ยังอยู่ที่เมืองอิจิโนะเซคิ จังหวัดอิวาเตะกันค่ะ คราวนี้จากสถานี JR Ichinoseki ยังต้องต่อรถไฟโลคัลอีกประมาณครึ่งชั่วโมงมุ่งสู่ตะวันออก เพื่อไปสำรวจธรรมชาติในสถานที่ๆ เรียกว่าเกบิเค (猊鼻渓) ซึ่งออกเสียงใกล้เคียงกับเกมบิเค (厳美渓) ทางฟากตะวันตกในบล็อกก่อนนี้ แต่ความหมายนี่คนละเรื่องเลย ถ้าแปลตรงตัว เกบิเค ก็คือภูผาจมูกสิงห์ ที่ดูราศีจับจนน่าเกรงขามตั้งแต่ชื่อ แถมหน้าผาที่เกบิเคนี้ก็ไม่ใช่โตรกธารเตี้ยๆ เหมือนดังที่เกมบิเค และยังมีเรือแจวแบบพื้นเมืองให้ได้ล่องชมธรรมชาติสวยๆ อีกด้วย
ล่องเรือแจวแบบพื้นเมืองที่ Geibikei
สถานี JR Geibikei
ซื้อตั๋วล่องเรือได้ที่ตึกตรงหน้าเลยค่ะ
กิจกรรมชิลๆ ที่ริมตลิ่ง
มาถึงสถานี JR Geibikei แล้ว ให้เดินออกจากสถานีแล้วเลี้ยวขวาโลดเลยนะคะ เพราะตามแผนที่แม้ท่าเรือจะอยู่ด้านหลังของสถานีรถไฟแค่นี้เอง แต่เผอิญว่ามีภูเขาคั่นเป็นลูกอยู่ระหว่างกลาง เลยต้องกระเต็งอ้อมเขาไปที่ท่าเรือค่ะ การล่องเรือที่เกบิเคนี้ใช้เวลารวมเกือบๆ 90 นาที คุณลุงผู้แจวเรือจะถือไม้ยาวๆ ไว้อันนึง ใช้จิ้มลงไปในน้ำให้ถึงพื้น แล้วดันเรือให้วิ่งไป (จะเรียกว่าแจวหรือถ่อดีนะ แบบนี้) ดูๆ แล้วลำน้ำนี้ไม่ลึกเลย ใสแจ๋วเห็นปลาว่ายไปมาชัดเจน ระหว่างทางคุณลุงผู้แจวก็บรรยายไปเรื่อยเปื่อย ว่าเขาลูกนี้ลูกนั้นชื่ออะไร ทำไมจึงได้ชื่ออย่างนั้น เดือนไหนมีปรากฏการณ์อะไรให้เห็นเป็นพิเศษ และปลาที่ว่ายอยู่ชื่ออะไร เป็นต้น (เป็นภาษาญี่ปุ่นนะ) นอกจากนี้ยังแอบตื่นเต้น เวลามีเรือลำอื่นแจวสวนลำของพวกเราไป พร้อมกับเสียงร้องเพลงชาวเรือพื้นบ้าน ก็ลุ้นๆ ว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวเปิดเวทีของลำพวกเราบ้างนะ
ผู้โดยสารพร้อม
คุณลุงเล่าอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยๆ
น้ำใสเห็นตัวปลา
วิวถ้ำ วิวผา ระหว่างทาง
ผ่านมาครึ่งทางก็นึกสงสารคุณลุงอยู่เหมือนกัน แจวเรือแบบนี้จะเหนื่อยมั้ย วันๆ ต้องแจวกี่รอบเนี่ย แต่พอเอาเข้าจริงก็มีเวลาให้คุณลุงได้พักบ้าง ประมาณ 20 นาที เมื่อล่องมาถึงจุดที่ตื้นมากๆ ขนาดที่เรือท้องแบนที่โดยสารมานี้ ยังไม่กล้าแจวผ่านเข้าไปเลย คุณลุงเทียบท่าให้ผู้โดยสารได้ลงจากเรือ ไปยืดเส้นยืดสายบนภาคพื้นดิน เดินไปสุดทางก็พบโตรกผา มีโพรงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ฝั่งตรงข้าม คือเป้าหมายอันท้าทายของผู้มาเยือน ว่ากันว่าถ้าโยนหินทำนายโชค หรืออุนดามะ ซึ่งปกติจะวางขายแถวนั้น ชุดละ 5 ก้อน 100 เยน แต่ละก้อนมีคันจิเขียนบอกไว้ ว่าเป็นหินแห่งความสุขหรือโชคลาภประเภทใด ถ้าสามารถโยนข้ามลำธาร ไปตกลงในโพรงนั้นได้เป๊ะๆ พรความสุขข้อนั้นๆ ก็จะเป็นจริง
แต่เนื่องจากตอนทิปิจังไปถึง อุนดามะคงจะขายดิบขายดีจนหมดเกลี้ยงแล้วแต่หัววัน จึงอาศัยเพียงก้อนหินริมน้ำแถวนั้นนั่นแหละ ปากันเองตามใจชอบเลย แต่ปากี่ทีๆ ก็ไม่เห็นจะเข้าเป้าซักที ดีแล้วที่อุนดามะเก็บร้านไปก่อน ไม่งั้นคงหมดตัวตั้งแต่ก่อนได้โชคลาภแน่เลย
ก่อนขึ้นเรือกลับมีโอกาสได้เจ๊าะแจ๊ะสัมภาษณ์คุณลุงนิดนึง ได้ความว่าวันหนึ่งๆ คุณลุงต้องแจวเรือรับส่งนักท่องเที่ยว 2-3 รอบ แต่ถ้าช่วงพีคอาจถึง 4-5 รอบก็มี โอ้โห น่าจะเหนื่อยพอตัวเลยนะ และในระหว่างนั่งเรือขากลับ คุณลุงก็ไม่อธิบายเนื้อหาซ้ำซากแล้ว แต่เปิดเวทีร้องเพลงชาวเรือ หรือฟุนะอุตะ ให้ฟัง ซึ่งเนื้อเพลงเก่าแก่ตั้งแต่นานมาแล้ว สมัยบรรพบุรุษของคุณลุงนู่นแน่ะ
ที่ทำการออกตั๋วข้างท่าเรือ
กังหันลมจิ๋วประยุกต์ตามวิถีชาวบ้าน
เสร็จจากล่องเรือก็นั่งรถไฟกลับมายังอิจิโนะเซคิอีกครั้ง เพื่อแวะหาของดีท้องถิ่นเป็นมื้อค่ำแสนอร่อย ซึ่งสำหรับใครที่ภาษาญี่ปุ่นแข็งแรง ทิปิจังขอนำเสนอร้านอาหารที่มีชื่อว่า เซคิโนะอิจิ ที่เล่นคำเล่นเสียงได้สลับหน้าหลังกับชื่อเมืองดีแท้ (แต่ก็มีคันจิเฉพาะของตัวเอง) ร้านอยู่ห่างจากสถานีในระยะเดินเท้าประมาณ 15 นาที นอกจากเป็นร้านอาหาร ยังเป็นโรงบ่มเหล้าสาเกเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ถ้ามาเร็วกว่านี้หน่อย คงได้ลั้นลาชมโรงงาน ที่ใช้ถังบ่มขนาด 10 คนลงไปนั่งได้ด้วยแน่ๆ
และเมนูขึ้นชื่ออย่างแรกของพวกเรา ก็คืออาหารชุดโมจิ ในชุดมีโมจิถึง 4 ชนิด ได้แก่ อังโคะ หรือถั่วแดงบดรสหวาน ซุนดะ ทำจากถั่วเขียวฝัก บดเป็นแยมรสเค็มๆ มันๆ คุโรโกมะ หรืองาดำบด และไดคง หรือซอสหัวไชเท้า แซมด้วยเห็ดเอโนคิ ซึ่งรสชาติต่างๆ ดังกล่าวอาจแตกต่างไปบ้างขึ้นกับฤดูกาล แต่ทั้งนี้แนะนำให้รับประทานเรียงตามลำดับ เพื่อตัดรสหวานด้วยรสที่จัดจ้านกว่านั่นเอง
อีกหนึ่งเมนูถัดมา คือ ฮัตโตะ นาเบะ หม้อร้อน ที่ปรุงขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่นล้วนๆ และที่เหมือนกันทั้ง 2 เซ็ตนี้ ก็คือซุบโซนิ ที่มักพบในงานเทศกาลสำคัญ เช่นปีใหม่ ก็ดูไฮโซมากทีเดียว (คนเสริฟบอกอย่างนั้น) ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถูกจัดเตรียมพร้อมไว้เสร็จสรรพบนโต๊ะอาหาร ต้อนรับการมาของพวกเรา เพียงเพราะอีเมล์จองล่วงหน้าแบบไม่มีมัดจำใดๆ (เค้าเชื่อใจมากเลย ใครอย่าทำเสียชื่อเด็ดขาดเลยนะ) เสริฟพร้อมน้ำเปล่าคุณภาพดี แบบที่ใช้ผลิตเหล้าสาเกชั้นดีของที่ร้านนั่นเอง ใครอยากทดสอบรสชาติพื้นเมืองของร้านเซคิโนะอิจินี้ ย้ำอีกที ภาษาญี่ปุ่นต้องแข็งแรงนิดนึงนะคะ สู้ๆๆ ค่ะ
ล่องเรือที่เกบิเค Ichinoseki, Iwate
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น