถเมโทรกลับจากตรงนั้นได้เลย (มีสถานีเมโทรโผล่มาแถวนั้นเลยค่ะ) เป็นอันจบมหกรรมเก็บพ้อยต์ในกรุงปราก 24 ช.ม. เที่ยวครบเกินแพลนแบบติดสปีดตอนท้าย พบกันใหม่บล็อกหน้า ณ กรุงเวียนนา ที่ไม่เหมือนกับเวียนนาที่เคยไปมาก่อนหน้า สนุกแน่นอนค่ะ