พอก้าวลงจากขบวนรถไฟชินคันเซนที่สถานีอาคิตะปุ๊บ ผู้มาเยือนหน้าใหม่ก็ได้การต้อนรับแบบจัดเต็มปั๊บ สมศักดิ์ศรีเทศกาลใหญ่ระดับประเทศ บรรยากาศแสนจะครื้นเครงตั้งแต่ในสถานี การประดับประดารอบๆ ดูตื่นตา แถมด้วยออกร้านมากมาย ที่ยกขบวนของดีอาคิตะมารวมกัน ให้นักเดินทางได้เป็นปลื้ม … และอิ่มฟรีเกือบทุกร้าน อิอิ
เทศกาลคันโต ที่เมืองอาคิตะ (Akita Kanto festival) แปลตรงตัวก็คือเทศกาลแท่งโคมไฟ โดยมีไฮไลท์อยู่ในช่วงหัวค่ำ เมื่อแท่งโคมหรือคันโตที่จุดสว่าง ถูกตั้งขึ้นด้วยความสามารถเฉพาะตัว ที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีของเหล่านักแสดง จนเต็มพรึ่ดทั่วทั้งถนนสายหลักใจกลางเมือง ดูคล้ายรวงข้าวสีทอง ที่พริ้วไหวบนฉากอันมืดมิดในยามค่ำคืน ซึ่งนอกจากจะเป็นเทศกาลเพื่อความบันเทิง และประกวดแข่งขันแล้ว ก็ยังเพื่อขอพรให้การเก็บเกี่ยวในปีนั้นๆ ได้ผลดีอีกด้วย
แถวๆ สถานีรถไฟ ออกมาก็เจอแบบนี้เลย
ริมคลองก็ได้บรรยากาศ
ทีมนี้เตรียมการกันอยู่
ซักซ้อมกันไป
ฝ่ายผู้ชมก็เฝ้ารอ
สิ้นเสียงนกหวีดเป่า ปรี๊ด ก็เป็นสัญญาณเริ่มต้นของงานเฉลิมฉลองภาคดึก ทีมปี่พาทย์และกลองไทโคะทำหน้าที่เปิดงาน ออกตัวนำขบวนเข้าสู่เวทีการแสดง ตามด้วยคันโตขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งประกอบขึ้นจากแท่งไม้ไผ่นำมาสานขัดกัน และห้อยระย้าด้วยโคมกระดาษจำนวนมาก ซึ่งจุดสว่างจากเปลวเทียนของจริง จุดไฟกันจริงๆ ไม่ใช้หลอดไฟฟ้านะ จะบอกให้ … และคันโตก็มีหลายขนาด ตั้งแต่เล็กๆ สำหรับเด็ก ขนาดกลางสำหรับเด็กโต และบิ๊กบึ้มเลยสำหรับผู้ใหญ่ ที่ใหญ่ที่สุดสามารถวัดความกว้างได้ 12 เมตร และหนักถึง 5-60 กิโลกรัมเลยทีเดียว
เตรียมเคลื่อนขบวน
เด็กน้อยก็มา
ใกล้พร้อมแล้วฮับ
อย่าเดินๆ หยุดๆ นะค้าาา
สาวๆ มาร่วมงานเทศกาลใหญ่ ในชุดยุกาตะหน้าร้อน
รถกลองก็พร้อม
จุดโคมเรียบร้อย เตรียมพร้อม 100%
ณ จุดนี้ คันโตกว่า 250 แท่ง ได้เรียงตัวเต็มความยาว 1 กิโลเมตรของถนนทั้งสองฝั่ง เมื่อสัญญาณดังขึ้นอีกครั้ง คันโตที่ทั้งใหญ่เกะกะ และหนักอึ้ง ก็ค่อยๆ ถูกลำเลียงให้ตั้งตรง และส่งขึ้นไปให้สูงที่สุด ด้วยมือเปล่าเพียงข้างเดียว ทำเอาถนนทั้งสายสว่างพรึ่ด อลังการงานสร้างพร้อมกัน ตั้งแต่หัวถนนยันท้ายถนน เรียกเสียงฮือฮาจากผู้มาร่วมงานทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่
ตั้งขึ้นมาแล้ว
จากนั้นผู้แสดงจะทยอยเปลี่ยนท่า ซึ่งท่าเบสิคมีทั้งหมด 4 ท่า จากท่าฝ่ามือทรงพลัง ก็กลายเป็นท่าหน้าผาก ท่าไหล่ และท่าบั้นท้าย โดยเพื่อนฝูงในทีมจะมาคอยเฝ้าระวัง และผลัดเปลี่ยนตัวกันอย่างรู้ใจ สลับไปมาแบบนี้ เพื่อให้คันโตของตนยังคงโดดเด่นอยู่บนเวทีกลางแจ้งนี้โดยไม่ล้ม
ท่าฝ่ามือ
ท่าหน้าผาก
ท่าไหล่
ท่าบั้นท้าย ดึ๊บๆๆ
สุดยอดมากๆ ค่ะ นี่ไม่ใช่แค่ฝึกเดี่ยวแล้วจะผ่านนะ ต้องทีมเวิร์คระดับเทพสไตล์ญี่ปุ่น ที่ปลูกฝังมากับประเพณีท้องถิ่น ของแบบนี้ เค้าสอนกันตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ ดูสิคะ ฝ่ายคันโตเด็กไม่น้อยหน้าใครเลย ทั้งเด็กหญิงเด็กชายตัวเล็กตัวน้อย เข้าขบวนเรียงคิวเพื่อทดสอบสนามจริง ทุกคนเคารพกฏกติกาดีมากๆ … หล่นแล้วคือจบนะ ไปต่อคิวใหม่นะ ไม่มีงอแงเลย … โอ้โห รู้ซึ้งเลยค่ะ ระเบียบวินัยของคนประเทศนี้ ไม่ใช่ได้มาเล่นๆ เลยนะ
การแสดงคันโตนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง โดยใช้เวลาทั้งหมด 90 นาทีเต็ม ระหว่างพักจะเคลื่อนขบวนวนเปลี่ยนตำแหน่งไป ในช่วงแรกคันโตส่วนใหญ่ก็ทรงตัวได้ จนตลอดรอดฝั่งดีหรอก แต่พอเข้าสู่ช่วงที่ 2 และ 3 นี่สิ เมื่อต่อแท่งไม้ไผ่ให้คันโตสูงขึ้นเรื่อยๆๆๆ ก็เหมือนจะแข่งกันล้มซะมากกว่า บางทีหล่นเสร็จก็เสียเวลาซ่อมที่ขาดแหว่งเสียหาย และบางครั้ง (แม้จะไม่บ่อย) ที่ขนาดไฟลุกไหม้ ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งโคมก็มี (จะอยู่รอดไปถึงวันสุดท้ายมั้ย 555)
แผนกกลอง มันใหญ่เลย ระรัวๆๆ
มาดูใกล้ๆ เค้าใช้เทียนจุดไฟกันจริงๆ ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ
ฝ่ายผู้ชม ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก นอกจากส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ “ดคคุโช” “ดคคุโช” (โปรดอย่าถามว่าแปลว่าอะไร 555) เริ่มจาก 1 เสียง กลายเป็น 2, 3, 4 และร้อยพันเสียงพร้อมเพรียงกัน … 90 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก การแสดงเสร็จสิ้นแล้ว คันโตทุกแท่งถูกปลดมาวางพักบนพื้นถนน … แต่ฝ่ายปี่พาทย์และกลองยังไม่ยอมจบสิคะ กลองไทโคะขอแย่งซีน ระดมตีรัวๆ อย่างเมามันส่งท้าย ให้ตายเถอะ จังหวะมันจริงๆ เลยนะ และช่วงนี้ ผู้ชมคนไหนอยากทดสอบยกคันโต ก็ลองได้เลย … จะได้รู้ว่าหนักจริง 555 มาพิสูจน์งานเทศกาลคันโตนี้ด้วยตัวคุณเอง สิคะ :)
อลังการ 3 เทศกาลฤดูร้อนแห่งโทโฮขุ ตอน 2 (Akita Kanto, 3-6 ส.ค.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น