มิสกะโปโล และ ทิปิจัง ขอนำเสนอ บล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ทุกท่านที่สนใจค่ะ

9 กันยายน 2561

ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 8 – Golden Circle


เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้เที่ยวกันเต็มๆ ในไอซ์แลนด์ ซึ่งตามแผนเราจองวันนี้ไว้สำหรับเส้นทางยอดนิยม Golden Circle ที่ไม่ไกลจากเมืองหลวง Reykjavik เท่าไรนัก โดยที่จัดไว้วันสุดท้ายก็เพราะเผื่อไว้ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ฟ้าฝนลมพายุไม่เป็นใจระหว่างเส้นทางวนรถรอบเกาะเข้าจริงๆ จนทำให้การเดินทางไม่เป็นไปตามเป้า อย่างน้อยก็จะมีวันนี้อีกวันให้กลับมาตั้งตัวได้ทัน และไม่ตกไฟลท์กลับบ้านนั่นเอง


แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมาอากาศเป็นใจสุดๆ (แค่มีฝนตกหน่อยๆ เมื่อวานซืน) จึงทำให้เที่ยวได้ครบตามแผน และยังเหลือวันนี้อีก 1 วันเต็มสำหรับเส้นทาง Golden Circle ซึ่งประกอบด้วย 3 หมุดใหญ่ๆ คือ  Þingvellir national park, Geysir และ Gullfoss … แต่ระดับกะโปโลแก๊งส์เนี่ย จะเตรียมมาแค่ 3 หมุดสแตนดาร์ดได้อย่างไร นี่ค่ะ แพลนเตรียมไว้อีกเพียบเลย เพื่อให้สามารถขับวนได้เป็นวงกลมไม่ซ้ำเส้นทางไปกลับ ซึ่งรวมถึงน้ำตก Bruarfoss น้ำตก Faxi และปากปล่อง Kerið ด้วย … เอาเข้าจริงจริงจะมีเวลาให้เที่ยวได้ขนาดไหน 555 อย่างน้อยมีรถขับเองก็ดีตรงนี้แหละ เพราะมัน flexible มาก อยากจะเที่ยวตรงไหนสั้นยาว หรือปรับเปลี่ยนแผนยังงัยก็เรื่องของเรา เท่าที่เวลายังมีและแรงยังไหว

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

Booking.com


ซิงเควลลิร์ (Þingvellir national park)

จากที่พักใน Reykjavik เราขับรถกันไป 50 ก.ม. ก็มาถึงอุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Þingvellir national park) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เป็นรอยเชื่อมระหว่างเปลือกโลกยูเรเซียกับอเมริกาเหนือ และได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกกับยูเนสโกเสียด้วย จอดรถกันแถวๆ Hakið visitor center ด้านบน แล้วมาท้าลมหนาวเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวมากมายเพื่อชื่นชมวิวสวยๆ เสร็จ ต่อจากนั้นที่เด็ดกว่าคือเส้นทางไฮกิ้ง ที่แค่ชมน้ำตก Öxarárfoss, กำแพง Lögberg (หรือ Law Rock เพราะแต่ก่อนเป็นเหมือนศาลตัดสินคดีประจำเมือง) แล้วเดินวนเป็นวงกลมกลับตามเส้นทางที่ไม่ซ้ำเดิม ก็ล่อไปเกือบเที่ยงแล้ว … วันนี้ฟ้าเปิด อากาศดีมาก รูปสวยสุดๆ แบบที่เพื่อนอีกกลุ่มที่มาเที่ยวหลังจากนี้อีก 2-3 วันบ่นอุบ เพราะเจอฝน ได้ภาพมาแบบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสถานที่เดียวกันเลย

เริ่มต้นเส้นทางไฮกิ้งที่ซิงเควลลิร์ (Þingvellir national park)

เปลือกโลกสวยๆ บนกำแพง Lögberg 

มื้อเที่ยงวันนี้ มีแซนวิชที่เตรียมมาเป็นมื้อประหยัดและสะดวกที่สุด กินกันง่ายๆ บนลานจอดรถนี่แหละค่ะ (ดีที่เตรียมมา หาร้านอาหารแถวนี้คงไม่ง่าย) จากนั้นเวลายังเหลือเฟือ เลยจัดคอร์สนอก 3 หมุดหลักของ Golden Circle มาแทรกเสียเลย ซึ่งก็คือน้ำตก Bruarfoss ที่เค้าว่ากันว่าสวยมากๆ สวยจัดเต็ม … แต่ก็เตรียมเลอะสุดๆ ด้วยเช่นกัน

สิ่งที่พลาดสำหรับพวกเราในวันนี้ ก็คือการได้เห็นป้าย Bruarfoss official parking แล้วดีใจกันเกินหน้าเกินตา หาเรื่องจอดกันตรงนั้น แม้เช็คจาก google map แล้วจะดูน่าปาดเหงื่อเล็กน้อยที่ต้องเดิน 3 ก.ม. กว่าๆ ถึงน้ำตก (ไปกลับก็ 7 ก.ม. สินะ) แต่เพราะคำว่า official นี้เองที่ทำให้ตัดสินใจทิ้งรถไว้ตรงนั้นแล้ว “ลุย” กันไป

จาก Bruarfoss Official Parking ก็มาเจอฟาร์มม้าก่อนเลย

แล้วก็จะเริ่มแฉะขึ้นๆ

อุแม่เจ้า แม้จะเตรียมใจมาหน่อยๆ แล้ว แต่เส้นทางตอนแรกที่ว่าเลอะน้อยๆ แล้ว ยังแฉะได้ขนาดนี้ พอยิ่งต้องไต่เขาเดินเลียบลำธาร ถ้าไม่ใจกล้าพอจะเอาเท้าจุ่มโคลนตูมลงไป ก็ต้องเข้ารกเข้าพงหาเส้นทางอื่นทุลักทะเลอยู่เหมือนกัน เป็นการก้าวไปข้างหน้าแบบที่ทำให้เครียดได้ในทุกก้าวเลย พับผ่าสิ กว่าจะถึงน้ำตกคงเสียสภาพกันถ้วนหน้า สายลุยแต่ละคนที่เดินสวนผ่านมาก็มีสภาพดูไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่นะ อีกแพร้บพวกเราคงไม่ต่างจากเค้า 555

เฮ้ย มันต้องปีนกันแบบนี้ด้วย 555

แฉะขึ้นเรื่อยๆ นี่ยังน้อยนะ หึๆๆ

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Find MsKapolo and Behind-The-Design-Story on Facebook

ไม่ไหวแล้วค่ะ ถ้าลุยต่อมากกว่านี้ สงสัยจะไม่ได้ไปต่อจนครบเส้นทาง Golden Circle นี้แน่ ทั้งกางเกงและรองเท้ากันน้ำเทคโนโลยีกอร์เท็กซ์ สภาพตอนนี้ดูไม่จืดเลย กลายเป็นวันสุดท้ายของทริปไอซ์แลนด์ที่เลอะเทอะสุดๆ ผ่านมาครึ่งทางแล้วก็เลยตัดใจค่ะ พลิกตัวหาเส้นทางออกสู่ถนนใหญ่ (ซึ่งก็ไม่ง่ายนะ เลอะได้อีกยก เจอกองหิมะขาวๆ ตรงไหนเป็นต้องเอาเท้าจุ่มหวังปาดโคลน 555) และไฮกิ้งย้อนกลับไปอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะถึง Official Parking ของน้ำตกสุดสวยนี้ … ระหว่างทางก็พบนักท่องเที่ยวไทยประปราย ซึ่งดูจากสภาพแล้วคิดว่าเค้าคงจอดรถใกล้กว่า Official Parking ของเราแน่ๆ ขอให้โชคดีเจอน้ำตกสวยๆ แบบเลอะน้อยๆ นะ แต่กะโปโลแก๊งขอบ๊ายบายแต่เพียงเท่านี้ค่ะ

ความสวยของสายน้ำจาก Bruarfoss ที่พบเห็นได้ระหว่างทาง ... สวยพอละ ไม่ต้องไปถึงจริงๆ หรอก 55

หอบแฮ่กกันมาถึงรถจนได้ โหว หิวโซขนาดที่แซนวิชมื้อกลางวันไม่พอแล้วเลย มีขนมอะไรเหลืออยู่ตอนนั้นก็เกลี้ยงรถ ถือเป็นการเก็บกวาดชั้นดีจริงๆ … และเราก็มาถึง Geysir กันตอนประมาณ 4 โมงเย็น visitor center ยังเปิดอยู่ แต่ร้านอาหารก็ปิดไปแล้ว ได้เข้าห้องน้ำเช็ดกางเกงล้างเท้าหน่อยๆ ก็เริ่มยิ้มออก แต่แรงก็หดหายไปเยอะ และแม้ว่าจะยังต้องเดินอีกหน่อยๆ เพื่อเข้าไปดู Geysir แต่ขามันก็ก้าวได้ยากขึ้นละ 55

มาถึงตรงนี้แล้วต้องฮึดสูค่ะ ฮึบๆๆ แล้วก็มาถึงตำแหน่งเฝ้าชม Geysir อันใหญ่ที่สุดที่ยัง active อยู่จนได้ ซึ่งน้ำร้อนใต้พิภพจะระเบิดพุ่งขึ้นมาทุก 5-10 นาที หลังสะสมพลังงานเพียงพอในแต่ละรอบ … จริงๆ มันมีอันใหญ่กว่าและเป็น original อยู่ข้างๆ แต่แน่นิ่งไปนานแล้ว ดีที่มีอันที่ยัง active อยู่ปัจจุบันนี้มาแทน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 แต่พุ่งสูงได้ไม่เท่า (เค้าว่าอย่างนั้น) … แต่แค่นี้พวกเราก็ตื่นเต้นกันมากแล้วนะ อยู่ท้าลมหนาวรอชมกันได้ตั้งหลายรอบแน่ะ

อันนี้บ่อเก่า original ที่แน่นิ่งไปแล้ว




Slow motion ตอนระเบิดมาให้ดูกันเต็มๆ เลย

จากนั้นก็ไปต่อที่ปักหมุด Golden Circle สแตนดาร์ดอันสุดท้าย คือน้ำตก Gullfoss ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกทองคำ หรือไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์เลยทีเดียว แต่มาถึงฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว … และพอดีว่ากะโปโลแก๊งส์ได้ไปเจอแบบที่สวยสุดยอดในวันที่แสงดีสุดๆ ที่ Godafoss หรือน้ำตกแห่งพระเจ้าทางตอนเหนือไปแล้วเมื่อก่อนหน้า ทำให้น้ำตกทองคำแห่งนี้ดูเล็กน้อยไปเลยสำหรับพวกเรา ถ่ายรูปแพร้บๆ เสร็จก็ขึ้นรถเตรียมดิ่งกลับที่พัก … แล้วก็ขับกลับทางเดิมที่มานั่นแหละค่ะ เพราะไฮกิ้งคอร์ส Bruafoss ทำเอาหมดแรงไปเสียแล้ว 55

สวยแบบ Gullfoss รึจะสู้ Godafoss ได้ ฮึ?

ขนมส่วนใหญ่เคลียร์หมดเรียบร้อยแล้ว แต่อาหารกระป๋องและอาหารแห้งอื่นๆ ยังอีกเพียบ เมื่อวานกินหรูจนกระเป๋าฉีกไปแล้ว มาเย็นวันนี้ก็เคลียร์ของที่ขนมาให้หมดเกลี้ยงกันที่บ้านพักนั่นแหละ จากนั้นก็ได้เวลาแพ็คกระเป๋าเตรียมขึ้นเครื่องกลับในเช้าวันรุ่งขึ้น

… แต่ทริปนี้ยังเหลืออีก 1 วันแถมที่โคเปนเฮเกนนะคะ … ก็มันจำเป็น เพราะเวลาต่อเครื่องมันไม่ได้ … ซึ่งก็สนุกดีค่ะ ได้ปิดทริปในเมืองใหญ่ (กว่าทุกเมืองในไอซ์แลนด์) ซักหน่อยก็ดีเหมือนกัน … จบแบบไม่มีเลอะเทอะในเมือง :)


http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_7.html http://travelismylifeblog.blogspot.com/p/blog-page_8.html    

บทความทั้งหมด
แนะนำเส้นทางเที่ยวยุโรป
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 1 – Route plan & Reykjavík town center
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 2 – น้ำตก Seljalandsfoss, Skógafoss, ผาหินบะซอลต์
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 3 – Svartifoss, Jökulsárlón, Vesturhorn
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 4 –  Myvatn
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 5 – Snow dog, Goðafoss, Akureyri
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 6 – Hvítserkur, Kirkjufellsfoss
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 7 – Into the Glacier Langjokull
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 8 – Golden Circle
ทริปไอซ์แลนด์ ตอน 9 – แถม 1 วันที่ Copenhagen

https://www.facebook.com/Travelismylifeblog/

 Visit MsKapolo shop on Etsy.com

Booking.com

http://www.shutterstock.com/g/tipwam?rid=3993592

http://www.shutterstock.com/?rid=3993592

http://submit.shutterstock.com/?ref=3993592

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น