มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

12 ตุลาคม 2559

ทริป Germany in Autumn ตอน 2 (Königssee & Berchtesgaden)


เส้นทางจาก Chiemsee ไปยัง Berchtesgaden เมืองสวยน่ารักบนขุนเขา German Alpine ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ติดกับชายขอบประเทศออสเตรีย เนื่องด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมต่อและแสนสะดวกสบายในกลุ่มประเทศเชงเก้น ไม่ว่าจะถาม google map หรือระบบ GPS นำทางที่ติดมากับพี่เบนซ์สุดหรูของเราคันนี้ ก็จะจัดให้วิ่งบนเส้นทางด่วน เรียกว่า autobahn โลดสุดๆ เท่าที่จะไปได้ และหักเข้า local road อีกทีเมื่อใกล้ถึง ทั้งนี้เส้นทางด่วนสาย A8 ในเยอรมัน จะเชื่อมต่อกับทางด่วน A10 ในออสเตรียแบบไร้รอยต่อ คือวิ่งไปได้เรื่อยๆ แบบไม่รู้ตัวเลยว่าข้ามเขตแดนประเทศกันตอนไหน

แต่ช้าก่อนค่ะ ถึงจะเชื่อมต่อกันแนบแน่นสนิทเพียงไร ก็เป็น autobahn  คนละประเทศกัน กฎเกณฑ์การใช้ทางด่วนในเยอรมันกับออสเตรีย มีแตกต่างกันอยู่บ้าง เช่น ทางด่วนที่เยอรมันเค้าให้ใช้กันฟรีๆ เพราะถนนดีมีให้ใช้ รถดีมีให้วิ่งฉิวๆ no speed limit ไม่จำกัดความเร็ว เพราะฉะนั้นใช้กันเข้าไปเยอะๆ เหยียบกันให้เต็มที่ (แต่ก็ขอให้ปลอดภัยไว้ก่อนนะ ขับเร็วไม่โดนปรับก็จริง แต่เร็วจนเกิดเหตุ ประกันเค้า say no ไม่จ่ายนะจ๊ะ) 

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com

ในขณะที่ทางด่วนฝั่งออสเตรียใช้ได้เยอะๆ เช่นกัน แต่ไม่ฟรี ถ้าเฉียดเข้าไปแล้วล่ะก็ ต้องหาซื้อสิ่งที่เรียกว่า vignette ซึ่งก็คือสติ๊กเกอร์ค่าธรรมเนียมทางด่วน มาติดหน้ารถกันแบบด่วนที่สุด ราคาหลายยูโรแพงอยู่เหมือนกัน แบบถูกสุดใช้ได้ยาวถึง 10 วัน ซื้อครั้งเดียวใช้ทางด่วนในออสเตรียได้แบบบุพเฟ่ต์ตามจำนวนวัน ซึ่งถ้าคิดว่าหลงเข้าไปแป๊บเดียวเท่านั้น เดี๋ยวก็ออกแล้ว มีสิทธิ์โดนคุณตำรวจเรียกไปปรับแพงกว่าค่า vignette หลายเท่านะจ๊ะ เพราะฉะนั้น ถ้าเผลอข้ามเขตแดนมาแล้ว (จะรู้ตัวอีกทีก็ตอนเห็นป้ายบอกทาง) รีบหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด แล้วจัดการให้เรียบร้อยโดยเร็วซะเถอะ … ถือว่าบอกแล้วนะ

แต่ถ้าไม่คิดจะเที่ยวออสเตรียอยู่แล้ว และไม่อยากเสียค่า vignette ก็ไม่ยากอะไร เพียงแค่ใส่จุดหมายปลายทางที่ต้องการเป็น 2 สเต็ป เช่น ใส่ชื่อเมือง Bad Reichenhall ไปขยักหนึ่งก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นชื่อเมือง Berchtesgaden อีกทีก็ย่อมได้ ระยะทางและระยะเวลารวมแล้วไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก แค่ใช้บริการ autobahn น้อยลงนิดนึงเท่านั้น และไม่แตะเข้าไปในประเทศออสเตรียเลย ซึ่งจริงๆ แพลนดั้งเดิมของเราก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ แต่แบบว่า … ลืมงัยคะ แพลนไว้นานเกินไปจนลืม เห็นชื่อเมือง Bad Reichenhall ที่จดไว้ ยังนึกๆ เลยว่าเมืองไรหว่า จะไปเที่ยวอะไรที่นั่น พอนึกไม่ออกก็ตัดทิ้ง ใส่ชื่อ Berchtesgaden ลงไปปุ๊บ เสร็จเลยค่ะ ได้ vignette มาขับเที่ยวออสเตรียเลย

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

เที่ยวเยอรมันต่อดีกว่าค่ะ โปรแกรมตามแผนเดิมของเราในวันนี้ ตั้งใจจะเที่ยวในร่มกันที่เหมืองเกลือ แต่ปรากฏว่า ณ เวลานี้ท้องฟ้าดูอึมครึม เช็คพยากรณ์อากาศก็ลุ้นว่าพรุ่งนี้มีฝนแหง เพราะฉะนั้น สลับโปรแกรมเที่ยวนอกร่มของวันพรุ่งนี้มาด่วนเลยค่ะ จากนี้ไปเราจะไปล่องเรือเที่ยวทะเลสาบกันอีกครั้ง กลายเป็นว่าวันนี้เที่ยวทะเลสาบทั้งวันเลย ทั้งเช้า (ดูตอน 1) และเย็น 

ยังพอมีเวลาค่ะ ก่อนล่องเรือเราแวะไปเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์สมัยนาซีกันนิดนิงนะคะ (ให้พอมีสาระบ้าง) ต้องบอกว่าท่านผู้นำฮิตเลอร์มีสายตาเฉียบแหลมยิ่งนัก เพราะเลือกฐานมั่นบนเขาทั้งที ยังเลือกที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามตระการตาเช่นนี้ เหมาะกับการหามุมสงบในการวางแผนรบสินะ ที่พิพิธภัณฑ์ศูนย์ข้อมูล Obersalzberg Documentation Center and Bunker  สมัยก่อนคือระบบบังเกอร์คอมเพล็กซ์ของจริง ขุดเป็นเมืองใต้ดินมีทั้งห้องประชุม สำนักงาน หน่วยบัญชาการต่างๆ พร้อมบ้านพักของท่านผู้นำ เชื่อมต่อกันด้วยอุโมงค์ที่มีความยาวรวมกว่า 4 ไมล์ (แรงงานทาสทั้งนั้น) แม้จะเปิดให้ชมเพียงเล็กน้อย เรายังเดินกันไม่ครบเลยค่ะ บรรยากาศภายในดูออกจะหม่นๆ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ดั้นด้นมาถึงแถวนี้เพื่อแสวงหาสีสันอย่างพวกเรา (เลิกมีสาระแล้ว) ดูนู่นนี่ได้ซักแป๊บ ก็ออกไปสูดอากาศสดชื่นด้านนอกกันแล้วล่ะ โหววว … บรรยากาศดีจริงๆ ฟินสุดๆ 

Obersalzberg Documentation Center and Bunker ดูฉากหลังสิคะ สนามรบนี้โรแมนติคยิ่งนัก

บรรยากาศสุดยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะคะ

จากนั้นก็บึ่งไปเช็คอินยังบ้านพักแบบ bed & breakfast ทางด้านเหนือของทะเลสาบ Königssee บรรยากาศแถวนี้คุ้มเกินราคาค่าที่พักมากมายนัก สลัดสัมภาระเสร็จเรียบร้อย ก็พากันมุ่งหน้าเดินไปยังท่าเรือ วิวทิวทัศน์ระหว่างทางทำให้เดินหน้ากันด้วยสปีดเยี่ยงเต่า ถ้าไม่หันมากวดขันพรรคพวกบ้าง มีโอกาสตกเรือเที่ยวสุดท้ายน้ำตาร่วงทั้งแก๊งส์ได้ (พรุ่งนี้ฝนตกไม่มีสิทธิ์แก้ตัวนะจ๊ะ)


บ้านพัก bed & breakfast ของพวกเราในค่ำคืนนี้ ค่าพักร้อย วิวล้าน

ออกจากบ้านพักมาก็เจอแบบนี้เลยค่ะ

วิวทิวทัศน์ระหว่างเดินไปยังท่าเรือทะเลสาบ Königssee

มีแบบนี้ด้วย น่ารักเชียว

เอาล่ะมาถึงท่าเรือจนได้ แถวนี้นักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ร้านค้าน่าสนใจก็เยอะแยะ แต่เราไปขึ้นเรือกันก่อนเถอะนะ (ยอมให้ซื้อไส้กรอกมาหม่ำได้ชิ้นนึงโตๆ) บรรยากาศแถวนี้ทำให้พวกเรากรี๊ดกร๊าดกันตั้งแต่ก้าวแรกบนกราบเรือ จนมากรี๊ดดังพีคๆ ประมาณตอนกลางของทะเลสาบ เมื่อหลังคาโบสถ์รูปทรงหัวหอมสีแดงๆ ของ Church of St. Bartholomä ปรากฏตรงหน้า พร้อมภาพสะท้อนบนผิวน้ำ เหมือนภาพบนโปสการ์ดเป๊ะ สวยสุดๆ

บรรยากาศในเมือง ก่อนถึงท่าเรือทะเลสาบ Königssee

ไส้กรอกชิ้นใหญ่มาก

และอร่อยมาก ขอบอก (ชิ้นมัันใหญ่กว่าหน้าพวกเราอีก)

หินแร่สีต่างๆ ของที่ระลึกจากแถบนี้

บรรยากาศที่ท่าเรือ

โกดังท่าเก็บเรือ ฉากหลังสวยมาก

กรี๊ดๆๆๆ ดังมาก Church of St. Bartholomä 

Church of St. Bartholomä แบบใกล้ชิด

กับโค้งน้ำนี้ สวยมากเลยใช่มั้ยล่ะคะ

พวกเราเช็คตารางเวลาเรือขากลับรอบสุดท้ายแล้ว ก็เดินเล่นลั้นลาสำรวจพื้นที่รอบทะเลสาบกันอย่างสบายใจ และไม่ใยดีจะนั่งเรือไปสำรวจทะเลสาบตรงอื่นอีกแล้ว … แถวนี้แหละ ฟินที่สุดแล้ว เหมาะสุดๆ สำหรับปิดท้ายการเดินทางวันนี้


http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

ทริป Germany in Autumn ตอน 2 (Königssee & Berchtesgaden)
ทริป Germany in Autumn ตอน 9 (Munich)

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น