จากเมือง Grundarfjordur เราขับกันมาอีก 165 ก.ม. หรือประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง Husefell ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบของทัวร์ Into the Glacier Langjokull ก่อนเวลานัดหมายคือ 12:30 น. ซึ่งทัวร์นี้ต้องจองล่วงหน้านะคะ จะมา walk in หน้าใสซื่อไม่ได้เลย พวกเราตัดสินใจจองทัวร์นี้กันหลังจากค่อนข้างชัวร์แล้วว่าจะไปแช่สปาที่ Myvatn Nature Bath แทน Blue Lagoon (เพราะถูกกว่า และ touristy น้อยกว่า อ่านรีวิวมีแต่คนชม) วันนี้ก็เลยมีเวลาแน่ๆ ให้สามารถเลือกซื้อทัวร์อะไรซักอย่างหนึ่งได้ ซึ่งพวกเราก็มาลงเอยกับถ้ำน้ำแข็งแบบ man-made ที่กลาเซียร์ Langjokull แห่งนี้ ที่อยู่ระหว่างทางจาก Grundarfjordur กลับไป Reykjavik นั่นเอง
Super Truck คันนี้ที่จะพาเราตะลุยกลาเซียร์
ทัวร์หรูแต่มื้อเที่ยงแบบยาจกอีกแล้ว เพราะแถวนี้ถึงแม้จะมีโรงแรมตั้งอยู่ 1 แห่ง แต่เมนูบุพเฟ่ห์มื้อกลางวันดันมีแต่ซุป (ให้ตายเถอะ คนแถวนี้เค้ากินแค่ซุปแล้วอิ่มหรืองัยนะ) สุดท้ายเลยตัดสินใจกลับไปที่รถ คว้าขนมปังแผ่นและไส้กรอกจากถุงเสบียงหลังรถที่เป็นเสมือนตู้เย็นส่วนตัว มาทำแซนวิชกินกันที่ล็อบบี้โรงแรมเลย แถมกล้วยหอมอีกคนละลูก อิ่มกว่าซุปแน่นอน ไม่เสียตังค์ซักบาท ใช้ห้องน้ำเค้าฟรีอีกต่างหาก :P
สถานที่นัดพบที่ Husefell
จากนั้นก็ถึงเวลานัด เราก็ถือ voucher ของเราที่จองมาไปแลกตั๋วของจริงค่ะ ซึ่งบนหน้าตั๋วก็จะเขียนบอกด้วยว่าให้เราขึ้นรถ super truck คันไหน … วันนี้คนค่อนข้างเยอะ เพราะเมื่อวานฝนตกทำให้ทัวร์ต้องยกเลิกไป เลยมาสะสมวันนี้ซะเยอะเลย ต้องมี super truck มารับหลายคันต่อรอบ … พวกเราโชคดีมาก ที่จองวันนี้แล้วได้เที่ยว ถ้ามีเหตุให้ต้องเลื่อนเป็นวันอื่นก็คงหมดสิทธิ์ตลอดกาลเลยแหละ 55
แล้วเค้าก็มี winter suit เต็มยศ กับรองเท้าให้พวกเราใส่เพิ่มด้วยนะ แต่เจ้าหน้าที่แถวนั้นเค้าจับๆ เสื้อหนาวของพวกเราดูแล้วก็เบ้ปาก บอกว่าไม่ต้องใส่หรอก ข้างในไม่มีลม ไม่หนาวขนาดนั้น แต่ถ้าอยากใส่ก็ไม่ว่าอะไรนะ … แล้วพอถามถึงรองเท้า เจ้าหน้าที่ก็เหลือบตาดู แล้วก็เบ้ปากอีกเช่นเคย เป็นอันเข้าใจค่ะ 55 … แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่อ้วนเทอะทะ (ถ้ามันไม่หนาวจริงนะ)
ใหญ่โตมั้ยล่ะ
ตอกหมุดที่ล้อด้วย
เบสแคมป์ Klaki
จากนั้นก็มาถึงสต๊อปที่สองซึ่งเป็นปากทางเข้าถ้ำ ก็คือฝาท่อขนาดใหญ่ที่แปะประตูสีน้ำเงินที่เห็นนั่นแหละค่ะ … นี่น่ะหรือ ปากถ้ำ อุแม่เจ้าขา … เค้าบอกว่ากลาเซียร์มีสภาพด้านนอกเปลี่ยนไปทุกปีตามสภาพหิมะที่ทับถม ก็ต้องต่อท่อมาเปิดเป็นเส้นทางให้เข้ากันแบบนี้นั่นแหละ … แต่ข้างในเป็นน้ำแข็งเป็นชั้นๆ แข็งแรงแน่นอน ชัวร์ป๊าบ! เค้าบอกมา
จอดให้ลงหน้าปากถ้ำเลย
พวกเราก็มุดท่อกันเข้าไป จนมาถึงโถงใหญ่ หัวหน้าทัวร์ก็จะบริ๊ฟนู่นนี่ให้ฟัง และให้ทุกคนหยิบโซ่รัดรองเท้ามาสวมทับด้วย เพื่อช่วยให้ลื่นน้อยลงในถ้ำน้ำแข็งค่ะ
หัวหน้าทัวร์บริ๊ฟให้ฟัง
ใส่โซ่รัดรองเท้า
จากนั้นก็ได้เวลาสำรวจถ้ำสินะ เป็นถ้ำที่อาศัยความรู้ทางวิศวกรรมสมัยใหม่ในการออกแบบขุดเจาะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาถึงข้างในของกลาเซียร์จริงๆ แล้วก็อาศัยแรงงานจากชาวบ้านท้องถิ่นนั่นเอง เป็นการสร้างงานอีกต่างหาก สุดยอดเลยมั้ยล่ะ … เจ้าหัวหน้าทัวร์บอกว่าสมัยที่ขุดเจาะ บางทีคนงานก็ไม่อยากเสียเวลาเดินทางไปกลับ จึงค้างกันข้างในถ้ำเนี่ยแหละ โอ้โห ทำให้นึกถึงเอสกิโมเวลาที่เค้าอยู่กันในบ้านน้ำแข็งเลย … สีฟ้าๆ จากแสงด้านนอกที่ทะลุเข้ามาสวยงามจริงๆ และลายเส้นเป็นชั้นๆ ก็เห็นได้ชัดเจนที่ตามผนังถ้ำ บอกถึงกลาเซียร์ที่ค่อยๆ ทับถมในแต่ละปี โดยเส้นที่มีสีออกดำๆ หน่อย ก็คือปีที่ภูเขาไฟบนเกาะระเบิด พ่นขี้เถ้าดำปุ๋ยๆ ออกมาทั่วเกาะ จนต้องปิดน่านฟ้า และเครื่องบินในยุโรปต้องยกเลิกกันไปหลายไฟลท์ ตามที่มีข่าวออกกันครึกโครมนั่นเอง ยังจำกันได้มั้ย :)
เป็นเส้นริ้วๆ
สีฟ้าจากแสงด้านนอกทะลุเข้ามา
มีเจาะเป็นห้องต่างๆ
ขอยกเท้าขึ้นแพร้บ แบบว่าหนาวเท้ามาก
นอกจากนี้ก็มีห้องที่ทำเป็นโบสถ์ ไว้ต้อนรับคู่หนุ่มสาวที่อยากจัดงานแต่งงานภายในนี้ด้วย … แต่หัวหน้าทัวร์บอกว่า ช่วยอย่าเอากลีบดอกกุหลาบมาโปรยแถวนี้นะ เพราะเวลาอยู่บนพื้นหิมะขาวๆ แล้วมันดูเหมือนเลือดสาดมากกว่า 555
มีโบสถ์ด้วย
คุณพี่หน้าปากถ้ำดูชิลมาก ไม่หนาวเลยเนอะ
ขากลับหัวหน้าทัวร์แจกนมช็อคโกแลตให้คนละกล่อง เพราะรู้ว่าลูกทัวร์หิวกันแน่ๆ แต่แหม มาแจกของเหลวกันตอนนี้เนี่ยนะ ทำไมไม่แจกขนมปังหรือบิสกิตไรงี้ เฮ้อออ
เบ็ดเสร็จเราใช้เวลาไปกับ Into the Glacier Langjokull กันประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ เริ่มทัวร์ตอนเที่ยงครึ่ง (บวกกับที่เลทเพราะรอคนหน่อยๆ) ตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบ 5 โมงเย็นแล้ว จากนั้นก็วิ่งกันยาวๆ 135 ก.ม. ตรงดิ่งไป Reykjavik รวดเดียวแบบไม่แวะเลยค่ะ เพราะก็อยากจะมีเวลาแวะชิมร้านอาหารดีๆ กับเค้ามั่งเหมือนกัน 555
ซึ่งก็สมหวังจริงๆ (แต่สงสัยจะเก็บกดมาหลายวัน แถมดูท่าพรุ่งนี้วันสุดท้ายก็ไม่น่าจะมีเวลาแล้ว) ค่ำคืนนี้เลยได้ละลายทรัพย์กันจัดหนักเลย น้ำตาซึมเพราะอร่อยโฮกหรือเพราะตังค์หมดก็ไม่รู้สินะ 555
บิลนี้ทำน้ำตาร่วง
บทความทั้งหมด
แนะนำเส้นทางเที่ยวยุโรป
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 1 – Route plan & Reykjavík town center
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 2 – น้ำตก Seljalandsfoss, Skógafoss, ผาหินบะซอลต์
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 3 – Svartifoss, Jökulsárlón, Vesturhorn
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 4 – Myvatn
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 5 – Snow dog, Goðafoss, Akureyri
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 6 – Hvítserkur, Kirkjufellsfoss
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 7 – Into the Glacier Langjokull
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 8 – Golden Circle
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 9 – แถม 1 วันที่ Copenhagen
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น