ทะเลสาบ Constance หรือที่ในภาษาเยอรมันเรียก Bodensee เป็นพรมแดนธรรมชาติแห่งหนึ่ง ที่กั้นระหว่างเยอรมันทางตอนใต้ กับสวิสตอนเหนือ รอบๆ ทะเลสาบมีเมืองเล็กน่ารักน่าเที่ยวหลายเมือง โดยเมื่อวานเราได้แวะดินเนอร์กันที่เมือง Lindau ทางฝั่งตะวันออกสุดของทะเลสาบ และชมแสงไฟยามค่ำคืนไปบ้างแล้ว เช้านี้เราตื่นมารับอากาศสดชื่นในเมือง Meersburg ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่แถบท่าเรือ เดินเล่นชมบ้านเรือน และปราสาทป้อมปราการเก่าแก่
เช้าๆ สดใสที่ท่าเรือเมือง Meersburg
บรรยากาศบ้านเรือนและสีสันแถบท่าเรือ สวยเพลินทีเดียว
วิวท่าเรือเมือง Meersburg มองจากไร่องุ่นเล็กๆ บนเนินเขาด้านบน
เมือง Meersburg นี้มีนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านนัก ทำให้มีโอกาสได้สอดส่องชีวิตปกติธรรมดา ของผู้คนและโรงเรียนแถวนี้เพลินดีแท้ นอกจากนี้ที่ Meersburg ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Zeppelin Museum ที่จัดแสดงคอลเลคชั่นส่วนตัว เกี่ยวกับคำนานเรือเหาะ Zeppelin (ซึ่งคิดค้นและสร้างขึ้นแถวๆ นี้ และใช้ครั้งแรกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อนจะพัฒนาต่อๆ มาเป็นเรือเหาะโดยสาร) เหมาะกับสายวิทย์ตัวแม่ที่สนใจแนวเทคโนโลยีและนวัตกรรม พวกเราแวะไปดูนิดๆ แต่ปรากฏว่าในวันที่ไปเขาปิดให้บริการ เลยได้แต่รูปถ่ายกับป้ายมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น
ขนมปังเปิดท้ายรถ มาให้บริการถึงหน้าโรงเรียน
กิจกรรมของเด็กนักเรียนท้องถิ่น
ป้อมปราการเก่าแก่บนหน้าผาติดทะเล ในเมือง Meersburg
ที่ระลึกกับป้ายพิพิธภัณฑ์เรือเหาะ Zeppelin
ขากลับตอนลงจากเนิน
เดินเล่นชมเมือง Meersburg ส่งท้ายก่อนจาก
ที่ Meersburg นี้มีท่าเรือที่สามารถข้ามทะเลสาบไปยังอีกฝั่ง คือเมือง Konstanz ได้ ตอนแรกที่วางแผนกันมา เนื่องจากยังไม่ค่อยแน่ใจนัก ว่าเรือข้ามฟากสามารถนำรถขึ้นด้วยได้รึป่าว เลยทำแผน 2 มาเผื่อไว้ ว่าถ้าเค้าให้ไปได้แค่ตัว แต่รถห้ามขึ้น ก็จะขับวนอ้อมรอบทะเลสาบ และแวะเก็บที่เที่ยวเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละเมืองรอบทะเลสาบซะเลย แต่สุดท้ายปรากฏว่า ไม่มีความจำเป็นต้องไปถึงแผน 2 เลยค่ะ ที่ท่าเรือมีรถมารอต่อคิวขึ้นเรือเพียบเลย จึงไม่ต้องขับรถพาวิ่งอ้อมทะเลสาบแล้ว และที่ตลกก็คือ เป็นครั้งแรกที่หน้าจอ GPS พาพวกเราเบ้ออกจากท้องถนน แสดงตำแหน่งปัจจุบันลอยตุ๊บป่องบนผืนน้ำ แบบที่คำนวณเวลาและระยะทางกันไม่ถูกเลยทีเดียว อีกทีก็มาโผล่ยังท่าเรือในเมือง Konstanz ฝั่งตรงข้ามเสียแล้ว GPS ถึงกลับเข้าสู่โหมดกล้าส่งเสียงบอกทางดังๆ กันอีกครั้ง
แม้จะมีทะเลสาบ Constance และถัดไปก็คือแม่น้ำไรน์ เป็นพรมแดนธรรมชาติส่วนใหญ่แล้ว แต่ก็มีส่วนน้อยที่ยังต้องอาศัยพรมแดนที่ขีดขึ้นเอง และเมือง Konstanz นี้ก็มีดินแดนส่วนหนึ่ง กระโดดข้ามผืนน้ำ ไปโผล่บนผืนแผ่นดินด้านที่ติดกับประเทศสวิสฯ ทำให้ต้องมีเส้นพรมแดนขีดขึ้นกลางผืนแผ่นดิน และที่น่ารักก็คือ แถวนี้เค้าไม่มีรั้วหรือกำแพงใดๆ มาตั้งให้เกะกะหรอกนะ จะมีก็เพียงประติมากรรม the Sculpture Border ซึ่งก็คือแท่งสีแดงๆ ออกแนวติสหน่อยๆ วางเรียงกันหลายแท่ง ยาวไปตามแนวพรมแดนเนี่ยแหละค่ะ พวกเราก็เฮสิคะ ณ เวลานี้อยู่ในเขตประเทศเยอรมัน กระโดดเหยงทีเดียว มาอยู่สวิสฯ ละ โดดไปโดดมา สนุกติ๊งต๊องดีจริงๆ แถมในเมือง Konstanz นี้ก็มีอุปกรณ์ช่วยกระชากวัย กระจายไปตามที่ต่างๆ ในสวนสาธารณะและตัวเมือง ให้ได้เล่นกันชุ่มฉ่ำหลายชิ้นเพลินเลย แล้วอย่าลืมไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับรูปปั้น Imperia ที่แถบท่าเรือนะคะ สังเกตดีๆ นางหมุนได้ด้วยล่ะ
ประติมากรรม Sculpture Border ที่กั้นแบ่งพรมแดนเยอรมัน-สวิสฯ
ฝั่งนี้เยอรมัน (มีโรงเบียร์ด้วย)
ส่วนฝั่งนี้เป็นสวิสฯ
สไลเดอร์กระชากวัย มันแท้
รูปปั้นเทพี Imperia ที่ท่าเรือ นางหมุนได้นะคะ ให้สังเกตุ
บรรยากาศแถบท่าเรือ และรูปปั้น Imperia แบบเต็มๆ
เดินเล่นในตัวเมือง Konstanz
สนุกจังเลย
ไม่มีเบื่อเลยล่ะ เมืองนี้
ดนตรีชิลๆ ก็มีนะ
จากนั้นก็เที่ยวสวิสฯ ต่อเลยสิคะ เราขับรถกันไม่ไกลจากแนวชายแดนเท่าไรนัก จึงสามารถเลี่ยงเส้นทาง highway และไม่ต้องเสียตังค์ซื้อตั๋ว swiss highway sticker มาแปะติดหน้ารถค่ะ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงเมืองสวย Stein am Rhein ความพลุกพล่านชัดเจนมากกว่าเมื่อเช้าทั้งหมด สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่ง แหม ก็ดูบรรยากาศภายในเมืองและสีสันเอาเองสิคะ มาถึงแถวนี้แล้วจะไม่แวะมาชื่นชมได้อย่างไร
เกินบรรยาย กับบรรยากาศแสนสวีทวีดวิ้วววว ในเมือง Stein am Rhein
มุมเก๋ๆ (ขอนิดนึง)
มีเรือเหาะด้วย ตามมาไกลนะเนี่ย ตั้งแต่รูปปั้นเทพี Imperia ที่ Konstanz แล้วนะ
ยังไม่หมดค่ะ โปรแกรมวันนี้ยังมีไฮไลท์อีกหนึ่ง ซึ่งก็ยังอยู่ในเขตประเทศสวิสฯ เช่นกัน ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง จาก Stein am Rhein ก็มาถึงน้ำตก Rhine falls (ภาษาเยอรมันเรียก Rheinfall สลับขาหลอกนิดนึงระหว่างตัว e กับ i … เฮ้อ เพลีย) ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป และก็อยู่ในเขตที่เรียกว่า High Rhine ซึ่งจะไหลยาวต่อเนื่องเป็นแม่น้ำไรน์ ต่อเลี้ยงไปอีกหลายประเทศในแถบยุโรปนี้ค่ะ และเราสามารถใช้บริการเรือรับส่ง เพื่อได้ใกล้ชิดแบบเปียกๆ ถึงตัวน้ำตกได้ด้วย (มีหลายเส้นทางให้เลือก แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมและไม่เสียเวลานัก ก็คือที่ข้ามไปข้ามมาแค่ชมน้ำตกแบบประชิดตัวนี้ล่ะค่ะ และที่ล่องแม่น้ำไรน์ยาวๆ เลยก็มีนะ ถ้ามีเวลามากพอก็เชิญเลยค่ะ)
น้ำตก Rhine falls
คอร์สเส้นทางเรือบริการ มีให้เลือกหลายแบบ
มาเฝ้าฮับผม
มาศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศน์แถบ Rhine falls กันหน่อยนะ
โหวววว ปลาชุมมากมาย
เอาแบบใกล้ชิด เปียกปอนกันเลยทีเดียว
วันนี้เก็บพอยต์ได้เยอะแยะมากมายหลายที่เลยค่ะ เหนื่อยกันได้ที่แล้ว เดี๋ยวเรายิงยาวทีเดียว 90 km นิดๆ ไปยังที่พักในเมือง Freiburg ในเขตป่าดำ หรือ Black Forest กันเลยนะคะ
แนะนำเส้นทางเที่ยวยุโรป
ทริป Germany in Autumn ตอน 1 (trip route & Herrenchimsee)
ทริป Germany in Autumn ตอน 2 (Königssee & Berchtesgaden)
ทริป Germany in Autumn ตอน 3 (Salt Mine, Ramsau, Swarovski Crystal World)
ทริป Germany in Autumn ตอน 4 (Zugspitze, Partnach Gorge, Kloster Ettal)
ทริป Germany in Autumn ตอน 5 (Oberammergau, Linderhof, Neuschwanstein)
ทริป Germany in Autumn ตอน 6 (Meersburg, Konstanz, Stein am Rhein, Rheinfall)
ทริป Germany in Autumn ตอน 7 (Freiburg, Clock Museum, Black Forest)
ทริป Germany in Autumn ตอน 8 (Rothenburg ob der Tauber)
ทริป Germany in Autumn ตอน 9 (Munich)
หน้าเวปสวยงาม เนื้อหาเรื่องราวน่าสนใจมากค่ะ เกินคำบรรยาย
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ
ลบ