เมืองหลวงของจังหวัดอิวาเตะ คือเมืองโมริโอคะ (Morioka) ซึ่งอยู่ถัดจากเมืองมรดกโลกฮิไรซึมิ ขึ้นไปทางเหนืออีกหน่อย ถือเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งทีเดียว โดยเฉพาะในด้านศูนย์กลางการคมนาคม เพราะในการเดินทางจากโตเกียวสู่ภูมิภาคโทโฮขุโดยรถไฟหัวกระสุนชินคันเซนนั้น เมื่อผ่านเมืองเซนไดแล้ว ถัดขึ้นมาก็คือโมริโอคะ แล้วหลังจากนั้นจะแยกซ้ายไปอาคิตะ หรือจะขึ้นเหนือต่อไปจนสุดถึงอาโอโมริ ชินคันเซน 2 ขบวนที่เคยกระหนุงกระหนิงเกาะเกี่ยวกันมาแต่แรก จะสะบัดบ๊อบแยกร่างกันที่เมืองโมริโอคะนี้เอง ดังนั้น จะเห็นว่าเวลาจะโดยการขบวนชินคันเซนที่วิ่งขึ้นเหนือสายนี้ เค้าจะบังคับให้ต้องจองที่นั่งเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารจะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ถูกต้องนั่นเอง … ซึ่งภาพการแยกร่างแบบรีลไทม์ของรถไฟหัวกระสุนนี้ จะมีเด็กๆ (และผู้ใหญ่ผู้แก่) มามุงดูอยู่ด้วยความตื่นเต้น เหมือนดูหุ่นยนต์แปลงร่างในการ์ตูนเลย
วังโคะโซบะ ของดีอาวาเตะเค้าละ
ตื่นเต้นกับชินคันเซนแยกร่าง แต่น แตน แต๊น
ถ้าพูดถึงสถานที่เที่ยว โมริโอคะเค้าอาจไม่ค่อยมีให้ดึงดูดเท่าไรนัก ปล่อยให้นักท่องเที่ยวไปเก็บเกี่ยวเอาแถวเมืองมรดกโลกทางใต้ หรือแถบชายทะเลด้านตะวันออกแทน … แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าเป็นเรื่องอาหารการกินละก็ โมริโอคะเค้าไม่แพ้ใครนะ เพราะมีเมนูเส้นของดีเป็นศักดิ์เป็นศรีของเมืองถึง 3 รายการแน่ะ (ซึ่งจริงๆ ก็สามารถหาทานได้บ้าง ที่เมืองอื่นในจังหวัดอิวาเตะเช่นกัน) เมนูแรกเลยคือ หมี่เย็นโมริโอคะ หรือโมริโอคะเรเมง (reimen) ซึ่งหาได้ไม่ยากในร้านเนื้อย่างสไตล์เกาหลี เพราะเมนูนี้ถือกำเนิดจากประชากรชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในแถบนี้นี่เอง จึงเป็นหมี่เย็นเส้นดึ๊งหนืด ที่แอบเพิ่มเติมความเผ็ดร้อนของกิมจิในน้ำซุปปะแล่มๆ แถมด้วยผักผลไม้โทนเย็นๆ อย่างเช่น แตงกวา หรือแตงโม เป็นท้อบปิ้งหวานฉ่ำ ตัดกับรสจัดจ้านของกิมจิได้อย่างลงตัวไม่น่าเชื่อ
เมนูที่สองคือจาจาเมง (jajamen) เป็นเมนูเส้นอุด้ง เสริฟพร้อมเนื้อหมักมิโซะ ที่ออกแนวจีนเล็กน้อย แต่ทิปิจังไม่ได้ชิมเมนูนี้ด้วยตัวเองหรอกนะคะ เพราะมีกระเพาะไม่พอรองรับน่ะสิ แต่ไม่พลาดไปลองเมนูเส้นแบบที่สาม คือ วังโคะโซบะ (wanko soba) ที่ดูจะได้อรรถรสจากสไตล์การเสริฟที่ไม่เหมือนใครแน่นอนค่ะ
เมนูวังโคะโซบะจะเน้นที่ความสดใหม่ และรสชาติอันดื่มด่ำของเส้นโซบะ ในปริมาณหนึ่งคำต่อหนึ่งถ้วย (แต่สำหรับทิปิจังอาจเป็น 2 คำก็ได้นะ คำใหญ่จัง 555) โดยวิธีการเสริฟมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบใหญ่ๆ แบบแรกจะมีพนักงานเสริฟประกบลูกค้าเป็นคนๆ เมื่อซดโซบะถ้วยแรกเสร็จปุ๊บ พนักงานจะเติมถ้วยใหม่ลงตรงหน้าปั๊บ เรียกว่าว่างเมื่อไหร่เป็นเติม และจะเติมดังนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าลูกค้าจะคว่ำถ้วย ส่งสัญญาณว่า พอแล้ว ไม่ไหวแล้วจ้า ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้น บางคนก็อาจจบมื้อนั้นไปพร้อมกับถ้วยเปล่าของวังโคะโซบะ ที่กองพะเนินเป็นร้อยเลยก็ได้ เพราะเมื่อมีการแข่งขันกินวังโคะโซบะนี้เมื่อไหร่ จะเกิดสถิติใหม่ขึ้นชาร์จแทนที่ของเก่าทุกครั้งไป
ส่วนแบบที่สอง เป็นแบบที่ปฏิบัติในร้านทั่วไป รวมทั้งร้านที่ทิปิจังพามาเยือนนี้ด้วย คือแทนที่จะมีพนักงานประกบ เค้าก็จัดวังโคะโซบะมาเป็นเซ็ตสำหรับ 1 ที่ ในปริมาณที่ละ 24 ถ้วย เสริฟมาบนถาดสองชั้นๆ ละหนึ่งโหลพอดี พร้อมอาหารและกับแกล้มอย่างอื่นจัดเตรียมไว้เรียบร้อย มาแบบนี้กินหมดไม่หมดทางร้านไม่รู้ด้วยละ แต่ถ้าไม่พอก็สั่งเพิ่มอีกเซ็ตเลยสิจ๊ะ … ให้อิ่มแน่ๆ กันไปเลย
มาเป็นเซ็ต ซ้อนถาด 2 ชั้น
อาศัยมุมภาพ ดูอลังการดีแท้ จะกินหมดมั้ย 555
วังโคะโซบะ อิ่มแน่ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น